สังคมไทยแห่งการล่าแม่มด พร้อมจะรุมด่าคนที่ตนเชื่อว่า “ผิด” ได้ แม้จะยังไม่รู้ความจริง…

“ที่ใดมีดราม่า ที่นั่นมีขาเผือก”

นี่คงจะเป็นวลีที่เหมาะกับสังคมไทย ณ ขนาดนี้ และไม่ใช่เผือกธรรมดา ทั้งจิกกัด ด่าทอ สาปแช่งสารพัดอย่าง แม้ว่าจะยังไม่รู้ความจริงก็ตาม แต่ขอได้ด่าไว้ก่อน

วันสองวันนี้… ขาเผือกแทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว เมื่อมีดราม่าของนางเอกสาวชื่อดังกับสามี ที่ว่ากันว่าขาเตียงหัก โดยมีพิธีกรสาวนางหนึ่งเป็นมือที่สาม

 

 

คือเรื่องของเรื่องเนี่ย มันเกิดจากดาราสาวออกมาให้สัมภาษณ์ว่าได้แยกกันอยู่กับสามี แต่ยังคงสถานะสามี-ภรรยากันเหมือนเดิม

งานนี้คิดหรอว่าขาเผือกจะเชื่อ เลยนำไปสู่การขุดคุ้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จนกระทั่งไปเจอรูปภาพในไอจีของพิธีกรสาวคนหนึ่ง ที่มีภาพสะท้อนผู้ชายบนใบมีด

และเมื่อซูมดีๆ ใกล้ๆ ปรากฏว่าผู้ชายคนนั้นหน้าคล้ายสามีของดาราสาวที่เพิ่งให้สัมภาษณ์ไป ก็เลยทำให้เกิดกระแสลั่นโลกออนไลน์ขึ้นมาเลยทีเดียว

 

 

พอเจอภาพนี้ปุ๊บ จะใช่สามีดาราสาวหรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่ชาวเน็ตตีความไปแล้วว่าต้องใช่แน่นอน จากนั้นก็มีการขุดคุ้ยต่อไปว่าระหว่างสามีดารากับพิธีคนนี้เคยเจอกันที่ไหน

และแล้วก็ไปเจอคลิปเก่าที่พิธีกรสาวเคยสัมภาษณ์สามีดารา แล้วก็พากันโยงใยว่าทั้งคู่อาจจะมีการติดต่อกันตั้งแต่นั้นมา แค่นี้ยังไม่พอ ขาเผือกยังไปขุดรูปเก่าในไอจีของทั้งสามีดาราและพิธีกรสาวที่มีบางรูปเหมือนจะอยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน เพื่อยืนยันความทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างลับๆ จริง

 

 

เท่านั้นแหละ ไอจีของพิธีกรสาวก็ถูกขาเผือก ชาวเน็ต แฟนคลับของดาราสาวรุมด่ากันรัวๆ บางคนด่าเหมือนรู้ดีทุกอย่าง เหมือนอยู่ในเหตุการณ์เองยังไงอย่างนั้นแหละ

ยังไม่พอค่ะ ยังมีการด่าฝ่ายชายด้วย ประมาณว่ามีภรรยาที่ดีเลิศเลอขนาดนี้ ทำไมยังทำร้ายเธอได้ลง โอ้ย!! ดูเหมือนเรื่องจะบานปลายไม่มีที่สุด

โดยที่มาถึงตอนนี้ ยังไม่มีการมายอมรับจากฝ่ายใดว่าเขาซุกกิ๊ก?? และกิ๊กคือคนนี้จริงๆ!?

 

 

.

 

ในที่สุดสามีดาราทนไม่ไหวต้องออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้แยกกันอยู่จริง ซึ่งเป็นเพราะเรื่องงาน และเวลาที่ไม่ตรงกัน แต่ก็ยังมีการพบกันเป็นประจำ ส่วนเรื่องทะเลาะกันนั้นก็มีบ้างตามประสาผัวเมีย แต่ถามว่าเลิกมั้ย ฝ่ายชายยืนยันไม่มีวันเลิกแน่นอน

ล่าสุดพิธีกรสาวก็ออกมายืนยันอีกฝ่ายว่า ตนไม่ได้รู้จักสามีดาราสาวเป็นการส่วนตัวอย่างที่ชาวเน็ตเข้าใจ เคยเจอกันแค่ 3-4 ชั่วโมงตอนไปสัมภาษณ์ฝ่ายชายแค่นั้นเอง ส่วนใครก็เชื่อหรือไม่นั้นก็แล้วแต่

 

.

 

ต่อด้วยเพจดังที่คอมเม้นต์เตือนชาวขาเผือกว่า ‘สายรายงานว่าไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ อย่าเพิ่งไปด่าเค้า เพราะด่าไปแล้วมันเอาคืนไม่ได้’

 

 

จากกรณีนี้ทำให้เห็นว่า สังคมไทยนั้นเป็นสังคมแห่งการล่าแม่มดที่พร้อมจะรุมคนที่ตนเชื่อว่าผิด โดยไม่รอฟังความจริงก่อน และพร้อมจะรุมขยี้คนที่เป็นข่าว โดยไม่สนใจเลยว่าความรู้สึกเขาจะเป็นอย่างไร

บางคนถึงขึ้นบอกว่า ไม่เชื่อดาราสาว ไม่เชื่อสามีนาง และไม่เชื่อพิธีกรสาว แต่เชื่อขาเผือก เพราะที่ผ่านมาขาเผือกไม่เคยคาดเดาผิดพลาด!!

 

 

นี่ทำให้เราตระหนักว่าสังคมไทยมาจุดนี้ได้อย่างไร จุดเชื่อคนนอกมากกว่าเจ้าของเรื่อง ที่สำคัญคือกล้าด่าคนอื่นเสียๆ หายๆ เพียงเพราะฟังตามๆ กันมาเท่านั้น

ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าความจริงแล้วมันเป็นยังไง แต่คนโดนด่าก็ถูกด่าไปแล้วเรียบร้อย เสียความรู้สึกไปแล้ว โดนตัดสินไปแล้ว

ไม่ว่าความจริงจะถูกหรือผิด จะใช่คนๆ นี้จริงๆ หรือไม่ เราก็ไม่อาจรู้ได้จนกว่าเรื่องจะมาถึงตอนจบ แต่คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ถูกล่าแม่มดแขวนป้าย ขุดกันตั้งแต่ชาวเน็ตยันเว็บวาไรตี้ชื่อดังกันจนไม่รู้จะไปหลบตรงไหนแล้ว

หากความจริงเปิดเผยออกมา แล้วเป็นคนนั้นจริงๆ ก็ถือว่าด่าถูกคน แต่หากไม่ได้เป็นอย่างที่ชาวเน็ตกล่าวหา ใครจะรับผิดชอบความรู้สึกของคนที่โดนด่าล่ะเนอะ??

 

การเผือกไม่ใช่เร่ื่องผิด แต่ต้องใช้ปัญญาประกอบด้วยนะคะ

เรียบเรียงโดย #เหมียวขี้ส่อง ภาพปก: jakawin

Comments

Leave a Reply