หญิงผู้เป็น ‘มารดาแห่งการอุปถัมภ์’ รับเลี้ยงเด็กกว่า 1,400 คน และรักเหมือนครอบครัวจริงๆ

การที่ใครคนหนึ่งจะรับเลี้ยงเด็กกำพร้าสักคนนั้น ต้องผ่านการคิดแล้วคิดอีก นอกจากนี้คนรับเลี้ยงต้องมีความรักให้กับเด็กคนนั้นด้วย

แต่เนื่องจากการเลี้ยงเด็กสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นผู้รับเลี้ยงจึงต้องมีความพร้อม ความมั่นคงด้านหน้าที่การงานด้วย เพื่อให้เด็กคนนั้นได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี และจะได้ไม่เป็นปัญหาในอนาคต

ดังนั้นไม่ว่าคุณจะรักเด็กมากแค่ไหน ก็คงสามารถรับเลี้ยงมาเลี้ยงได้แค่ 1 หรือ 2 คนเท่านั้น แต่สำหรับ Sindhutai Sapkal เธอสามารถรับเด็กเป็นลูกบุญธรรมได้มากถึง 1,400 คน และทุกคนก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

 

 

Sindhutai Sapkal วัย 68 ปี มีความมุ่งมั่นในการเป็นแม่ให้กับเด็กที่ไม่มีใครต้องการ โดยนอกจากมอบอาหารและที่พักให้แล้ว เธอก็รักพวกเขาเหมือนคนในครอบครัวจริงๆ ด้วย

ด้วยความเมตตาที่น่าทึ่งนี้ ทำให้ Sapkal ได้รับรางวัลมากกว่า 750 รางวัล และยังได้รับยกย่องให้เป็น “มารดาแห่งการอุปถัมภ์” ด้วย

Sapkal มีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า 4 ที่ ใน Prune รัฐมหาราษฏระของอินเดีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอเอง โดยแบ่งเป็นสำหรับเด็กผู้หญิง 2 ที่ และเด็กผู้ชายอีก 2 ที่

โครงการของ Sapkal ได้รับความช่วยเหลือจาก Mamta ซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเธอเอง นอกจากนี้ยังมีลูกบุญธรรมคนโตที่ให้ความช่วยเหลือเธอเช่นกัน

 

 

เด็กที่เติบโตจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่นี่ บางคนก็ได้เป็นหมอ เป็นทนายความ และเป็นอาจารย์ แต่กว่าจะประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ พวกเขาล้วนผ่านมรสุมชีวิตด้วยกันทั้งนั้น

มีเด็กหลายคนที่ต้องดิ้นรนอยู่ข้างถนนมาก่อน บางคนก็ถูกทิ้งในถังขยะตั้งแต่ยังเล็ก ที่หดหู่กว่านั้นคือ บางคนถูกพบขณะที่ถูกสุนัขลากไปตามถนน

และเมื่อ Sapkal ไปเจอเด็กๆ เหล่านี้ เธอไม่เคยเดินผ่านพวกเขาแม้สักคนเดียว แต่เลือกที่จะพาพวกเขามาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กของเธอ ดังนั้นในสถานเลี้ยงเด็กจึงมักจะมีเด็กใหม่ๆ เข้ามาเสมอ

ที่นี่จะแตกต่างจากสถานรับเลี้ยงเด็กของรัฐ เพราะโดยทั่วไปแล้ว มักจะมีการหาครอบครัวให้เด็กกำพร้า และให้พวกเขาออกจากบ้านเมื่ออายุครบ 18 ปี

 

 

แต่ Sapkal ไม่ได้ทำเช่นนั้น เธอรับเด็กมาดูแลเหมือนลูกจริงๆ ดังนั้นถึงแม้จะอายุ 18 แล้ว พวกเขาก็ยังอยู่กับเธอต่อไปได้ เธอดูแลพวกเขาจนกระทั่งได้แต่งงาน มีครอบครัวและมีหน้าที่การงานที่มั่นคง

แม้รัฐบาลจะมีนโยบายให้เด็กกำพร้าอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กได้ถึงอายุ 18 ปี แต่ Sapkal กลับมองว่า การที่พวกเขาอายุ 18 ปี ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถดูแลตัวเองได้อย่างเต็มที่

เธอยังบอกอีกว่า เด็กวัย 18 เป็นวัยที่กำลังต้องการความรักและต้องการได้รับคำแนะนำจากครอบครัวในการใช้ชีวิต เพื่อไม่ให้พวกเขาเดินไปในเส้นทางชีวิตที่ผิดพลาด

“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันทำ ฉันจะแนะนำการใช้ชีวิตให้พวกเขาเสมอ แม้จะโตแล้วก็ตาม เพราะการที่นกมีปีก ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะบินได้เสมอไป ทุกอย่างต้องได้รับการสอนและเรียนรู้ คนก็เป็นเช่นเดียวกัน” Sapkal กล่าว

 

 

การที่ Sapkal ตัดสินใจเปิดสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในทุกวันนี้ เป็นเพราะในวัยเด็กนั้นเธอเติบโตมากับความยากลำบาก เธอเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน เธอต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และแต่งงานกับผู้ชายอายุ 20 ปี ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเธออายุแค่ 10 ขวบเท่านั้น

10 ปีต่อมา ตอนที่เธอตั้งท้องได้ 9 เดือน เธอก็ถูกสามีและครอบครัว และแม้กระทั่งครอบครัวของเธอเองไล่ออกจากบ้าน จนเธอต้องหนีไปคลอดในคอกวัว

เธอเล่าว่า “ฉันคลอด Mamata ในคอกวัวค่ะ และใช้ก้อนหินตัดสายสะดือ จากนั้นก็พยายามไปขอความช่วยเหลือจากแม่และญาติๆ แต่ทุกคนกลับพากันผลักไสไล่ส่งฉันอย่างไม่ใยดี”

Sapkal จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอดของตัวเองและลูกสาว เธอไปร้องเพลงที่สถานีรถไฟเพื่อหาเงินค่าอาหารประทังชีวิต

ในช่วงที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากนี้ เธอก็ได้เจอกับเด็กๆ อีกหลายคนที่ถูกทอดทิ้งให้เผชิญกับความลำบากเช่นเดียวกับเธอ

 

 

ดังนั้นแม้เธอเองแทบไม่มีอันจะกิน แต่เธอก็เลือกที่จะแบ่งอาหารให้พวกเขา และดูแลพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะนั้น

หลังจากที่เธอทำแบบนั้นบ่อยๆ ก็มีเด็กบางคนที่ตัดสินใจติดตามเธอไปในทุกๆ ที่ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของครัวใหญ่ที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

แต่เมื่อมาถึงจุดจุดหนึ่ง เธอก็พบว่ามีเด็กอยู่กับเธอมากเกิน จนไม่สามารถเลี้ยงพวกเขาอีกต่อไปแล้ว ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะทิ้งเด็กทุกคน และเลือกที่จะจบชีวิตของตัวเอง

ในวันนั้นเธอกินจนอิ่มท้อง เพราะไม่อยากตายไปกับความหิว จากนั้นก็เอาผ้าเด็กมาห่อตัวไว้ และพร้อมที่จะจบทุกอย่าง… แต่ขณะนั้นเอง Sapkal ก็ได้ยินเสียงขอทานเดินมาขอน้ำกิน ดูเหมือนเขาจะทรมานมาก

เมื่อเห็นแบบนั้น เธอจึงบอกกับตัวเองว่า จะตายทั้งทีก็ควรทำความดีไว้ก่อนตาย จากนั้นเธอก็มอบน้ำให้ชายคนนั้นดื่ม

เธอเล่าว่า “เมื่อฉันไปหาชายคนนั้น ก็พบว่าเขากำลังมีไข้สูง ฉันจึงเอาน้ำเอาอาหารให้ เขามองหน้าฉันแล้วจับมือขอบคุณยกใหญ่เลยค่ะ”

 

 

จากเหตุการณ์นี้ทำให้ Sapkal ตระหนักได้ว่า “ฉันควรจะเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น” หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยคิดฆ่าตัวตายอีกเลย

ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ตัดสินใจรับเลี้ยงเด็กข้างถนนทุกคน แม้เธอเองจะลำบากมากก็ตาม เธอยังคงหาเงินด้วยการร้องเพลงที่สถานีรถไฟ บางครั้งเธอก็จะกล่าวสุนทรพจน์เพื่อขอรับเงินบริจาค โดยที่ครอบครัวของเธอมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา Sapkal ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านต่างๆ นับไม่ถ้วนเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ แม้จะเหนื่อยแต่ก็ไม่ท้อ เพราะเธอต้องการรวบรวมเงินเพื่อทำให้ลูกๆ บุญธรรมทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น

หลังจากดิ้นรนต่อสู้มานาน เธอก็สามารถสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ 4 ที่ โดยพาเด็กข้างถนน เด็กที่ถูกทอดทิ้งมาอยู่ในนี้ จากนั้นก็ทำการอบรมสั่งสอนด้วยความรักความเอาใจใส่ เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี

Mamata ผู้เป็นลูกสาวแท้ๆ ของ Sapkal บอกว่า “ฉันเติบโตมากับความเชื่อที่ว่า สายเลือดไม่ได้มีความสำคัญอะไรและไม่มีความหมายอะไรกับฉันมากนัก แต่ฉันคิดว่า ความเข้าใจต่างหากที่เป็นพื้นฐานของครอบครัว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงมีครอบครัวใหญ่ในทุกวันนี้ และเราทุกคนรักกัน แม้จะไม่ความเกี่ยวข้องทางสายเลือดเลยก็ตาม”

 

 

เธอยังบอกอีกว่า “เมื่อฉันโตขึ้น และได้เห็นครอบครัวของเพื่อนๆ ตอนนั้นฉันคิดว่าครอบครัวคือ พ่อ แม่ ลูก และความสัมพันธ์ของพวกเขา”

“แต่พอฉันเห็นแม่รับคนอื่นเข้ามาอยู่ในครอบครัวมากขึ้นๆ ฉันจึงคิดได้ว่า ครอบครัวไม่จำเป็นต้องมีพ่อแม่เสมอไป แต่ครอบครัวคือการได้อยู่กับใครก็ตามที่เข้าใจ ดูแลกัน และรักกันเหมือนคนในครอบครัวจริงๆ”

ตอนนี้ Mamata จบปริญาตรีด้านจิตวิทยาแล้ว และเธอกำลังศึกษาในระดับปริญญาโท สาขางานสังคมสงเคราะห์ และหลังจากเรียนจบเธอก็ตั้งใจที่จะมาทำงานกับแม่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

Vinay Sakal วัย 26 ปี หนึ่งในลูกบุญธรรมของ Sapkal จบการปริญญาตรีทางด้านกฎหมาย และเพิ่งจะแต่งงานเมื่อไม่นานนี้ เธอเล่าว่า “ฉันเคยเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้งในสถานีรถไฟ แต่วันหนึ่ง Sapkal ก็รับฉันเป็นลูก และดูแลฉันจนประสบความสำเร็จในวันนี้ ถ้าไม่มีเธอในวันนั้นก็คงไม่ฉันในวันนี้เช่นกันค่ะ”

 

 

เธอบอกอีกว่า “ไม่ใช่แค่ฉันนะ แต่  Sapkal ได้ดูแลเด็กนับพันคน และให้ความรักความเอาใจใส่กับพวกเขาทุกคน จนเรากลายเป็นครอบครัวเดียวกัน เราเป็นพี่เป็นน้องให้กันและกันค่ะ”

ปัจจุบันมีเด็กอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กของ Sapkal ทั้ง 4 แห่ง รวมทั้งสิ้น 1,400 คน ทำให้ในช่วง 40 ปี ที่ผ่านมา เธอได้รับรางวัลใหญ่ถึง 750 รางวัลด้วยกัน

นอกจากนี้เธอยังได้รับการยกย่องจากประธานาธิบดีอินเดียถึง 3 คน โดยเรื่องราวของเธอได้รับความสนใจจากสื่อนอกเป็นอย่างมาก แต่แทนที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุน พวกเขากลับกลั่นแกล้งเธอซะงั้น

สำนักข่าว MoneyLife รายงานว่า เมื่อปีที่แล้วกรมสตรีและการพัฒนาเด็ก Maharashtra Department of Women and Child Development (WCD) ได้กดดัน Sapkal ให้ส่งมอบเด็กๆ ของเธอให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของรัฐ

 

 

พวกเขาอ้างว่าเธอเปิดสถานเลี้ยงเด็กแบบผิดกฎหมาย และไม่ได้จดทะเบียนกับ WCD ดังนั้นจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการได้

ในความเป็นจริงๆ แล้ว บรรดาลูกบุญธรรมของ Sapkal ที่โตเป็นผู้ใหญ่ ต่างพยายามที่จะจดทะเบียนกับ WCD ตั้งแต่ปี 2011 แล้ว แต่ดูเหมือนพวกเขาจะถูกกลั่นแกล้งทำให้ไม่สามารถจดทะเบียนได้จนกระทั่งปัจจุบันนี้

ยิ่งไปกว่านั้นในปี 2010 รัฐบาลรัฐมหาราษฏระเคยประกาศมอบรางวัลมารดาแห่งการอุปถัมภ์ให้ Sapkal ในงานประกาศรางวัล Ahilyabai Holkar Award และดูเหมือนทุกอย่างจะเรียบร้อยดี

แต่ 6 ปี ต่อมา ก็มีคนมากล่าวหาว่าเธอเปิดสถานเลี้ยงเด็กแบบผิดกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอไม่ได้รับการสนุนจากรัฐบาลเลย

 

 

ปัจจุบัน Sapkal จึงต้องยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง เธอยังคงหาเงินด้วยการไปกล่าวสุนทรพจน์ตามหมู่บ้านต่างๆ โดยมีลูกๆ 2-3 ติดตามเธอไปด้วย ในขณะเดียวกันก็พยายามยื่นเรื่องจดทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย แม้จะถูกกลั่นแกล้งครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม

 

ที่มา odditycentral

Comments

Leave a Reply