14 เรื่องน่าสนใจจากเมืองจีน ที่จะทำให้คุณมองดินแดนมังกรแห่งนี้ เปลี่ยนไปจากเดิม…

หากใครได้ติดตามข่าวเศรษฐกิจโลกบ้าง ก็พอจะทราบได้ว่าช่วงนี้เศรษฐกิจประเทศจีนกำลังมาแรงสุดๆ อย่างน้อยก็เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ออกเดินทางไปจับจ่ายใช้เงินกันทั่วโลก

ด้วยความที่ ‘จีน’ เป็นประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาลเอามากๆ จึงทำให้ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย และทั้งหมดนี้คือ 14 สิ่งน่าสนใจจากเมืองจีน ที่จะทำให้เราเข้าใจในวัฒนธรรมของประเทศนี้มากยิ่งขึ้น

 

1. มีเมนูเปิบพิศดารเยอะที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

นับว่าเป็นความยูนีคอย่างหนึ่งเลยล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็น… หมา แมว เต่า จระเข้ กิ้งก่า กิ้งกือ แมลงป่อง แมลงสาบ หรือแม้แต่กรณีเนื้อคนก็เคยมีออกข่าวให้เห็นมาแล้ว!!

 

2. เด็กๆ ที่จีนจะมีกางเกงแบบเปิดก้น

เป็นนวัตกรรมอย่างหนึ่งที่เราจะได้เห็นบ่อยๆ หากลองไปเยือนประเทศจีนดูซักครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเด็กน้อยวัย 2 – 3 ขวบ มักจะสวมใส่กางเกงแบบเปิดก้น สาเหตุก็เพราะเวลาที่เด็กอยากจะขับถ่ายตรงไหนก็ถ่ายได้เลยไม่ต้องวิ่งหากระโถน

 

3. จีนมีรถไฟความเร็วสูงไม่แพ้ประเทศอื่นใดในโลก

มีเส้นทางสายหนึ่งในจีนที่ให้บริการรถไฟความเร็วสูง (350 กม./ชั่วโมง) จุดประสงค์ก็เพื่อกระจายระบบขนส่งสาธารณะให้เข้าถึงถิ่นฐานทุรกันดาร อีกทั้งในปี 2010 จีนยังเคยทำสถิติความเร็วรถไฟได้สูงถึง 486 กม./ชั่วโมง เลยทีเดียว

 

4. ตัดผมกันข้างทางเป็นเรื่องธรรมดา

ในสังคมที่ทุกคนต้องรีบเร่งทำงานอย่างขยันขันแข็ง (ตามฉบับคนจีน) ร้านตัดผมข้างทางจึงเป็นอีกธุรกิจที่ได้รับความนิยมสูงในหลายๆ พื้นที่ เพราะทั้งสะดวก ไม่ต้องรอนาน และไม่ต้องมากพิธีการเหมือนร้านแฟชั่นนิยมยังไงล่ะ

 

5. หากคุณมี K-9 จีนก็มี ‘ห่าน’ เหมือนกัน

เราก็ไม่ทราบได้เหมือนกันว่าทางการจีนใช้วิธีใด ถึงสามารถชักจูงแก๊ง ‘ห่าน’ ให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ได้ อีกทั้งยังมีนกพิราบที่ใช้สำหรับส่งเอกสารราชการอีกนับ 10,000 ตัว

 

6. มีหุ่นยนตร์ที่คอยรันธุรกิจร้านอาหารให้แล้วนะ

ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเสิร์ฟ พ่อครัว ผู้ช่วยพ่อครัว พนักงานต้อนรับ หรือแม้แต่แคชเชียร์ ร้านอาหารหลายๆ แห่งในจีนเริ่มหันมาใช้หุ่นยนตร์เป็นลูกจ้างแทนแล้วนะ และนวัตกรรมหุ่นยนตร์ก็ได้พัฒนาไปถึงขั้นที่มีหุ่นยนตร์แม่บ้านวางขายในท้องตลาดจีนแล้วเช่นกัน

 

7. ที่นี่มีโรงงานเพาะพันธุ์ยุง..!!

ไม่ต้องตกใจไป เพราะนี่คือวิธีการแก้ปัญหา ‘โรคไข้เลือดออก’ ที่ดูล้ำมากๆ ของประเทศจีน โดยรัฐบาลได้สั่งให้มีการจัดตั้งโรงงานเพาะพันธุ์ยุงขึ้นมา (20 ล้านตัว/สัปดาห์)

จากนั้นก็ให้นักวิทยาศาสตร์พ่นแบคทีเรียชนิดหนึ่งใส่ทำให้ร่างกายพวกมันไม่สมบูรณ์ และเมื่อปล่อยมันไปแพร่พันธุ์ตามชุมชน ยุงทั้งหลายจะทำการแพร่เชื้อของตัวเองและทำให้ปัญหาโรคไข้เลือดออกลดลงได้ในที่สุด

 

8. มีสถานที่เพาะพันธุ์แมลงเต่าทองโดยเฉพาะ

หลายแห่งๆ ในประเทศจีนมักจะติดวัสดุ หรือนำอาหารของแมลงเต่าทองมาล่อให้พวกมันมาอาศัยอยู่ในไร่ของตน สาเหตุก็เพราะพวกมันจะคอยทำหน้าที่กำจัดเพลี้ยอ่อนที่เป็นศัตรูร้ายของพืชเกษตรนั่นเอง

 

9. วันปีใหม่ของชาวจีนจะฉลองกันยาวนานถึง 2 สัปดาห์

วันปีใหม่ของชาวจีนก็คือวันตรุษจีนนั่นแหละ เมื่อไหร่ที่วันนี้มาถึงผู้คนทั่วประเทศจะร่วมใจกันหยุดงาน และออกมาเฉลิมฉลองกับครอบครัวเป็นเวลานานถึง 15 วันเลยทีเดียว

 

10. มีเมืองร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก

‘Ordos’ คือเมืองร้างที่ตั้งอยู่ในผืนอาณาเขตของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งคาดว่ามีตึกรามบ้านช่องกว่า 64 ล้านห้องที่ถูกทิ้งร้างไว้อย่างน่าเสียดายในเมืองนี้

 

11. ฟุตบอลเป็นกีฬาที่จีนคิดค้นขึ้น… แต่ปิงปองของอังกฤษกลับได้รับความนิยมสูงกว่า

เมื่อปี 2004 FIFA เคยออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ‘ฟุตบอล’ เป็นกีฬาที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยในอดีตมีจุดประสงค์เพื่อใช้ฝึกทหารในการรบ

ในขณะที่ ‘ปิงปอง’ เป็นกีฬาจากฝั่งอังกฤษที่ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อ 100 ปีก่อน แม้แต่ชื่อก็ถูกตั้งตามเสียงและสำเนียงของชาวอังกฤษ แต่กลายเป็นว่ากีฬาประจำชาติจีนคือ ‘ปิงปอง’ แทนซะงั้น!?

 

12. มีเทรนด์แปลกๆ เกิดขึ้นได้ทุกวี่วัน

ไม่ว่าจะเทรนด์แฟชั่นแปลกๆ เทรนด์ชาวเน็ตแปลกๆ หรือเทรนด์สัตว์เลี้ยงที่มีคนเอาผักกาดมาจูงเดินด้วยก็มีมาแล้ว นับได้ว่าความโดดเด่นด้านเทรนด์แปลกๆ ของจีน ไม่เป็นสองรองประเทศไหนเลย

 

13. ทุเรียนและคนจีนเป็นของคู่กัน

ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าชาวจีนจะชื่นชอบทุเรียนมากเป็นพิเศษ ถึงขนาดที่เมืองท่องเที่ยวหลายๆ แห่งต้องจัดเทศกาลทานทุเรียน หรือแม้แต่กาแฟรสทุเรียนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในจีนก็เคยมีมาแล้ว…

 

14. ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอที่ดินแดนแห่งนี้…

อาจจะด้วยความที่ประเทศมีขนาดใหญ่ และมีประชากรมากที่สุดในโลก จึงทำให้มีเรื่องราวเหตุการณ์แปลกๆ จากจีนมาให้เราเห็นอยู่เรื่อยๆ และภาพสุดท้ายนี้ก็ถือเป็นภาพที่ทำให้เราเห็นว่า… Nothing is impossible in China

ที่มา: Brightside

Comments

Leave a Reply