กลุ่มหญิงชาวจีนผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็น ‘แม่มด’ ต้องรวมตัวกัน จากความเชื่อผิดเพี้ยนที่ยังคงอยู่…

แม้ว่าปัจจุบันโลกของเราจะมีวิทยาการล้ำยุคขนาดไหน แต่ความเชื่อในเรื่องของไสยศาสตร์หรือว่ามนต์ดำ ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ในประเทศต่างๆ ตลอดเวลา

ซึ่งความเชื่อในเรื่องเหล่านี้ ก็ทำให้บางคนต้องได้รับความเดือดร้อนจากการถูกกล่าวหา อย่างเช่น ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ปิศาจ ต่างๆ นานา จนทำให้ชีวิตของพวกเขาเหล่านี้พังพินาศกันเลยก็เคยมีให้เห็นเช่นเดียวกัน

และนี่ก็คืออีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ เมื่อมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งถูกหมางเมินจากคนในหมู่บ้าน จากการถูกตราหน้าว่าเป็นแม่มด ทำให้พวกเขาต้องรวมตัวกันเพื่อเอาชีวิตรอด…

 

 

จากรายงานที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature Human Behavior เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยที่ศึกษาในเรื่องนี้ได้ออกมาเปิดเผยถึงข้อมูลอันโหดร้ายบนโลกใบนี้ว่า

ณ หมู่บ้านเกษตรกรรมแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศจีน มีคนจำนวนถึง 13.7% ของจำนวนชาวบ้านทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มมนตร์ดำ  ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ชาวบ้านเรียกพวกเขาว่า Zhu หรือแปลได้ว่าแม่มดนั่นเอง

 

 

“เหล่า Zhu มักถูกกล่าวหาว่า พวกเขาสามารถบังคับงูได้ หรือสามารถวางยาพิษในจานอาหารของผู้อื่นได้ โดยเพียงแค่ใช้ตาเปล่าเท่านั้น” Ting Ji นักมานุษยวิทยาแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์จีนหนึ่งในทีมวิจัยนี้ กล่าว

ซึ่งพวกชาวบ้านเชื่อกันว่ากลุ่มแม่มดที่ว่านี้ จะสามารถส่งผ่านเชื้อแม่มดของพวกเขาได้ ผ่านสิ่งของมีค่าต่างๆ อย่างเช่น ผ้าไหม ทองคำ หรือเครื่องเงิน จึงทำให้การแพร่ระบาดของการเป็นแม่มดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 

และเมื่อครอบครัวไหนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นพวก Zhu แล้ว พวกเขาเหล่านี้ก็จะมีผู้คบค้าสมาคมที่ลดน้อยลง รวมถึงก็จะถูกรังเกียจจากชาวบ้านทั่วไปมากขึ้นอีกด้วย

โดยสิ่งที่น่าสนใจที่นักวิจัยได้ค้นพบก็คือว่า การกล่าวหานี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงวัยกลางคนที่มีฐานะร่ำรวย รวมถึงผู้หญิงที่มีลูกจำนวนน้อยอีกด้วย แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะว่าวันดีคืนดีเรื่องเหล่านี้ก็เกิดขึ้นกับผู้หญิงบางคนที่พวกเขาคิดว่านำพาความโชคร้ายมาสู่พวกเขาด้วย

 

 

“จากการศึกษาของเราพบว่า Zhu มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีฐานะมากกว่าผู้อื่น เป็นไปได้ว่ามันน่าจะเกิดขึ้นมาจากความอิจฉาริษยาก็เป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพศหญิง” Ting กล่าว

 

 

แต่ถึงอย่างไรก็ตามการกล่าวหาให้ผู้อื่นว่าเป็นแม่มด เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในประเทศจีน ซึ่ง ณ ตอนนี้ทีมวิจัยก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และเรื่องที่ว่าได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากใครกันแน่

 

ที่มา: scmp, nextshark

Comments

Leave a Reply