ฟินแลนด์ทดลองแจกเงินให้คนว่างงานเดือนละ 20,000 บาท นาน 2 ปี เพื่อแก้ปัญหาความยากจน

ความยากจนนั้นยังเป็นคงเป็นปัญหาหลักของหลายๆ ประเทศทั่วโลก โดยมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป และที่ผ่านมาหลายประเทศก็พยายามแก้ปัญหาเหล่านี้ แต่มีน้อยมากที่จะประสบผลสำเร็จ

 

ประเทศฟินแลนด์ที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศร่ำรวย อ้างอิงจากรายได้เฉลี่ยประชากรต่อหัวประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อปี สูงเป็นอันดับที่ 17 ของโลก ก็ยังมีและเล็งเห็นปัญหาความยากจนนี้เช่นกัน

ล่าสุดประเทศฟินแลนด์จึงได้ทดลองทำโครงการแจกเงินให้กับคนว่างงานจำนวนหนึ่งเป็นเวลานาน 2 ปี เพื่อให้พวกเขาได้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง

โครงการแจกเงินให้คนว่างในในฟินแลนด์ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2017 ที่ผ่านมานี้ และจะสิ้นสุดลงในปี 2019 โดยจะแจกเงิน 20,000 บาทต่อเดือนให้คนคนว่างงานจำนวน 2,000 คน

 

 

หากคนว่างงานได้งานทำในช่วง 2 ปีนี้ ทางการฟินแลนด์ก็จะยังคงแจกเงินต่อไป จนกว่าจะครบเวลาที่กำหนด โดยโครงการแจกเงินนี้เป็นการทดลองหนึ่งของฟินแลนด์ในการแก้ไขปัญหาความยากจนภายในประเทศ

นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ อีกกว่า 40 โครงการ ที่ให้การช่วยเหลือผู้มีรายได้ต่ำสำหรับประชาชนกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วย คนว่างงาน รวมทั้งนักเรียนและนักศึกษาด้วย

สำหรับคนที่ต้องการเข้ารับการช่วยเหลือจากโครงการแจกเงินนี้ ต้องกรอกข้อมูลรวมทั้งรายได้ของตัวเองตามความเป็นจริง หลังจากนั้นทางการจะพิจารณาแจกเงินให้ตามความเหมาะสม

จำนวนเงินที่แจกนั้นเป็นจำนวนที่สากลให้การยอมรับ เพราะมันเพียงพอสำหรับการมีชีวิตอยู่ในแต่ละเดือน แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามผลว่า พวกเขานำเงินที่ได้รับไปใช้จ่ายกับอะไรบ้าง

 

 

แม้วิธีนี้จะเป็นที่นิยมในการแก้ปัญหาความยากจน แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า การแจกเงินฟรีๆ แบบนี้จะทำให้คนที่ได้รับเงินไม่กระตือรือร้นที่จะทำงาน แต่จะรอแต่ความช่วยเหลืออย่างเดียว

แต่ทางหน่วยงานด้านประกันสังคมของฟินแลนด์มองว่า เงินที่แจกไปนั้นจะถูกนำไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และเป็นเงินตั้งต้นให้กับคนยากจนเพื่อขยายฐานรายได้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการดังกล่าวนี้ ยังไม่มีใครบอกได้ว่าจะให้ผลอย่างไร เพราะคนที่ได้รับเงินไปนั้น บางคนอาจจะนอนอยู่เฉยๆ ในขณะที่บางคนอาจเอาไปสร้างงานจนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นก็ได้

 

แล้วเพื่อนๆ ล่ะ มีความคิดเห็นอย่างไรกับวิธีแก้ปัญหานี้?

ที่มา businessinsider

Comments

Leave a Reply