“จะมาก็มา ไม่มาก็ไม่ง้อ” เหตุผลที่ Man City ล้มดีล Alexis Sanchez ซะงั้น!?

 

ช่วงกระแส Alexis Sanchez นักฟุตบอลทีมปืนใหญ่ Arsenal ที่จะย้ายไป Manchester United กำลังมาแรง เลยอยากจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับความหยิ่ง (ขี้เหนียว) ของทีมเรือใบในช่วงหลังนี้หน่อย

เป็นที่รู้กันว่า Man City ขึ้นชื่อเรื่องการทุ่มเงินมาเสริมกำลังทัพ ไม่ว่าต้องการเท่าไรป๋าก็พร้อมจะเปย์ตลอด แต่หลายคนสงสัยว่าในเคสของ Alexis ทำไมทีมทำตัวไม่กล้าทุ่มซะงั้น

ผมไปเจอบทความจากคุณ Sam Lee นักข่าวของ Goal ที่เขียนถึงเรื่องศักดิ์ศรีของทีัมซื้อขาย Man City ในช่วงหลังแล้วมันน่าสนใจดี

 

 

ย้ายมาตอนนี้ หรือไม่มีโอกาสย้ายอีกแล้ว…

ตั้งแต่ Pep เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมเนี่ย จากนโยบายที่ทีมเรือใบ Manchester City อยากได้ใครก็ต้องตื๊อจนกว่าจะได้ ทุ่มเงินค่าตัวและค่าจ้างเยอะๆ ไปจนนักเตะอยากจะย้ายมาร่วมทีม มันกลายเป็นนโยบายประเภท Now or Never

นักเตะคนไหนที่อยากจะมา Man City คือต้องอยากมาจริงๆ ถ้าปฏิเสธเมื่อไรทีมก็จะไม่หันกลับไปหาอีกเลย

 

เรื่องนี้เริ่มมาจากไหน พวกเขาคิดถูกแล้วหรือ!?

คนแรกที่เข้าเคสนี้คือ Laporte กองหลังแห่งบิลเบา ตอนช่วงซัมเมอร์ปี 2016 นั้นทีมจัดการดีลทุกอย่าง รวมถึงตกลงค่าแรงกับเจ้าตัวแล้ว ปรากฏว่านักเตะแจ้งว่าขอเวลาทบทวนอีกนิดในตอนท้าย

นี่ก็คือรายแรกที่ City แม้จะอยากได้แค่ไหน แม้นักเตะจะตรงกับสเปคโคตรๆ ตัวใหญ่ จ่ายบอลดี ป้องกันเยี่ยม ไม่ช้า แต่ทีมก็ไม่เคยติดต่อไปอีกเลย

 

 

ถัดมาเราก็จะเห็นเคสนี้กับ Daniel Alves ที่ถึงขนาดนัดแนะสื่อมวลชน เขียนเอกสารเปิดตัว พร้อมจัดงานในสหรัฐอเมริกาตอนทัวร์ช่วงซัมเมอร์ แต่เจ้าตัวเปลี่ยนใจไป PSG ซะอย่างนั้น

แม้ว่าสุดท้ายแบ็คขวารายนี้คงจะไม่ย้ายทีมมาเล่นในอังกฤษ (เพราะคงแขวนก่อน) แต่ก็คงมองหน้ากันกับ Pep และ Txiki ไม่ได้แล้วล่ะ

 

นอกจากนี้เคสคล้ายๆ กันก็คือ VVD, Bellerin หรือกระทั่ง Ox (คนหลังนี้โชว์ฟอร์มเป็นวิงแบ็คได้เจ๋งมาก จนเป๊ปสนใจ) แต่พอทีมซื้อขายเรือใบติดต่อไป นักเตะนั้นไม่มีท่าทีสนใจมาขึ้นเรือเลย ทีมซื้อขายก็ตัดใจไม่ติดต่อไปอีก

 

Alves ผู้ได้ชื่อว่าหักหลังสัญญาลูกผู้ชาย

 

ขณะที่เคสล่าสุดอย่าง Alexis มันมีไทม์ไลน์แบบนี้ครับ

– เรือใบติดต่อช่วงซัมเมอร์ ตกลงค่าเหนื่อยเรียบร้อย (ประมาณ 200k/w) แต่อาร์เซน่อลหาตัวแทนไม่ทันเลยล่มในวันสุดท้าย

– มีสัญญาใจเอาไว้ว่าช่วงมกราคม เรือใบจะกลับมารับอีกรอบนะลูก

– ถึงเดือนมกราคม Man City พร้อมจ่าย 20-25M ส่วนปืนใหญ่อยากจะได้ 35M ตกลงกันไม่ได้

– City บอก Alexis ว่าถ้าอยากมาจริงๆ ก็เดินเรื่องช่วยหน่อย แถมมีการเจรจาค่าเหนื่อยเพิ่มไปที่ 250k ต่อสัปดาห์

– เมื่อเห็นเรือใบตกลงกับปืนไม่ได้ ทีนี้ Man United เลยก้าวมาเป็นมือที่สาม

– เอเยนต์ Alexis ขู่เรือว่าตอนนี้มี United มาเกี่ยวข้อง ต้องอัพราคาหน่อย “ดีลที่ตกลงไว้มันเปลี่ยนไปแล้ว”

– มีข่าวว่าค่าเหนื่อยใหม่ที่ทาง Man United เสนอให้กับทาง Alexis นั้นพุ่งไปถึง 350-400k ต่อสัปดาห์

– Pep, Txiki และ Soran ประชุมด่วนว่าจะเอายังไง

– ทีมงานกลัวเพดานค่าเหนื่อยทีมพัง เพราะนักเตะดาวรุ่งในทีมที่ฟอร์มดีก็ไม่ถึง 100k กันทั้งนั้น หรืออย่าง Kevin De Bruyne ที่ฟอร์มโหดมากๆ ก็กำลังจะได้รับสัญญาประมาณ 250k เท่านั้นเอง

– ผลสรุปว่า นักเตะและเอเยนต์ที่เอาข้อเสนอนี้มาบังคับเรือใบ ทีมรู้สึกว่านักเตะเริ่มหมดใจ ทีมต้องการนักเตะที่มีใจมาเล่นให้กับทีมเท่านั้น เหมือนอย่างเช่น Jesus ที่ปฏิเสธทีมใหญ่เพื่อมาเล่นกับเรือใบโดยเฉพาะ

– จบข่าว เรือใบถอนสมอ งอนตุ๊บป่อง ไม่ได้ก็ไม่เอา

มันก็เลยจบแบบนี้ล่ะครับ…

 

 

แนวคิดอยากได้นักเตะที่มีใจกับทีมโดยเฉพาะนั้น อาจจะได้ผลในตัวอย่างของ Gabriel Jesus, Kyle Walker หรือกระทั่ง Benjamin Mendy ที่ปฏิเสธทีมใหญ่อื่นๆ เพื่อย้ายมาเล่นให้กับ Man City เท่านั้น นักเตะย่อมมีความมุ่งมั่นทุ่มเท

 

แต่ต้องยอมรับว่าทีมเรือใบยังไม่ใช่ทีมยักษ์ใหญ่เท่า Real Madrid หรือ Barcelona การสร้างทีมด้วยนโยบาย “โอกาสสุดท้าย” เหมือนกับที่ทีมใหญ่อื่นๆ ทำเพื่อดึงดูดนักเตะ อาจจะเหมาะหรือไม่เหมาะกับพวกเขา จะทำให้พวกเขาเสียโอกาสพัฒนาทีมขึ้นไปอีกขั้นหรือไม่

งานนี้คงต้องให้เวลาเป็นคำตอบแล้วล่ะครับ!!

 

#ประธานเหมียว


by

Tags:

Comments

Leave a Reply