เมื่อเพลง ‘PPAP’ กำลังบูม พาย้อนชม 10 เพลง ที่ฟังแล้ว ‘Earworm’ ฮิตติดหูได้แบบจริงๆ

จู่ๆก็กลายมาเป็นกระแสที่โด่งดังไปทั่วโลกกับเพลง ‘Pine Apple Pen’ ซึ่งมีที่มาจากหนุ่มชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง คิดเมโลดี้ง่ายๆ คำร้องง่ายๆ แต่ชวนให้ติดหูสุดๆ

และจากเหตุการณ์นี้คงทำให้หลายๆคนรู้จักกับอาการ ‘Earworm’ กันมากขึ้น ซึ่งมันไม่ได้เพิ่งเคยเกิดขึ้นหรอก มันเกิดขึ้นกับทุกบทเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกว่ามันติดค้างอยู่ในหัวนั่นแหละ

ปรากฏการณ์แบบนี้ใช่ว่าจะเพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรกซะที่ไหน เพราะทั้ง 10 บทเพลงเหล่านี้ เชื่อว่าหลายคนเคยฟัง และมันก็ทำให้เราเกิดอาการ ‘บทเพลงค้างอยู่ในหัว’ ได้ไม่แพ้กัน

 

10. Harlem Shake – Baauer

แม้แต่ศิลปินเจ้าของเพลงนี้เอง ก็คงไม่คิดมาก่อนว่า จู่ๆเพลงที่ตัวเองแต่งจะกลายมาเป็นการละเล่นอย่างหนึ่งบนโลกอินเตอร์เน็ตไปซะได้ หลายๆคนคงเคยร่วมเล่นด้วยแหละ กับการเต้นบ้าๆบอๆ ในช่วงท่อนพีคของเพลง และที่สำคัญเพลงนี้โคตรจะติดหูเลย

 

9. What Does the Fox Say – Ylvis

ต้องบอกเลยว่าคนแต่งเพลงนี้อัจฉริยะสุดๆ ด้วยโปรดัคชั่นที่ยอดเยี่ยม แต่เนื้อหาที่โคตรไร้สาระสุดๆ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นกระแสโด่งดังสุดๆในช่วงหนึ่ง จนถึงตอนนี้บางทียังมีเสียง ‘ชะชะชะชะชะช่า ชะชะชะชะช่า’ โผล่ขึ้นมาในหัว

 

8. My Humps – The Black Eyed Peas

ยังจำกันได้มั้ยว่าเมื่อปี 2005 ‘The Black Eyed Peas’ ได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่ 3 หลังจากนั้นเพลงนี้ได้กลายเป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่งของวงการเพลงเลยทีเดียว นอกจากท่าเต้นเซ็กซี่สุดๆ (ในช่วงนั้น) และท่อนฮุคที่ร้องว่า ‘มายฮัม มายฮัม มายฮัม มายฮั่ม มายฮั๊ม’

 

7. Barbie Girl – Aqua

ถ้าเพลงนี้เราอาจจะต้องย้อนเวลากันไปนานซักหน่อย (หลายคนอาจเกิดไม่ทัน) เพลงนี้เปิดตัวในช่วงปี 1997 และกลายเป็นเพลงฮิตของเกิร์ลกรุ๊ป ‘Aqua’

เรียกได้ว่าช่วงนั้นจะไปเที่ยวเธค หรือผับที่ไหน ก็ต้องเจอท่อนที่ร้องว่า “I’m a Barbie girl / In a Barbie world / Wrapped in plastic / It’s fantastic.” แม้แต่ทุกวันนี้มันยังค้างอยู่ในหัว #เหมียวบ็อบ เลยเนี่ย

 

6. Who Let Dogs Out – Baha Men

อีกหนึ่งเพลงดังในอดีต ถ้าบอกชื่อศิลปินและชื่อเพลง หลายคนอาจไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่าเพลงนี้มันร้องว่า “Who let’s the dogs out” และตามด้วย “who who who who?” คงจำกันได้

นอกจากเพลงนี้จะเคยฮิตสุดๆแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินจากหนังดังหลายๆเรื่อง ที่มักจะแอบเอาท่อนนี้เข้ามา่ใส่ และด้วยประโยคที่สั้นได้ใจความ ไม่แปลกใจเลยที่เพลงนี้ยังคงค้างในหัวของใครหลายๆคน

 

5. Call Me Maybe – Carly Rae Jepsen

กลับมากันที่ยุคปัจจุบันกันบ้าง เพลงนี้ก็เพิ่งจะโด่งดังสุดๆเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ว่าไปที่ไหนก็ต้องได้ยินเพลงบ้างแหละ โดยเฉพาะตามร้านเหล้า หรือร้านกาแฟ

“Here’s my number, So call me maybe” ท่อนนี้ใช่มั้ยล่ะที่มันติดหูซะเหลือเกิน แต่เพลงนี้ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรขนาดนั้น เพราะด้วยความป็อป และเนื้อหาที่ตรงไปตรงมา จึงไม่แปลกเลยที่มันจะติดหูคนฟัง

 

4. Friday – Rebecca Black

สารภาพตามตรงเลยว่า ครั้งแรกที่ได้ฟังเพลงนี้ถึงกับอุทานในใจดังๆว่า “นี่เอ็งมาร้องเพลง หรือมาบ่นอะไรฟะเนี่ย” เธอทำไปได้อย่างไรกับยอดดิสไลค์บนยูทูปมากถึง 2.4 ล้านครั้ง!!!

เมื่อไหร่ที่นึกถึงเสียงร้องแบบแหบๆแห้งเหมือนเป็ดน้อยของน้องสาวคนนี้ “ฟรายเดย์ ฟรายเดย์” รู้สึกเลยว่านี่มันฝันร้ายชัดๆ แถมยังติดเข้ามาในหัวเราอีก โอ้ววม่ายยยยย…..

 

3. Crazy Frog – Axel F

ยุคแรกๆของการใช้ CGI ในการสร้างศิลปินขึ้นมาในรูปแบบ ‘กบบ้า’ กับการร้องเพลงภาษาอะไรก็ไม่รู้? และจังหวะดนตรีที่ชวนโยกเหมือนอยู่ในผับสุดๆ

เนื้อเพลงก็ดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่ด้วยดนตรีที่วนลูปไปเรื่อยๆ กับท่อนส่งที่มีเสียง ‘Crazy Frog!!!’ แค่เนี๊ยะก็ทำให้เพลงค้างในหูเราสุดๆ

 

2. Gangnam Style – Psy

เพลงแด๊นซ์เบสหนัก ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นปรากฏการณ์โด่งดังไปทั่วโลก แถมยังแจ้งเกิดให้ศิลปินแร็พสัญชาติเกาหลีอย่าง ‘Psy’ อีกด้วย

ถึงแม้จะไม่มีใครฟังเนื้องเพลงรู้เรื่องเพราะมันเป็นภาษาเกาหลี แต่ด้วยประโยคท่อนฮุคที่โคตรจะง่ายๆ สั้นๆ “โอปป้า กังนัมสไตล์” ฟังเพียงแค่ครั้งเดียวก็ซึมเข้าไปลึกลงในซิริบรัม ทำให้เมื่อไหร่ที่เพลงนี้ถูกเปิดในผับ หนุ่มๆสาวๆทำท่าขี่ม้ากันแทบจะไม่ทัน

 

1. Baby – Justin Bieber

ถือว่าเป็นเพลงแจ้งเกิดของนักร้องหนุ่มหล่อหน้าใส เมื่อวัย 15 ปี หลังจากที่ความสามารถของเขาไปเตะตาศิลปินแร็พรุ่นใหญ่อย่าง Usher

เชื่อมั้ยว่าหลังปล่อยเพลงนี้ ชีวิตของ Justin ก็เปลี่ยนไป ชั่วข้ามคืนเพลงนี้ก็ดังไปทั่วโลก ด้วยท่อนร้องที่ว่า “เบบี้ เบบี้ เบบี้ โอ้ววว” แค่เนี๊ยะ!! แต่มันติดหูสุดๆ ขนาดคนไม่ชอบฟังยังร้องได้เลยเชื่อมั้ยล่ะ ฮ่าๆๆ

 

สำหรับศิลปินแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆเลยหล่ะ กับการแต่งเพลงให้เข้าไปติดอยู่ในหูคนฟังให้ได้ แล้วเพื่อนๆล่ะมีเพลงไหนที่ฟังแล้วติดหูสุดๆบ้าง มาแบ่งกันฟังเร็ว

ที่มา: Orzzzz