9 ความจริงที่เราอาจเคยเรียนจากในหนังสือ แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ไม่ใช่ซะแล้ว..!?

เรียกได้ว่าแทบทุกวันที่โลกเรามีการค้นพบความจริงใหม่ๆ ตลอด บ้างก็เป็นความจริงที่ลบล้างทฤษฎีอันน่าเชื่อถือต่างๆ ที่เราอาจเคยเรียนมาจากในหนังสือ

ซึ่งคราวนี้เราจะพาไปส่องโลกกับ 9 ความจริง (Facts) ที่มีการยืนยันออกมาแล้วว่า เป็นทฤษฎีที่มีความน่าเชื่อถือและความเป็นไปได้สูงกว่าที่เราเคยเรียนกันมา จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย…

 

1. ประเทศอเมริกาได้รับอิสระภาพในวันที่ 4 กรกฎาคม ปี 1776

 

ทุกๆ วันที่ 4 กรกฎาคม ของทุกปี ชาวอเมริกันจำนวนมากจะออกมาเดินขบวนพาเหรดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้แด่วันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา

ทว่าอันที่จริงในตอนนั้นสหรัฐอเมริกาเพิ่งได้รับเอกราชเพียงแค่ไม่กี่รัฐเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ได้รับเอกราชเป็นของตนเองตามกฎของราชอาณาจักร

และสงครามปฏิวัตอเมริกาก็ยืดเยื้ออยู่นานนับปี ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอเมริกาได้รับเอกราชอย่างเต็มใบก็เมื่อครั้นปารีสเซ็นสัญญาถอยทัพในวันที่ 3 กันยายน ปี 1783 นั่นเอง

 

 

2. ฟันของ George Washington ทำมาจากไม้

 

มีทฤษฎีมากมายที่กล่าวอ้างว่า George Washington มีฟันปลอมที่ทำมาจากไม้ ซึ่งทางด้านนักประวัติศาสตร์ก็ได้ออกมาค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง

พวกเขาพบว่าในช่วงศตวรรษที่ 18 ชนชั้นทาสมักจะถอนฟันตัวเองออกและนำไปขายให้หมอฟันเพื่อหาเงินมาประทังชีวิต และมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าในปี 1784 เขาได้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากให้กับทาสชาวแอฟริกันเพื่อแลกกับฟัน 9 ซี่

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว George Washington ก็น่าจะใช้ฟันปลอมที่ซื้อมาจากกลุ่มทาสอีกที ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติในสมัยนั้น

 

 

3. พลูโตเป็นดาวเคราะห์

 

ในอดีตเราอาจจะเคยเรียนในวิชาวิทยาศาสตร์ว่า ‘พลูโต’ เป็นดาวเคราะห์อีกหนึ่งดวงที่อยู่ในระบบสุริยจักรวาลเดียวกับเรา

จนกระทั่งเมื่อปี 2003 นักดาราศาสตร์จากองค์กรนาซ่าได้ค้นพบข้อมูลชุดใหม่ที่นำไปสู่การตั้งคำถามถึงสสารที่เป็นจุดกำเนิดของดาวพลูโต

และเมื่อทีมนักดาราศาสตร์ได้วิเคราะห์บนพื้นฐานของขนาด ที่ตั้ง และเงื่อนไขอื่นๆ แล้ว พวกเขาก็ให้ข้อสรุปว่าอันที่จริงพลูโตไม่ใช่ดาวเคราะห์อย่างที่เราเคยเรียนกันมา อีกทั้งยังถูกลดระดับให้เป็นเพียงดาวเคราะห์แคระเท่านั้น

 

 

4. เพชรคือสสารที่แข็งที่สุด

 

เราอาจจะทราบกันมาทั้งชีวิตว่า ‘เพชร’ คือสสารที่แข็งที่สุดถึงขนาดที่สามารถกรีดกระจกให้แตกได้เลยทีเดียว (เหมือนฉากในหนังปล้นทรัพย์)

ทว่าเมื่อปี 2013 ก็ได้มีการค้นพบสสารที่เชื่อว่ามีความแข็งแกร่งมากกว่าเพชร ซึ่งนั่นก็คือ.. ‘ultrahard nanotwinned cubic boron nitride’ แต่มันก็เป็นสสารที่พบเจอได้ยากมากๆ เช่นเดียวกัน

 

 

5. คนที่ต้องสงสัยว่าเป็นแม่มดในเมืองซาเลม จะต้องถูกเผาทั้งเป็น

 

แม้จะดูเป็นเรื่องที่ไกลตัวฝั่งเอเชียอย่างบ้านเรา แต่เราก็มักจะได้ยินมาโดยตลอดว่าในอดีตมีการล่าแม่มดและนำไปเผาทั้งเป็นในประเทศแถบฝั่งตะวันตก

ทว่าในความจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้น… โดยอ้างอิงจากบันทึกของ Richard Trask คนเก็บเอกสารสำคัญประจำหมู่บ้านซาเลม ที่ได้เขียนบันทึกเรื่องราวการล่าแม่มดในยุคนั้นผ่านหนังสือที่ชื่อว่า ‘Salem Village Witch Hysteria’

โดยระบุว่า: ในตอนนั้นนิวอิงแลนด์ยังคงยึดกฎและประเพณีตามอังกฤษเดิม และวิธีการอันแสนโหดร้ายก็หาใช่การเผาทั้งเป็น แต่จะนำผู้ต้องสงสัยไปแขวนคอแทน

 

 

6. ชาวยิวคือทาสแรงงานในการก่อสร้างปิรามิด

 

มีหนังดังมากมายที่นำเสนอว่าชนชั้นแรงงานที่ก่อสร้างปิรามิดในยุคนั้นล้วนแล้วแต่เป็นชาวยิวแทบทั้งสิ้น แต่ดูเหมือนว่าทฤษฎีนี้จะตกไปอย่างง่ายดาย

เพราะเมื่อปี 1977 ครั้งที่นายกรัฐมนตรีของประเทศอิสราเอลได้มาเยือนประเทศอียิปต์ ได้อ้างอิงงานวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ของ Amihai Mazar เอาไว้ว่า

“จากการศึกษาทางประวัติศาสตร์เราไม่ค้นพบว่าชาวยิวมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการสร้างปิรามิดของชาวอียิปต์ในยุคโบราณ และไม่พบหลักฐานการตั้งรกรากถิ่นฐานของชาวยิวในสมัยนั้น”

ทางด้านนักมานุษยวิทยาของฝั่งอียิปต์ก็ได้ออกมายืนยันจากงานวิจัยต่อมาว่า ผลงานปิรามิดทั้งหมดเกิดจากแรงงานชาวอียิปต์แทบทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมาจากครอบครัวยากจนเป็นหลัก

 

 

7. กระดาษไม่สามารถพับครึ่งให้เกิน 7 ครั้งได้

แต่ทฤษฎีนี้ก็ต้องตกไปในที่สุด เพราะเมื่อปี 2012 มีนักเรียนจากโรงเรียน St.Mark รัฐแมสซาชูเซต สามารถสร้างสถิติพับได้ทั้งหมด 13 ครั้ง..!!

 

8. กำแพงเมืองจีนเป็นสิ่งก่อสร้างเพียงชิ้นเดียวของมนุษย์ ที่สามารถมองเห็นจากดาวเทียมได้

 

เป็นทฤษฎีที่เราได้ยินกันมานมนานซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าจริงรึเปล่า.. เพราะมันจะมีซักกี่คนเชียวบนโลกนี้ที่ได้มีโอกาสขึ้นไปนอกอวกาศ

ทว่าในปี 2003 นักดาราศาสตร์ชาวจีนก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง โดย Yang Liwei ต้องขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนสถานีอวกาศ และเขาก็ได้ถ่ายรูปบริเวณที่ตั้งของกำแพงเมืองจีนมา ผลปรากฎว่ามันก็ไม่เห็นจริงๆ นั่นแหละ

 

 

9. สิ่งมีชีวิตทั้ง 5 อาณาจักร

 

ตอนเด็กๆ ในคาบวิชาวิทยาศาสตร์บางคนอาจจะจำทฤษฏีการแบ่งอาณาจักรสิ่งมีชีวิตทั้ง 5 อาณาจักรได้ (หลักๆ ก็มี สัตว์, พืช, แบคทีเรีย, ฟังไจ และโพรทิสต์)

แต่เมื่อเวลาผ่านไปนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ก็ช่วยทำให้เราแบ่งประเภทอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งในทางทฤษฎีใหม่วิทยาศาสตร์ได้แบ่งออกเป็น 8 อาณาจักร โดยมีการเพิ่มอาณาจักร archeae, monera และ eubacteria

 

 

ก็ถือว่าเป็นการอัพเดทความรู้ชุดใหม่ๆ ที่เราอาจจะลืมๆ กันไปบ้างแล้วเนาะ

ที่มา: BI

Comments

Leave a Reply