คุณแม่ ‘ชุบชีวิตลูกชาย’ ด้วยการผสมเทียมจากสเปิร์มของเขาขึ้นมา จนได้ลูกแฝดจากการอุ้มบุญ

การเสียชีวิต เป็นวงจรตามธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกชีวิต แต่ว่าเมื่อมีการตายเกิดขึ้น ก็อาจทำให้บรรดา เพื่อนฝูง พี่น้อง หรือบรรดาญาติๆ ต้องเศร้าโศกเสียใจกันยกใหญ่ และผู้ที่น่าจะเป็นผู้ที่เสียใจมากที่สุดก็คือ พ่อ-แม่ ที่อาจแทบใจสลายเมื่อได้เห็นการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของลูกๆ

ถึงแม้ว่าเรื่องการตายจะเป็นเรื่องธรรมชาติ ทว่าก็มีแม่ชาวอินเดียคนหนึ่งที่พยายามจะหาตัวแทนของลูกชายที่ป่วยหนักและกำลังจะลาโลกไป เธอจึงตัดสินใจนำสเปิร์มของเขามาทำการผสมเทียม จนในที่สุดเธอก็ได้ลูกชายของเธอกลับคืนมาและที่สำคัญคือยังได้เป็นลูกแฝดอีกด้วย

 

 

โดยคุณแม่คนที่ว่านี้มีชื่อว่า Rajashree Patil ชาวอินเดียวัย 49 ปี ที่ต้องการจะหาตัวแทนให้กับ Prathamesh ลูกชายของเธอที่เสียชีวิตไปด้วยโรคเนื้องอกในสมอง

ในตอนแรกนั้นเธอต้องการที่จะนำสเปิร์มของลูกเธอมาทำการผสมเทียม และเธอจะเป็นผู้ที่อุ้มท้องเอง แต่ทางแพทย์ได้บอกกับเธอว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เพราะว่าเธอได้เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้ว จึงไม่สามารถมีไข่ที่จะนำมาผสมได้นั่นเอง

 

 

แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ความฝันของเธอก็เป็นจริงในที่สุด เมื่อมีหญิงผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งตัดสินใจยอมบริจาคไข่ให้ โดยเธอผู้นี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเธอแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อนำสเปิร์มมาปฏิสนธิกับไข่ แพทย์ก็ได้นำตัวอ่อนนี้มาให้ญาติสนิทเป็นผู้อุ้มบุญให้

การอุ้มบุญครั้งนี้ผ่านไปอย่างไม่มีปัญหาใดๆ และเมื่อถึงช่วงเวลาแห่งการรอคอยก็ปรากฏว่า การผสมเทียมในครั้งนี้ได้ให้กำเนิดลูกแฝดสอง แถมยังเป็นแฝดชายหญิงอีกต่างหาก

โดยเด็กแฝดที่กำเนิดขึ้นมานี้ ทาง Rajashree ก็บอกเอาไว้ว่าเธอจะเป็นผู้เลี้ยงดูเด็กชายหญิงคู่นี้ให้เติบใหญ่ราวกับว่าเป็นลูกของเธอเองเลย

เธอตั้งชื่อให้เด็กชายว่า Prathamesh เหมือนกับลูกชายของเธอที่เสียชีวิตไป และเด็กหญิงก็ได้รับชื่อว่า Prisha ตามชื่อน้องสาวของเธอที่จะมาเป็นผู้ช่วยในการเลี้ยงดูเด็กทั้งสองให้เติบโตขึ้นนั่นเอง

 

หน้าตาของ Prathamesh

 

“คุณหมอได้เก็บสเปิร์มของลูกชายฉันไว้ ก่อนที่พวกเขาจะทำการรักษาโรคมะเร็ง เพราะตัวยาอาจจะส่งผลเสียต่อเสปิร์มได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฉันสามารถนำจิตวิญญาณของลูกชายฉันกลับมาได้” Rajashree กล่าว

Prathamesh ได้ศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ในประเทศเยอรมนี และที่นั่นเองก็เป็นที่เดียวกับที่เขาได้รับวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในสมอง

ทางแพทย์ที่เยอรมนีจึงได้เก็บสเปิร์มของเขาเอาไว้ก่อนที่รักษาโรคดังกล่าว แต่ด้วยความที่เขายังไม่แต่งงาน เขาจึงได้เขียนชื่อแม่กับน้องสาวเธอเอาไว้ว่า เป็นผู้ที่สามารถนำตัวอย่างสเปิร์มของเขาไปใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ซึ่งการรักษาของเขาก็ดูจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่เขาก็กลับทรุดตัวอย่างหนักลงในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 และเขาก็ได้เสียชีวิตไปในที่สุด

 

ที่มา: dailymail

Comments

Leave a Reply