เปิดประวัติ “อุลตร้าแมน” ซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ไม่ได้มีแค่ตัวโต ปล่อยแสงจิ้วๆ แล้วจากไป

เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักซุปเปอร์ฮีโร่ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง “อุลตร้าแมน” ที่ครองใจเด็กๆ มากว่าครึ่งศตวรรษ ซึ่งจุดเด่นของอุนตร้าแมนที่คนจำได้ ก็คงจะหนีไม่พ้นท่าปล่อยสำแสงสุดเฟี้ยว และไฟกระพริบตรงหน้าออกที่คอยบอกว่า “รีบๆ จัดการสัตว์ประหลาดได้แล้วนะ ก่อนจะหมดเวลา” 

 

 

แต่รู้หรือไม่ จริงๆ แล้ว “อุลตร้าแมน” มีเรื่องราวและประวัติมากกว่าการที่แปลงร่าง ยิงแสง แล้วก็บินกลับดาวเมื่อพลังใกล้จะหมด จุดเริ่มต้นของพวกเขาเป็นอย่างไร แล้วทำไมต้องเดินทางมายังโลก เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

 

 

ย้อนกลับเมื่อสองแสนปีก่อน ในจักรววาลอันแสนกว้างใหญ่ มีกาแล็กซี่ M78 ที่ประกอบไปด้วยดวงดาวกว่า 69 ล้านดวง และที่ใจกลางกาแล็คซี่แห่งนั้น มีดวงดาวดวงหนึ่งชื่อว่า “ดินแดนแห่งแสงสว่าง” หรือ “ดาวอุลตร้า”

โดยดวงดาวดวงนี้มีขนาดใหญ่กว่าโลก 60 เท่าและมีประชากร “เผ่าพันธุ์อุลตร้า” อาศัยอยู่กว่า 180,000 ล้านคน ในตอนนั้นประชากรของดาวอุลตร้ายังมีลักษณะไม่แตกต่างจากมนุษย์บนโลก

อยู่มาวันหนึ่ง ดวงอาทิตย์ที่คอยให้มอบแสงกว่างและเป็นแหล่งพลังงานให้กับดาวอุลตร้า เกิดระเบิดและสูญสลายไปในพริบตา ทำให้ทั้งดาวตกอยู่ในความมืดมิด ประชากรของดาวอุลตร้าจำนวนครึ่งหนึ่ง ค่อยๆ ล้มตายลง ด้วยความหนาวเย็นและความอดอยาก

 

 

เมื่อเห็นดังนั้น “ผู้อาวุโสอุลตร้า” ผู้นำของดาวอุลตร้าในขณะนั้น ได้รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ที่ยังมีชีวิตรอด ค้นคว้าหาวิธีที่จะทำให้ชาวเมืองที่เหลือสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไป และท้ายที่สุด พวกเขาก็สามารถคิดค้นดวงอาทิตย์เทียม ที่เกิดจากเครื่องปฏิกรณ์พลังงานพลาสม่า (Plasma Spark)

ชาวอุลตร้าก็ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุขเรื่อยมาก แต่เครื่องปฏิกรณ์พลังงานพลาสม่า ไม่ได้ปล่อยแต่พลังงานพลาสม่าเท่านั้น แต่มันยังปล่อยพลังงานดิฟเฟอร์เรเตอร์ (Differator Energy) ออกมาด้วย

ซึ่งหลังจากชาวอุลตร้าได้อาบพลังงานดิฟเฟอร์เรเตอร์มาหลายแสนปี รูปร่างของพวกเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป มีพละกำลังที่แข็งแรงยิ่งขึ้น สามารถบินและปล่อยลำแสงพลังงานออกมาจากร่างกายได้

 

สงครามแห่งดาวอุลตร้า

(เครดิตภาพ :塗壁)

ข่าวดังกล่าวได้รู้ถึงหูของชนเผ่ามนุษย์ต่างดาวเอมพิร่า พวกเขาจึงรวบรวมกองทัพและสัตว์ประหลาดจากทั่วจักรวาล เข้าโจมตีดาวอุลตร้าเพื่อแย่งชิงแหล่งพลังงานดิฟเฟอร์เรเตอร์ ชาวอุลตร้าจึงรวมพลังกันเพื่อต่อต้านการรุกรานครั้งนี้โดยมีผู้นำเป็น “เจ้าพ่ออุลตร้า” ที่เรารู้จักกันดี

หลังจากการสู้รบอย่างยาวนาน ในที่สุดชาวอุลตร้าก็เป็นฝ่ายชนะ แต่ผลของสงครามครั้งนั้น เจ้าพ่ออุลตร้าได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และขณะที่เขากำลังรักษาตัวอยู่นั้น เขาก็ได้พบรักกับนางพยาบาลคนหนึ่งซึ่งภายหลังได้แต่งงานกันและกลายเป็น “เจ้าแม่อุลตร้า”

 

ก่อตั้งกองบัญชาการรักษาความสงบแห่งจักรวาล

 

เมื่อเจ้าพ่ออุลตร้าหายดี เขาคิดว่าในจักรวาลยังมีผู้ที่ต้องการข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่เสมอ เขาจึงก่อตั้งกองบัญชาการรักษาความสงบแห่งจักรวาล หรือ กรจ. ขึ้นมา (อันนี้ล้อเล่น) เพื่อคอยปกป้องดวงดาวที่อ่อนแอจากมนุษย์ต่างดาวและสัตว์ประหลาดอันชั่วร้าย

โดยกองกำลังนี้ยังแยกออกเป็น หน่วยปราบปราม หน่วยลาดตระเวน หน่วยสื่อสารและหน่วยพยาบาล แต่ทั้งหมดก็มีหน้าที่สนับสนุนการปราบปรามเหล่าร้ายนั่นเอง ซึ่งพวกเขาจะกระจายตัวไปยัง 7 กาแล็คซี่ทั่วจักรวาล แน่นอนว่ารวมถึงกาแล็คซี่ทางช้างเผือกของเราด้วย

แน่นอน ว่าแม้ร่างกายของอุลตร้าแมนจะแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ แต่หากต้องไปอยู่ในดวงดาวที่มีสภาพแตกต่างกันออกไป ก็อาจอยู่ได้นานไม่เท่ากัน

 

Color Timer

 

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องติด “ปุ่มเตือนพลัง” (Color Timer) เอาไว้บนหน้าอก เพื่อให้รู้ว่าควรอยู่บนดาวดวงนั้นนานเท่าไหร่ และสำหรับโลกเราก็ 3 นาทีไงล่ะ

 

 

คำถามที่หลายคนสงสัย

 

เราอาจได้ยินคำว่า “พี่น้องอุลตร้า” ซึ่งหมายถึงอุลตร้าแมนที่มาพิทักษ์โลกทั้งหลายเช่น อุลตร้าแมนโซฟี อุลตร้าแมน อุลตร้าแมนเซเว่น อุลตร้าแมนเอซ (หรือ อุลตร้าแมนเอ) อุลตร้าแมนแจ็ค และอุลตร้าแมนทาโร่ พวกเขาเป็นพี่น้องแท้ๆ ที่เกิดจากเจ้าพ่ออุลตร้าและเจ้าแม่อุลตร้าจริงๆ หรือ?

ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาไม่ได้เป็นพี่น้องแท้ๆ กันแต่อย่างใด มีเพียงอุลตร้าแมนทาโร่เท่านั้นที่เป็นลูกแท้ๆ (สังเกตจากเขา) โดยอุลตร้าแมนโซฟีเป็นลูกน้องของเจ้าพ่ออุลตร้า ส่วนที่เหลือถ้าไม่ใช่เด็กกำพร้าที่สูญเสียพ่อแม่ในสงครามที่เจ้าพ่ออุลตร้าเก็บมาเลี้ยง ก็เป็นมือดีในกองทัพที่เจ้าพ่ออุลตร้าคัดเลือกมา

จริงๆ แล้ว “พี่น้องอุลตร้า” เป็นคำที่เรียกกันเหมือน รุ่นพี่รุ่นน้อง (ในทำนองของคำว่า Brotherhood) ของชาวอุลตร้าที่มาประจำการที่โลกมนุษย์เสียมากกว่า เพราะภายหลังอุลตร้าแมนหลายๆ ตัวก็ถูกนับรวมเข้าไปในกลุ่มพี่น้องอุลตร้าเช่นกัน เช่นอุลตร้าแมนเลโอเป็นต้น

 

สีบนร่างกาย

 

จริงๆ แล้วสีบนร่างกายของอุลตร้าแมนบ่งบอกถึงความถนัดของพวกเขาด้วย อย่างเช่นพวกที่มีลำตัวสีแดง มักจะเป็นพวกที่เก่งกาจด้านการต่อสู้ แต่ถ้าตัวไหนที่ลำตัวสีฟ้า จะเป็นสายนักวิทยาศาสตร์มากกว่า แต่มีอุลตร้าแมนบางตัวที่มีสีฟ้า แต่เป็นสายต่อสู้ก็มีเช่นกัน

 

อุลตร้าแมนจากดาวอื่นๆ

 

นอกจากดาว M78 แล้ว ยังมีอุลตร้าแมนที่มาจากดาวดวงอื่นๆ ด้วย เช่น K76 (อุลตร้าแมนคิง) L77 (อุลตร้าแมนเลโอ) หลายคนอาจถามต่อว่า แล้วไอ้ดาวพวกนั้นมีพลังดิฟเฟอร์เรเตอร์ด้วยเหรอ?

ทางสึบุราย่าก็อธิบายแบบเนียนๆ ว่า มีชาวอุลตร้าที่ไปอาศัยอยู่บนดาวดวงนั้น แล้วก็ออกลูกออกหลาน และเมื่อถึงเวลาสำคัญ ลูกหลานเหล่านั้นก็สามารถแปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนได้ ตะลึ่งตึกโป๊ะ!?

 

ไม่เคยรู้กันมาก่อนเลยละซี ว่าอุลตร้าแมนมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ซับซ้อนขนาดนี้ ว่าแล้วขอกลับไปหยิบอุลตร้าแมนมาดูดีกว่า คิดถึงสมัยเด็กๆ จริงๆ

ที่มา NEXUS-trinity@pantip, GouKoong@pantip

Comments

Leave a Reply