มารู้จัก “คิงคาจู” สิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยคุ้นตา แต่บอกเลยว่าน่ารักมุ้งมิ้งเหมือนกันนะเนี่ย!!

“คิงคาจู” เป็นชื่อของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่เราไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตากันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครได้เห็นโฉมหน้าของมันละก็ เชื่อว่าทุกคนจะต้องรัก และเอ็นดูเจ้าสัตว์ชนิดนี้แน่นอน

และนี่คือ คิงคาจู หรือหมีน้ำผึ้ง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหมีเลย เป็นไงตะมุตะมิดีไหม!!

สำหรับคิงคาจู เป็นหนึ่งในสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดเล็ก โดยมีความยาวเพียง 60 เซนติเมตร มีขนสั้น และหนานุ่มเป็นสีน้ำผึ้งทอง และสีน้ำตาล มีหัว ใบหู ใบหน้า และดวงตากลมโต ดูๆ แล้วแอบคล้ายแมวเหมียวเหมือนกันนะเนี่ย

นอกจากนี้ มันยังมีลิ้นที่ยาวมาก โดยยาวสุดมาถึง 7 นิ้ว ซึ่งจะใช้ในการดูดน้ำผึ้ง หรือเกสรดอกไม้นั่นเอง

และที่สำคัญเจ้าคิงคาจู ยังเป็นสัตว์ที่มีความพิเศษอยู่ในตัว โดยเฉพาะส่วนเท้าของมันที่สามารถหมุนกลับด้านได้ถึง 180 องศากันเลยทีเดียว

โดยทั่วไปแล้ว จะสามารถพบเจ้าสัตว์ชนิดนี้ได้ในทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของ Sierra Madres ในเม็กซิโก ตลอดทั้งอเมริกากลาง ไปจนถึงทางตะวันออกของเทือกเขาแอนดีสในโบลิเวีย และป่าแอตแลนติก ในทางตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล

อย่างไรก็ตาม คิงคาจู เป็นสัตว์ที่กระจายพันธุ์ในป่าทึบ และป่าหลากหลายประเภท เช่น ป่าเสื่อมโทรม ป่าเขตร้อน อีกทั้งยังพบได้ทั้งพื้นที่ราบและพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2500 เมตร

แม้จะเป็นสัตว์ที่ดูอ่อนโยน ขี้เล่น และมีหน้าตาน่ารักมุ้งมิ้ง แต่ถ้าหากมีภัยเข้ามาใกล้ตัวเมื่อไหร่ล่ะก็ คิงคาจูก็จะสามารถกลายเป็นสัตว์ที่ดุร้ายได้ภายในพริบตา

ในส่วนอาหารการกินของมันนั้น โดยทั่วไปแล้วคิงคาจูจะชอบกินผลไม้สุกเป็นหลัก รวมถึงเกสรดอกไม้ และน้ำผึ้ง ทั้งยังสามารถกินสัตว์เล็กๆ เป็นอาหารได้อีกด้วย

เจ้าคิงคาจู มักจะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนต้นไม้เช่นเดียวกับแรคคูน มักจะออกหากินในเวลากลางคืน ในขณะที่เวลากลางนั้นวันส่วนใหญ่จะหมดไปกับการนอนสบายๆ ในโพรงไม้ หรือใต้ร่มเงาของใบไม้เพื่อหลีกเลี่ยงจากแสงแดด

เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่า ในปัจจุบัน เจ้าคิงคาจู ได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมของผู้คนที่ชื่นชอบเลี้ยงสัตว์แปลกๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจากมันมีนิสัยที่เชื่อฟังง่าย และน่ารักนั่นเอง แต่ถ้าถึงเวลาดุร้ายมันก็จะกลายเป็นสัตว์ก้าวร้าวในทันที

เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย แล้วเพื่อนๆ ล่ะ รู้สึกอย่างไรกับเจ้าคิงคาจูบ้าง?

ที่มา : wikipedia