เผยรายชื่อ 12 การ์ตูนดังวัยใส ที่ถูกทางการประเทศต่างๆ “สั่งแบน” มาแล้ว!!

ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่เราเชื่อว่าลึกๆ ในใจทุกคนก็ต้องมีรายชื่อการ์ตูนเรื่องโปรดในดวงใจกันแทบทั้งนั้น

แต่เชื่อไหมว่าการ์ตูนบางเรื่องที่เราโปรดปราน ครั้งหนึ่งพวกมันก็เคยถูกรัฐบาลประเทศต่างๆ สั่งแบนมาแล้วนะ และทั้งหมดนี้ก็เป็น 12 รายชื่อการ์ตูนพร้อมเหตุผลที่ว่าทำไมถึงถูกสั่งแบน?

 

1. Winnie the Pooh – ประเทศจีน

สาเหตุ: หน้าคล้ายประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง

รูปแบบการแบน: แบนห้ามฉายในประเทศ

เป็นการสั่งแบนที่อาจจะดูน่ารักที่สุดแล้วก็ว่าได้… เมื่อก่อนหน้านี้ชาวเน็ตได้นำภาพประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง มาเปรียบเทียบกับพี่หมีวินนี่เดอะพูห์ แถมมันยังดูเหมือนซะยิ่งกว่าเหมือน งานนี้ทางการจีนเลยสั่งแบนเลยจ้า

 

2. Peppa Pig – ประเทศออสเตรเลีย

สาเหตุ: ทำให้เด็กๆ ไม่กลัวแมลงหรือสัตว์ที่มีพิษ

รูปแบบการแบน: หลายตอนถูกแบนห้ามฉายในประเทศออสเตรเลีย

ก่อนหน้านี้ก็ได้รับการอนุญาตให้ฉายอย่างปกตินั่นแหละ ทว่าใน Ep. หนึ่งตัวละครได้สอนเด็กๆ ให้อยู่ร่วมกับแมงมุมอย่างน่ารักสดใส ทางการออสเตรเลียเห็นเข้าจึงสั่งแบนซะเลย

เหตุผลก็เพราะ… ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีแมงมุมพิษร้ายแรงมากกว่า 10,000 สายพันธุ์ และคำแนะนำให้อยู่ร่วมกับสัตว์ร้ายอย่างสงบสุขก็ดูจะเป็นอะไรที่ใช้ไม่ได้จริงกับชาวออสซี่

 

3. Pokemon – ญี่ปุ่น, ตุรกี และกลุ่มประเทศแถบอาหรับ

สาเหตุ: ส่งผลกระทบต่อเด็กบางคน

รูปแบบการแบน: โดนห้ามฉายในประเทศนั้นๆ จำนวน 1 ตอน

สาเหตุหนึ่งที่ประเทศเหล่านี้ไม่อนุญาตให้ Pokemon ถูกฉายผ่านทีวีก็เพราะว่า ครั้งหนึ่งเคยเกิดเหตุการณ์แสงไฟฟ้าจากแก้มปิกาจูที่แรงเกินไป (ค่าแฟลชสูงถึง 12 Hz)

ส่งผลให้เด็กหลายคนที่นั่งดูอยู่เกิดอาการอาเจียน หมดสติ เป็นลม มีเด็กกว่า 600 คนถูกหามส่งโรงพยาบาลภายในวันเดียว และนั่นก็เป็นที่มาของเหตุการณ์ที่เรียกว่า ‘Pokemon Shock’

 

4. SpongeBob – สหรัฐฯ, รัสเซีย, ออสเตรเลีย, ยุโรป และอีก 120 ประเทศ

สาเหตุ: มีความรุนแรงเกินไป

รูปแบบการแบน: ตอนที่มีฉากฆ่าตัวตายโดนห้ามฉายโดยเด็ดขาด ส่วนอีกหลายๆ ตอน ก็โดนห้ามฉายในหลายประเทศ

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวการผจญภัยใต้น้ำของชาวแก๊งค์ถูกแบน ก็เพราะเป็นเรื่องของการใช้ภาษา และลักษณะอุปนิสัยของตัวละคร

โดยรัฐบาลหลายๆ ประเทศอ้างว่า ตัวละครในเรื่องจะมีทัศนคติแง่ลบที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือลักษณะนิสัยที่ไม่ยอมแก้พฤติกรรมแย่ๆ ของตัวเอง ทำให้หลายประเทศเริ่มกลัวว่าเยาวชนจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

 

5. TaleSpin – สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

สาเหตุ: ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และส่งเสริมภาพลักษณ์ไม่ดีต่อชาวเอเชีย

รูปแบบการแบน: โดนแบนห้ามฉาย 2 ตอน

ในช่วงแรกถูกแบนออกจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่น เพราะมีตอนหนึ่งที่เจ้าหมี Baloo ได้รับของขวัญเป็นระเบิด จากนั้นเจ้าหมีก็เอาไปวางทิ้งไว้อย่างไม่แยแส ในแง่หนึ่งมันเหมือนเป็นการสอนเด็กๆว่า… การเพิกเฉยต่อสิ่งผิดกฎหมายไม่ใช่เรื่องผิด หลังจากนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็ถูกแบนต่อไปอีกทั่วโลก!!

 

6. Tom and Jerry – ทั่วโลก

สาเหตุ: ความรุนแรง ฉากสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์

รูปแบบการแบน: บางตอนโดนห้ามฉาย บางฉากโดนตัดออก ขณะที่บางฉากนั้นทางผู้ผลิตยอมวาดใหม่เพื่อให้ได้ฉาย

ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีที่คู่แมว-หนู ได้ออกอากาศลงในโทรทัศน์ให้เด็กๆ ได้ชมกันทั่วโลก มีปัญหาเกิดขึ้นมากมายระหว่างออกอากาศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษาที่หยาบคาย หรือพฤติกรรมของตัวละครที่ดูอันตราย

แต่ผู้ใหญ่หลายๆ คนก็มองว่า ปัญหาหลักไม่ใช่เรื่องของภาษาแต่เป็นเรื่องของความรุนแรงที่เรากลับมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ มิหนำซ้ำยังทำให้เด็กๆ หัวเราะได้อีก…!!

 

7. The Simpsons – ทั่วโลก

สาเหตุ: ความรุนแรง การส่งเสริมสิ่งที่ไม่ดีในครอบครัว พฤติกรรมที่รับไม่ได้ รวมถึงการด่าละเมิดบุคคลสำคัญบางคน รวมถึงประเทศบางประเทศ

รูปแบบการแบน: ตอนที่มีปัญหาหลายๆ ตอน โดนหลายๆ ประเทศห้ามฉาย ตามแต่ละความเหมาะสมของประเทศนั้นๆ

หนึ่งในการ์ตูนที่มีแฟนๆ คอยติดตามอยู่ทั่วโลก แต่ถึงกระนั้นมันก็ถูกสั่งแบนห้ามออกอากาศผ่านช่องโทรทัศน์จากทุกประเทศทั่วโลกเช่นกัน

ไม่ว่าจะด้วยเพราะภาษาที่หยาบคาย การล้อเลียนวัฒนธรรมต่างๆ หรือการเสียดสีที่สอดแทรกเข้าไปในเนื้อหา แต่ถึงกระนั้นทางการของกรุงวาติกันกลับชื่นชมการ์ตูนเรื่องนี้ว่า.. “สมจริงได้อย่างชาญฉลาด”

 

8. Beavis and Butt-Head – ทั่วโลก

สาเหตุ: ส่งเสริมให้เกิดความรุนแรง โดยเฉพาะการทำร้ายร่างกายผู้อื่น หลังจากได้รับชมเรื่องดังกล่าว

รูปแบบการแบน: โดนแบน 1 ตอนในหลายประเทศทั่วโลก

อันที่จริงก็นับว่าเป็นการ์ตูนที่ไม่ได้มีสาระอะไรอยู่แล้ว ทว่ามีอยู่ตอนหนึ่งที่ทำให้การ์ตูนถูกแบนไปทั่วโลก ซึ่งเป็นตอนที่ 2 ตัวละครหัวลีบเอาทุกสิ่งอย่างมาเผาอย่างเมามันส์

จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์เด็ก 5 ขวบ จากสหรัฐฯ ทำเลียนแบบการ์ตูนด้วยการเผาบ้านตัวเองในขณะที่ครอบครัวยังอาศัยอยู่ข้างใน..!! หลังจากนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็ถูกแบนไปในที่สุด

 

9. Looney Tunes

สาเหตุ: ฉากดื่มแอลกอฮอล์

รูปแบบการแบน: หลายประเทศตัดสินใจตัดฉากดังกล่าวออก

ถึงแม้จะเป็นการ์ตูนที่ดูใสๆ ไร้พิษสง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ถูกแบนเหมือนกัน เพราะมีตอน Ep. หนึ่งที่ใช้ชื่อตอนว่า ‘One Beer’ ซึ่งเป็นตอนที่เหล่าตัวละครพยายามจะเข้าไปขโมยเบียร์ในร้านเพื่อเอามาดื่มเล่น

นับตั้งแต่นั้นมาการ์ตูนใสๆ ที่มีกระต่ายเป็นตัวดำเนินเรื่อง ก็กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อการ์ตูนที่ถูกแบนไปเรียบร้อย

 

10. Gravity Falls – รัสเซีย

สาเหตุ: พฤติกรรมไม่เหมาะสม ฉากนู๊ด และความรุนแรง

รูปแบบการแบน: มีการตัดฉาก เปลี่ยนแปลงบางอย่างมาแทนที่ รวมถึงตัดตอนคำพูด

แม้ว่าประเทศรัสเซียจะไม่ได้แบนการ์ตูนเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด แต่ก็มีการตัดตอน ตัดคำพูด และตัดฉากที่ดูเนื้อหาไม่เหมาะสมต่างๆ ออกไป จนกลายเป็นการ์ตูนสั้นไปซะแล้ว

ส่วนสาเหตุนั่นก็เป็นเพราะ มีหลายๆ พฤติกรรมของตัวการ์ตูนที่ดูแล้วจะขัดกับความเป็นเด็กมากไปนิด เช่น.. การดูภาพโป๊

 

11. การ์ตูนทุกเรื่องที่มี Donald Duck มาปรากฎตัว – ฟินแลนด์

สาเหตุ: โดนัลด์ ดั๊ก ไม่ยอมใส่กางเกงใน

รูปแบบการแบน: ห้ามฉาย

สาเหตุที่ทางการฟินแลนด์สั่งแบนเจ้าเป็ดพูดไม่รู้เรื่อง ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า… มันไม่ยอมใส่กางเกง!! อีกทั้งทางการยังให้เหตุผลว่า ‘Donald Duck’ เป็นตัวการ์ตูนที่บ่อนทำลายศีลธรรม และจริยธรรมของสังคม

 

12. Shrek 2 – อิสราเอล

สาเหตุ: มีการพาดพิงถึงบุคคลที่มีตัวตนจริง และกลายเป็นประเด็นฟ้องร้อง

รูปแบบการแบน: โดนห้ามฉายในโรงภาพยนตร์

เป็น Shrek เพียงภาคเดียวที่ถูกสั่งห้ามฉายในประเทศ และในภาค 2 นี้เองก็ได้มีฉากหนึ่งที่มีตัวละครพูดว่า ‘to bobbit!’ ซึ่งเป็นคำพูดที่ล้อเลียนเรื่องราวของ John Bobbit ชายผู้ถูกภรรยาตัดหรรมส์

แต่เมื่อเข้าฉายในอิสราเอล ทางทีมงานก็ได้เปลี่ยนมุกตลกฉากนี้ใหม่เป็นการพูดถึง David D’Or นักร้องชาวอิสราเอล ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ตลกด้วย และกลายเป็นประเด็นฟ้องร้องค่าเสียหายใส่กันแทน

 

แต่ละประเทศก็มีเหตุผลที่จะแบนแตกต่างกันไปสินะ…

ที่มา: Brightside

Comments

Leave a Reply