พาไปชมสภาพของรถไฟความเร็วสูงที่เปลี่ยนไป หลังวิ่งเซี่ยงไฮ้-ปักกิ่ง ผ่านอากาศที่มีแต่ฝุ่นควัน

เนื่องจากว่าขณะนี้ประเทศจีนกำลังประสบกับปัญหามลพิษอย่างหนัก และเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก็มีการวัดค่าฝุ่นละอองได้มากเกินกว่า 1,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ซึ่งค่ามาตรฐานจะอยู่ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศเมตร และในช่วงที่ประเทศไทยที่เคยประสบกับปัญหาหมอกควันที่ว่าหนักแล้วยังวัดค่าได้ประมาณ 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ทำให้สภาพบรรยากาศในบางส่วนของประเทศจีนอย่างเช่นเมือง เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง นั้น เหมือนกับมีหมอกลงหนาอยู่ตลอดเวลา

 

 

แน่นอนว่ามันส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางระบบหายใจของพลเมืองชาวจีนและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ที่ต้องสูดดมเจ้าควันพิษเหล่านี้เข้าไปในร่างกายแทบจะตลอด 24 ขั่วโมง

หากเพื่อนๆ คนไหนสงสัยว่าเจ้าฝุ่นนี้มันหนักหนาสาหัสขนาดไหนล่ะก็ ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพของรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งผ่านเส้นทางที่มีหมอกควันมรณะนี้กันว่าจะมีสภาพเป็นอย่างไร

 

ผ่าง!!!

 

รถไฟความเร็วสูงขบวนนี้วิ่งเป็นระยะทาง 800 กิโลเมตรจากเมืองเซี่ยงไฮ้ไปยังเมืองปักกิ่ง ซึ่งในระหว่างเส้นทางนั้นมันต้องผ่านสมรภูมิหมอกควันอย่างสูง

จนสภาพของรถไฟความเร็วสูงนั้นมีสภาพที่ถูกฝุ่นเกาะทั่วทั้งลำราวกับว่าวิ่งลงไปในน้ำโคลนยังไงอย่างงั้นเลยทีเดียว..

 

 

สภาพของนักรบผู้ฟันฝ่าหมอกตวันมรณะ

 

เรียกได้ว่าสภาพภายนอกนั้นเก่าครึเหมือนกับใช้งานมาเป็นสิบๆ ปีเลยทีเดียว ทั้งที่จริงแล้วเพิ่งวิ่งไป-กลับ แค่รอบเดียวเองนะเนี่ย

 

 

โดยมีชาวเน็ตจากเว็บไซต์ Weibo ของประเทศจีนได้กล่าวถึงสภาพของเจ้ารถไฟความเร็วสูงนี้เอาไว้ว่า “นี่คือสภาพของปอดเราที่สูดดมควันนี้เข้าไปในทุกๆ วัน”

 

แต่ไม่ต้องห่วงไปเพราะการล้างมันซักเล็กน้อยก็จะทำให้มันกลับมาสะอาดเอี่ยมเหมือนใหม่อีกครั้งหนึ่ง!!

 

 

 

เพียงเท่านี้ก็พร้อมแล้วที่จะออกไปผจญกับมหันตภัยร้ายกันต่อ!!

 

แหม่ เล่นซะเละเทะขนาดนี้เชื่อเลยว่าปัญหามลพิษที่ประเทศจีนน่ะ หนักเอาเรื่องจริงๆ

ที่มา : shanghaiist

Comments

Leave a Reply