14 สถานที่ทิ้งร้างจากรอบโลกแต่ยังคงความงดงาม อันเป็นเอกลักษณ์ยากจะลบเลือน…

สถานที่ร้างจากทั่วโลกที่เราเอามานำเสนอทั้งหมดนี้ ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แต่ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นเพราะภัยทางธรรมชาติ หรือเหตุผลทางเศรษฐกิจก็ตามแต่ สุดท้ายแล้วสถานที่เหล่านี้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นที่ร้างไปอย่างน่าเสียดาย

แต่ทว่าในความว่างอ้างว้าง ความไร้ซึ่งร่องรอยของการใช้ชีวิต กลับทำให้บางสถานที่ถูกทดแทนด้วยเอกลักษณ์ความงามบางอย่างในตัวมันเอง เอาเป็นว่าเราไปชมกันเลยว่าจะมีที่ไหนบ้าง

 

1. The Ghost Town of Bodie รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ

 

เมืองนี้ถูกค้นพบเมื่อปี 1876 โดยมีเศรษฐีเจ้าของเหมืองทองคำคนหนึ่งพบว่า บริเวณนี้อุดมไปด้วยแร่ทอง และเงินจำนวนมาก ด้วยความที่ทุกคนต่างมองหาความมั่งคั่ง ทำให้ครั้งหนึ่งเคยมีผู้คนจำนวนมากย้ายมาปักหลักสร้างชีวิตกันที่นี่

ต่อมาในปี 1940 เมืองนี้ต้องพบกับภาวะเศรษฐกิจล้มละลาย ทำให้ชาวเมืองต่างพากันอพยพหนีออกไป และถูกปล่อยให้เป็นเมืองร้างในที่สุด

 

 

2. เรือนจำ Eastern State รัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐฯ

 

เรือนจำจากเมืองฟิลาเดลเฟียนี้เคยเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1829 จนถึงปี 1971 ที่นี่เคยเป็นแหล่งรวมอาชญกรชื่อดังมากมายเช่น เจ้าพ่อมาเฟียชื่อดัง ‘อัล คาโปน’ แต่ทว่าด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เรือนจำแห่งนี้ต้องปิดตัวลง และปัจจุบันมันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

3. ตึกผีย่านสาธร กรุงเทพฯ

 

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1990 ไทยต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตก เกิดการล้มละลายทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างไปทั่วประเทศ และตึกผีแห่งนี้ก็คือหนึ่งในผลพวงจากพิษเศรษฐกิจในครั้งนั้น

และครั้งหนึ่งเคยมีเรื่องราวของชาวเน็ตจาก Pantip ที่เข้าไปถ่ายรูปในตึกร้างแห่งนี้แต่ดันไปเจอศพแทนด้วยนะ เรียกได้ว่าแอบหลอนใช้ได้เลยนะเนี่ย!!

 

 

4. โรงพยาบาล Riverside บนเกาะ North Brother สหรัฐฯ

 

นับตั้งแต่ปี 1885 โรงพยาบาลแห่งนี้เคยเป็นที่รักษาผู้ป่วยมากมาย จนกระทั่งปี 1963 ปีที่โรงพยาบาลต้องปิดตัวลงจากพิษเศรษฐกิจ ต่อมาสถานที่แห่งนี้ถูกเปลี่ยนให้เป็นศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติด แต่ปัจจุบันมันถูกปล่อยให้รกร้าง ด้วยสภาพตึกที่ดูไม่ค่อยขะแข็งแรงดีเท่าไหร่นัก

 

 

5. The Teufelsberg เยอรมนี

 

ในเขตเบอร์ลินฝั่งตะวันตกจะมีสถานที่เป็นรูปโดมวงกลมดูล้ำสมัยตั้งตระหง่านอยู่ แต่ทว่าในอดีตที่นี่คือศูนย์ฝึกวิชาทหารของกองทัพนาซี หลายปีต่อมาหลังสงครามจบลง ตึกแห่งนี้กลายเป็นของ ‘David Lynch’ ผู้กำกับหนังชื่อดัง ซึ่งเขาตั้งใจจะใช้มันเป็น ‘โรงเรียนแห่งความสุข’ ทว่าต่อมารัฐบาลได้สั่งปิดตัวสถานที่แห่งนี้ลงด้วยเหตุผลบางประการ

 

 

6. ปราสาท Miranda เบลเยียม

 

ในช่วงที่ฝรั่งเศสเกิดการปฏิวัติ ‘Liedekerke-Beaufort’ นักการเมืองชาวเบลเยียมผู้เป็นเจ้าของปราสาทแห่งนี้ ได้ถูกบังคับให้หนีออกจากที่นี่พร้อมกับครอบครัวโดยด่วน ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบ ช่วงปี 1980 ปราสาทแ่หงนี้ตกเป็นทรัพย์สินของ ‘National Railway Company’ ซึ่งใช้สำหรับเป็นแคมป์ฤดูร้อน และสถานที่รับเลี้ยงเด็ก แต่ด้วยค่าใช้รักษาดูแลที่สูงเกินไป ทำให้ต้องถูกปิดตัวลงในเวลาต่อมา

 

 

7. หมู่บ้าน Kijong-dong เกาหลีเหนือ

 

ดูเหมือนว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะถูางการเกาหลีเหนือสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของโฆษณาชวนเชื่อ เพราะมันตั้งอยู่ใกล้กับเส้นแบ่งระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือบ้านทุกหลัง ห้องพักทุกห้อง ไม่มีกระจกอยู่ที่หน้าต่างเลยแม้แต่บานเดียว สงสัยมีคนตั้งใจจะทำให้มันร้างละมั้งแบบนี้?

 

 

8. Fordlandia บราซิล

 

สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท ‘Henry Ford’ เมื่อปี 1927 โดยผู้ก่อตั้งมีโปรเจคที่จะเปลี่ยนให้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่คล้ายกับนิคมอุตสาหกรรม มีทุกอย่างเพียบพร้อมในบริเวณโรงงานแห่งนี้

แต่ทว่าด้วยความไม่พอใจของคนในท้องถิ่น ในปี 1930 เกิดการลุกขึ้นมาประท้วงจากคนงานชาวบราซิล มีการทำลายข้าวของ และรวมไปถึงเอารถยนตร์ผลิตใหม่ทิ้งลงแม่น้ำ ทำให้ที่นี่กลายเป็นที่ร้างในเวลาต่อมา

 

 

9. โรงหนังร้างกลางทะเลาย กรุงไคโร อียิปต์

 

จากคำบอกเล่าของคนในพื้นที่เล่าว่า โรงหนังกลางแจ้งแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเศรษฐีชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง ด้วยความที่เจ้าตัวรู้สึกว่าควรจะมีโรงหนังกลางทะเลทราย แต่ทว่าคนในพื้นที่ไม่เห็นด้วย มีการประท้วงรวมถึงทำลายเครื่องฉายหนังทิ้งทั้งหมด ทำให้เรื่องราวของโรงหนังแห่งนี้ต้องปิดฉากลงตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นเลยด้วยซ้ำ

 

 

10. ย่าน Varosha ไซปรัส

 

ในช่วงปี 1970 ย่านนี้เคยเป็นแหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังเหตุการณ์ตุรกีบุกเข้าประเทศไซปรัส และยึดพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศไว้ ผู้คนในย่านนี้กว่า 15,000 ชีวิตต้องรีบอพยพด้วยความเกรงกลัวต่อความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ทำให้เมืองนี้ร้างนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้

 

 

 

11. โรงแรมร้าง Del Salto โคลัมเบีย

 

ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นโรงแรมสุดหรูตั้งอยู่บนริมผาพร้อมทิวทัศน์สวยงามจากธรรมชาติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแม่น้ำ Bogotá ปนเปื้อนไปด้วยความสกปรกมากกว่าแต่ก่อน นักท่องเที่ยวก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ แถมยังมีคนมากมายที่เลือกบริเวณนี้เป็นที่จบชีวิตของตัวเอง ทำให้โรงแรมแห่งนี้ถูกทิ้งร้างไปโดยปริยาย

 

 

12. เกาะ Discovery ฟลอริด้า สหรัฐฯ

 

อันที่จริงที่นี่ก็คือสวนสนุกดิสนีย์แลนด์นั่นแหละ มันเคยเปิดให้บริการเหมือนกับสาขาอื่นๆ มีผู้คนแห่เข้ามาใช้บริการกันมากมาย หากแต่ว่ามีการค้นพบสารอันตรายบางอย่างในน้ำของสวนสนุกแห่งนี้ ทำให้มันถูกปิดตัวลงในช่วงเดือน มิถุนายน ปี 1999

 

 

13. สวนสนุก Holy Land รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐฯ

 

ปี 1958 ‘John Greco’ ได้สร้างสวนสนุกที่เกี่ยวกับศาสนาขึ้นที่นี่ มีผู้คนเข้าชมเป็นจำนวนมากถึงปีละ 40,000 คน ทว่าต่อมาในปี 1982 เจ้าของได้ตัดสินใจที่จะปิดทำการซ่อมแซม และตกแต่งครั้งใหญ่ แต่เจ้าตัวกลับเสียชีวิตสองปีต่อมา ทำให้ที่นี่ไม่ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง

 

 

14. โรงละคร The Orpheum รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐฯ

 

โรงละครร้างแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง New Bedford เปิดให้บริการตั้งแต่ 1912 และปิดตัวลงในปี 1959 ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทให้ความสนใจอยากจะทำให้สถานที่แห่งนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่สุดท้ายมันก็ถูกปล่อยให้รกร้างเหมือนเดิม

 

 

แต่ละสถานที่ก็มีเรื่องราวที่ต่างกันออกไป บางที่ก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะ ไม่น่าถูกปล่อยให้ร้างเลย

ที่มา: Brightside

Comments

Leave a Reply