‘ฤาษีแห่งนิการากัว’ ชายชราผู้สานฝันวัยเด็ก แกะสลักหินผายาวกว่า 90 เมตร ร่วม 40 ปี

สิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นนั้นมีให้เห็นถึงความสวยงามในตัวของมันอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงมีหนทางในการถ่ายทอดศิลปะโดยฝีมือมนุษย์ เพื่อสร้างเสริมเติมแต่งถ่ายทอดความสวยงามที่สามารถมองออกมาเป็นรูปธรรมได้มากยิ่งขึ้น

หนุ่มชราวัย 72 ปีนามว่า Alberto Gutierrez Giron ฉายาฤาษีแห่งนิการากัว ผู้มีชื่อเสียงในเรื่องของการสร้างผลงานแกะสลักหิน ได้ทำการแกะสลักหน้าผายาวกว่า 90 เมตรให้เป็นผลงานประติมากรรมชิ้นใหญ่ยักษ์ เหมือนที่เขาเคยเห็นในความฝันเมื่อตอนอายุ 9 ขวบ

 

 

ด้วยความที่เป็นคนรักในการสำรวจป่ารอบบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้กับเมือง Esteli ประเทศนิการากัว ในตอนอายุ 33 ด้วยความต้องการที่จะใช้ทั้งชีวิตอยู่กับธรรมชาติ จากที่คิดอยู่นานกว่า 4 ปี ก็ได้เกิดภาวะสงครามปฏิวัติในประเทศ จึงทำให้การตัดสินใจของเขานั้นง่ายขึ้นและทำการออกเดินทางตามฝัน

ในปี 1977 เขาเจอหิน และตะปูที่มีลักษณะคล้ายสิ่วแกะสลัก จึงทำให้เขานึกถึงความฝันในวัยเด็กของเขาอีกครั้ง และได้เดินทางกลับไปยังหุบเขา El Jalacate จนพบกับแนวหน้าผาที่เห็นในฝันตอนนั้นเป๊ะๆ งานอันยิ่งใหญ่ได้เริ่มขึ้นซึ่งใช้เวลารวมนานประมาณ 40 ปี

 

 

โดยเป็นการแกะสลักผสมผสานที่มีการแสดงถึงในทุกองค์ประกอบ ไอเดียจากสัตว์หลายชนิด ภาพวิหารใหญ่เมือง Esteli หรือแม้แต่ตึกคู่แฝดในนิวยอร์ก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการเติมเต็มภาพที่เห็นในความฝันวัยเด็กของเขาเอง

เขาได้อาศัยในกระท่อมหลังเล็กที่สร้างด้วยตัวเอง อาศัยอยู่กับธรรมชาติจนไม่รู้จักว่าอินเทอร์เน็ตคืออะไร แต่นั่นก็ทำให้เขาเป็นฤาษีที่คนรู้จักมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นตามความฝันในการหยุดติดต่อกับโลกภายนอก แต่ยังคงเปิดรับการเข้ามาทักทายจากนั่งท่องเที่ยว

 

 

นักท่องเที่ยวราว 30,000 คนได้มาหาในช่วงทศวรรษสุดท้ายในการทำงานชิ้นนี้ โดยการหาบ้านเขานั้นไม่ยากเลย เพราะจะมีสัญลักษณ์บอกทางชัดเจน เพื่อให้สามารถเข้ามาชมผลงานและพูดคุยกันได้ ด้วยความภาคภูมิใจกับการที่ได้มีผู้คนมาหาจากทั่วทุกมุมโลก

Gutierrez ไม่มีครอบครัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเหงาเพราะมีผู้คนที่เข้ามามากหน้าหลายตาเต็มไปหมด และเป็นการใช้ชีวิตที่ฝันถึง หรือต่อให้ไม่มีใครมาคุยด้วย ก็ยังคงมีผู้ฟังที่ดีเป็นนกน้อยอีกมากมาย

หากกำลังคิดว่าคุณตาท่านนี้ดังมากขนาดไหน ก็ลองคิดดูว่าดังขนาดที่จะได้รับโล่กิตติมศักดิ์ เพื่อขอบคุณในการทำให้พื้นที่นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังขึ้นมา

ที่มา: odditycentral

Comments

Leave a Reply