รูปภาพของ “ชาวยิวใต้อำนาจนาซี” จากสงครามโลกครั้งที่ 2 ความหดหู่ที่คุณก็รู้สึกได้

ในช่วงฤดูหนาวของปี 1944 เป็นช่วงที่ชาวยิวตกอยู่ภายใต้อำนาจของนาซี แต่ในระหว่างนั้นก็มีช่างภาพชาวยิวคนหนึ่งได้ถ่ายรูปในช่วงนั้นเอาไว้ แต่ต้องเอาไปฝังดินเพื่อไม่ให้ถูกกลุ่มนาซียึดไป

ไม่กี่ปีต่อมารูปภาพเหล่านี้ก็ถูกพบ พร้อมเรื่องราวน่าเศร้าในภาพถ่ายเหล่านั้น จนกลายเป็นที่พูดถึงตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบันนี้

 

ภาพคู่รักที่ถ่ายในระหว่างปี 1940-1944

 

ภาพเหล่านี้เป็นผลงานของ Henryk Ross แห่ง Łódź จากโปร์แลนด์ ซึ่งเป็นช่างภาพภาพที่แอบเก็บภาพเหตุการณ์ในช่วงที่กองกำลังเยอรมันเข้ามารุกรานในปี 1939

การถ่ายรูปในสถานการณ์เช่นนั้นนับเป็นงานที่เสี่ยงมาก แต่เขาก็เอาตัวรอดได้ทุกครั้ง ส่วนรูปภาพทั้งหมดที่ถ่ายมาได้เขาได้ทำการฝังถังน้ำมันที่มีฝาปิดสนิท เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ดูในวันข้างหน้า

 

รูปของชายผู้เก็บ Torah มาจากซากปรักหักพังในถนน Wolborska

 

ต่อมาในปี 1945  Łódź ก็ได้รับการปลดปล่อยจากอำนาจของนาซี โดยกองทัพโซเวียต ทำให้ภาพที่ถูกฝังไว้นั้นถูกขุดออกมาอีกครั้ง ซึ่งก็มีบางส่วนได้รับความเสียหาย

ปัจจุบันรูปเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เรียกว่า Art Gallery of Ontario home เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่น่ากลัวที่สุดในโลก

 

1940-1944 เด็กชายกำลังหาอาหาร

 

ปี 1940 ชายคนนี้กำลังเดินท่ามกลางหิมะหนาบนถนน Wolborska

 

ถังข้าวถังน้ำที่ถูกทิ้งเอาไว้ หลังพวกเขาถูกเนรเทศออกจากค่ายกักกัน

 

1940-1942 แม่และลูก

 

Henryk Ross กำลังขุดหลุมฝังเอกสารทั้งหมดที่เขามี เพื่อซ่อนไม่ให้นาซีได้เห็น

 

1940-1944 พื้นที่ของชาวยิว

 

1940-1944 รอยยิ้มของเด็ก

 

เด็กหญิงตัวน้อยๆ

 

การร่ำลาก่อนจะโดนไล่ออกจากประเทศ ที่เรือนจำ Lodz Ghetto ใน Czarnecki Street

 

งานแต่งงานท่ามกลางสงคราม

 

การถูกขับไล่ในฤดูหนาว

 

เด็กน้อยกำลังนั่งในเปลด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

 

เด็กๆ ถูกส่งไปยัง Chelmno Nad Nerem ซึ่งใครๆ ต่างก็บอกว่าเป็นค่ายแห่งความตาย

 

ทำขนมปังอบ

 

Henryk Ross ถ่ายภาพเพื่อทำบัตรประจำตัวให้ชาวยิว

 

คนป่วยที่ถูกปล่อยให้นอนบนพื้น

 

กลุ่มผู้หญิงกับสัมภาระ ที่กำลังเดินผ่านซากปรักหักพังเพื่ออพยพออกจากพื้นที่

 

กะโหลกและกระดูกกระจายอยู่เกลื่อนบนพื้น

 

เห็นแบบนี้แล้ว รู้สึกถึงความรุนแรงในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี และหวังว่ามันจะเป็นเครื่องย้ำเตือนมนุษย์ว่า การกดขี่และสงคราม ไม่ได้สร้างสิ่งดีๆ ให้แก่เราเลย หากเทียบกับสิ่งที่ต้องสูญเสียไป…

ที่มา boredpanda

 

Comments

Leave a Reply