ชะตากรรมของลูกหมาจรจัด กับชีวิตที่ต้องเสี่ยงอยู่กับสารกัมมันตรังสีในเชอร์โนบิล

ผ่านมานานกว่า 31 ปีแล้ว สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในประเทศยูเครน เมื่อปี 1986 ส่งผลกระทบให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทางกัมมันตรังสีกว่าหลายร้อยคน นับได้ว่าเหตุการณ์หายนะนิวเคลียร์ที่มีความรุนแรงมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

ภายหลังจากที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ทำให้สารกัมมันตรังสีจากโรงงานแห่งนี้ได้ลอยปนเปื้อนออกไปในอากาศ ผืนดิน รวมถึงแม่น้ำไปไกลหลายพื้นที่เลยทีเดียว

 

 

และถึงแม้ว่าเหตุการณ์ครั้งร้ายแรงนี้จะผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พื้นที่ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็ยังคงไม่เอื้ออำนวยให้มนุษย์เข้าไปอยู่อาศัย เนื่องจากยังมีระดับสารกัมมันตภาพรังสีอยู่ในปริมาณมากนั่นเอง

 

 

แต่ที่น่าเศร้าก็คือ ในเมืองที่เต็มไปด้วยสารอันตรายแห่งนี้กลับมีเพื่อนร่วมโลกที่ดีที่สุดของมนุษย์อย่างสุนัข อาศัยอยู่ในเมืองปริปยัต และเชอร์โนบิลเป็นจำนวนมาก

เพราะเมื่อ 31 ปีที่แล้ว ชาวเมืองต้องพากันอพยพออกจากพื้นที่อยู่อาศัย และมีความจำเป็นที่จะต้องทิ้งสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเอาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง

 

 

พอเวลาผ่านไปสุนัขที่รอดชีวิตต่างก็ขยายเผ่าพันธุ์จนทำให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าในตอนนี้น่าจะมีสุนัขอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณดังกล่าวมากถึง 900 ตัว

 

 

อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ยังคงโชคดีที่มีองค์กร Four Paws และ Clean Futures Fund (CFF) ได้เข้ามาดูแล และให้ความช่วยเหลือ พร้อมฉีดวัคซีคเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขเหล่านี้อีกด้วย

 

 

ทางด้าน Julie Sander จากองค์กร Four Paws ได้ออกมาเผยว่า “เราได้เราได้ปรับปรุงสวัสดิภาพของบรรดาสุนัขให้ดีขึ้นโดยการทำหมันให้กับพวกมัน เพราะมันจะช่วยลดจำนวนการเกิดของลูกสุนัขในระยะยาวได้

นี่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะโอกาสที่พวกมันจะอยู่รอดนั้นมีน้อยมาก และถ้าหากจำนวนของพวกมันเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลให้กระทบให้สุนัขเหล่านี้ขาดสารอาหาร และขาดที่พักพิงในฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวจัด”

 

 

มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากที่เราได้เห็นภาพของเหล่าสุนัขตัวน้อยๆ ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่แสนอันตรายแบบนี้ แต่อย่างน้อยมันก็ยังพอโชคดีอยู่บ้างที่ไม่ถูกลืม และได้รับการช่วยเหลือจากมนุษย์ใจดีอยู่

 

 

ที่มา : popsugar

Comments

Leave a Reply