ผลสำรวจชี้ “ผู้ชายแต่งตัวดี” ดูมีเส่นห์และความดึงดูดต่อผู้หญิง มากกว่าการถอดเสื้อ โชว์กล้าม ปาเงิน!?

ทุกวันนี้จะมีผู้ชายอยู่ 2 ประเภทที่สาวๆ ให้ความสนใจคือ ผู้ชายโชว์กล้าม และผู้ชายที่แต่งตัวดูดีมีสไตล์ แล้วอยากรู้มั้ยคะว่า แบบไหนดึงดูดผู้หญิงได้มากกว่ากันเอ่ย?

จากผลการสำรวจของบริษัท Kelton Research ที่สำรวจจากชาวอเมริกันกว่า 1,085 ราย ทั้งผู้ชายและผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป

พบว่า สิ่งหนึ่งที่สำคัญของผู้ชายที่ดูดีและมีเส่นห์นั้น มาจากการแต่งตัวเป็นส่วนสำคัญที่สุด มีส่วนช่วยทำให้ผู้หญิงเริ่มสนใจในตัวของบุคคลนั้น และอยากจะมีปฏิสัมพันธ์ด้วย

 

 

จากการสำรวจในอเมริกาพบว่า 91% ของคนอเมริกันคิดว่า การแต่งตัวดีจะช่วยให้คุณดูน่าสนใจยิ่งขึ้นและเป็นการทำให้คุณดูดีมากกว่าตัวจริงที่เป็นซะอีก

ในขณะที่อีก 64% เชื่อว่า ผู้หญิงจะเลือกแต่งงานกับผู้ชายที่แต่งตัวดีมากกว่าผู้ชายที่รูปร่างดีแต่ชอบโชว์กล้าม หรือผู้ชายที่ไม่มีสไตล์ในการแต่งตัว

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้อีกว่า การแต่งตัวดีจะช่วยดึงดูดเพศตรงข้ามได้มาก และสามารถช่วยเพิ่มเงินเดือนให้สูงยิ่งขึ้นได้ด้วย…

 

การแต่งกายที่จะประสบความสำเร็จ

การวิจัยพบว่า การแต่งการจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า คุณเป็นคนยังไง เพราะการสไตล์การแต่งตัวมักจะสอดคล้องกับลักษณะตัวตนของคุณ นั่นหมายถึงความมั่นใจในตัวเอง ความซับซ้อนของบุคลิก และยังสะท้อนให้เห็นความเฉลียวฉลาดอีกด้วย

จากการศึกษา พบว่า คนอเมริกัน 75% คิดว่า ผู้ชายที่แต่งตัวดูดีจะประสบความสำเร็จมากกว่าเพื่อนร่วมงานที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยหรือดูไม่ดี

และ 22% คิดว่า ผู้ชายที่แต่งตัวดูดีจะมีโอกาสได้รับเงินเดือนเพิ่มมากคนที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยเสียอีก

 

การแต่งตัวให้ดูดี ช่วยกระตุ้นเส่นห์

ผู้หญิงกว่า 78% บอกว่า หากผู้ชายแต่งตัวดูดีเดินผ่านมา จะมองว่าคนๆ นั้นดูมีเส่นห์มาก มีความเร่าร้อนมากกว่าถอดเสื้อโชว์เนื้อหนัง บางคนถึงขนาดยอมคบกับผู้ชายคนนั้น เพียงเพราะตัดสินใจจากการแต่งตัวของเขาเท่านั้น โดยมีเหตุผลประกอบดังต่อไปนี้

ความรักที่ไม่สามารถซื้อได้ – ผู้หญิง 85% คิดว่า ผู้ชายที่แต่งตัวดูดีนั้นเซกซี่กว่าผู้ชายมีเงิน

ผู้หญิงยอมเสียสละอย่างหนัก เพื่อสไตล์ของผู้ชายที่ดูดี – ผู้หญิงกว่า 80% จะยอมทิ้งบางสิ่งในชีวิตไป เช่น ได้ออกไปดินเนอร์ การเล่นโทรศัพท์ทั้งวัน หรือแม้แต่การมีเซกส์ตลอดทั้งปี เพื่อมาคบกับผู้ชายที่แต่งตัวดีมีสไตล์ เพราะเชื่อว่าหลังจากนั้นชีวิตจะมีอะไรดีขึ้นอีกเยอะ

ผู้หญิงชอบชุดสูทสุภาพบุรุษ มากกว่าชุดเครื่องแบบ – ผู้หญิงจำนวน 63% จะให้ความสนใจกับผู้ชายที่ใส่สูทมากกว่าผู้ชายในเครื่องแบบ แต่ทว่าผู้ชายในเครื่องแบบก็สามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดีเช่นกัน

 

 

ความพึงพอใจในสไตล์แฟชั่นของตัวเอง

ชาวอเมริกันจำนวน 63% บอกว่า แฟชั่นเป็นสิ่งที่พวกเขารัก แต่พวกเขาก็ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับแฟชั่นมากพอ ในขณะที่มีเพียง 12% ที่คิดว่า ตัวเองเป็นคนรู้เรื่องแฟชั่นดี ในระดับเกรด A

และเมื่อถามถึงคอลเลคชั่นในตู้เสื้อผ้าของพวกเขาแล้วกลับได้คำตอบที่น่าสนใจว่า…

– 77% คิดว่า เสื้อผ้าที่พวกเขามีนั้น มันควรจะดีกว่านี

– 42% บอกว่า พวกเขาอาจจะแต่งตัวดีกว่านี้ ถ้ารู้จักวิธีการแต่งตัวที่มากพอ

– และอีก 32% ของผู้หญิงมักจะตำหนิเสื้อผ้าของแฟนหนุ่ม ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้มีความรู้เรื่องแฟชั่นเลยเหมือนกัน

 

 

นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจพบว่า ผู้ชายเกือบสามในสี่มักจะไม่มีความรู้ในเรื่องเสื้อผ้าและการแต่งตัว จึงทำให้พวกเขารู้สึกไม่ชอบและไม่มั่นใจเวลาออกไปเลือกซื้อเสื้อผ้า

ในขณะเดียวกันก็มีร้านเสื้อผ้าผู้ชายที่ตระหนักถึงปัญหาของเหล่าผู้ชายในจุดนี้ จึงได้เปิดร้านที่ไม่ใช่แค่ต้องการขายเสื้อผ้าผู้ชายเท่านั้น เพราะจะให้คำแนะนำกับลูกค้าเพื่อให้การแต่งตัวออกมาดูดีด้วย

 

 

George Zimmer ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Men’s Wearhouse กล่าวว่า “ที่ Men’s Wearhouse เรามุ่งมั่นที่จะทำให้การเลือกซื้อเสื้อผ้าของผู้ชายเป็นเรื่องง่าย และสะดวกสบายมากขึ้น เพื่อทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจ จะมีคนคอยให้คำปรึกษาเรื่องการแต่งตัวด้วย”

Men’s Wearhouse มีเสื้อผ้าให้เลือกมากมาย ตั้งแต่เสือผ้าธรรมดาไปจนถึงเสื้อผ้าที่ใส่ในโอกาสต่างๆ เพราะพวกเขาเข้าใจดีกว่า การแต่งตัวของผู้ชายของผู้ชายมีความสำคัญต่อผู้หญิงมากขนาดไหน

 

 

จากการสำรวจเรื่องการแต่งตัวของบริษัท Kelton ได้ส่งผลต่อร้านเสื้อผ้าชั้นนำเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เห็นถึงความสำคัญของการแต่งตัวชองผู้ชายมากขึ้น นำไปสู่รูปแบบการตลาดที่ใส่ใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ในขณะที่ผู้ชายเองก็ได้ปรับเปลี่ยนการแต่งตัวของตัวเองเช่นกัน ซึ่งแม้จะไม่ได้แต่งสูท ผูกไทด์ แต่พวกเขาก็จะแต่งตัวให้ดูดีในสไตล์ที่เข้ากับตัวเอง

ในขณะที่สาวๆ ก็ไม่ได้ชอบผู้ชายในชุดสูทเสมอไป แต่จะรู้สึกชอบผู้ชายที่แต่งตัวดูดีโดยไม่ต้องพยายามอะไรมากมาย เพราะหากแต่งมากจนเกินไปก็จะดูไม่เป็นธรรมชาติ

 

 

รู้แบบนี้แล้ว หนุ่มๆ คิดยังไงกันบ้างเอ่ย?

ที่มา prnewswire