ชาวเมืองใช้ชีวิตไม่ค่อยสุขี เพราะต้องอยู่ร่วมกับ “แก๊งนกอินทรี” เข้ายึดครองพื้นที่ บินโฉบไปมา…

การที่เราจะได้เห็นนกพิราบหรือนกกระจอกบินอยู่ในเมืองมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และก็ไม่ได้รับอันตรายจากนกเหล่านั้นสักเท่าไหร่

อย่างมากสุดก็คงเป็นเรื่องที่พวกมันชอบอึใส่เราก็เท่านั้นเอง และเมืองแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยนกเช่นเดียวกัน เพียงแต่มันแตกต่างกับที่เราคุ้นชินไปมากเลยเนี่ยสิ…

เรามาทำความรู้จักกับเมือง Unalaska ในรัฐอะแลสกา เมืองเล็กๆ บนเกาะที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามน่าอยู่และบรรยากาศที่ดึงดูดน่าไปเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ที่เป็นภูเขาเขียวขจี รายล้อมไปด้วยทะเลสุดลูกหูลูกตา

 

เกาะเขียวขจีที่รายล้อมไปด้วยทะเลสุดลูกหูลูกตา

 

นอกจากนั้นก็ยังมีท่าเรือที่ชื่อว่า Dutch Harbor ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่มากอีกด้วย ดูแล้วก็จะเหมือนกับเป็นเมืองที่จะใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุขผ่อนคลายกันไป แต่ความจริงแล้วมันกลับไม่ใชอย่างนั้นซะทีเดียว

เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากนกที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นมีมากมาย โดยพวกมันไม่ใช่นกที่เราจะได้เห็นกันทั่วไปแต่มันคืออินทรีหัวขาวที่บินกันว่อนอยู่ทั่วเมือง จนทำเอาชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างยากลำบากไม่ใช่น้อย…

 

แก๊งอินทรีหัวล้าน

 

นกอินทรีหากเราไปรุกรานอาหารหรือพื้นที่อยู่อาศัยของมัน ก็อาจทำให้เกิดการโต้กลับด้วยทักษะการบินอันโฉบเฉี่ยว และจงอยปากอันแหลมคมเข้ามาทำร้านเราได้

ปัญหานี้จึงเกิดขึ้นแม้แต่การไปส่งจดหมาย เพราะพวกมันดันมาทำรังกันอยู่ข้างตู้ไปรษณีย์ซะอย่างนั้น เมื่อรังของมันอยู่ใกล้ๆ สัญชาตญาณของการปกป้องก็ทำให้พวกมันอาจสร้างอันตรายให้กับผู้ที่มาใช้บริการส่งจดหมายได้

จนถึงกับต้องทำป้ายปักไว้หน้าที่ทำการให้ระวังอินทรีโฉบมาจิกหัวของคุณ เพราะว่ารังมันอยู่ใกล้ๆ ยิ่งหากว่ารังมันถูกโจมตีด้วยแล้วละก็จะลำบากกันไปใหญ่เลยล่ะ

 

ป้ายเตือนระวังอินทรีโฉบ เพราะมีรังมันอยู่ใกล้ๆ

 

คลิปวิดีโอสัมภาษณ์ชาวเมืองถึงการใช้ชีวิตร่วมกับเหล่าอินทรี

 

นอกจากนี้ เรือหาปลาที่กลับมาเทียบฝั่งก็จะถูกปล้นปลาที่หามาได้ไปต่อหน้าต่อตา หรือหากคุณวางถังใส่ปลาไว้หลังกระบะตอนจอดรถลงไปซื้อของละก็ รับรองได้ว่ามันจะต้องหายไปอย่างไร้วี่แววแน่นอน

และไม่ใช่เพียงแค่อาหารเท่านั้น เพราะบางทีพวกอินทรีหัวล้านก็จะฉกเอาสิ่งของอื่นๆ ติดไปด้วยอย่างหน้าตาเฉย อย่างเช่นกล่องบิงโก…

หลายคนคงจะรู้กันว่านกชนิดดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอเมริกา ด้วยความสง่างามที่ดูองอาจของพวกมันบวกกับกฎหมายการคุ้มครองสัตว์ชนิดนี้ที่เกิดขึ้นในปี 1940 จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยในเมืองไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้มากนัก

 

ไม่ยกรถกลับไปด้วยเลยล่ะ

 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังไม่มีการแก้ปัญหาที่ออกมาชัดเจนเต็มที่ เพราะถึงอย่างไรชาวเมืองก็ยังมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับนกเหล่านี้อยู่บ้างละมั้งนะ

ที่มา: gizmodo

Comments

Leave a Reply