พาชมความงามของ ‘สถานที่ที่ถูกทิ้งร้าง’ จากทั่วโลกและยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนมากมาย

ในโลกเรานี้ เต็มไปด้วยสถานที่ที่ถูกทิ้งร้าง ซึ่งในแต่ละที่นั้นถูกทิ้งด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป และนั่นก็ทำให้สถานที่เหล่านั้นเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา

แต่ก็ยังมีอีกหลายที่ แม้เวลาผ่านไป อาจมีทรุดโทรมไปบ้าง แต่มันก็ทำให้รู้ว่า ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นสถานที่ที่งดงาม และเต็มไปด้วยเรื่องราว ก่อนที่จะกลายเป็นสถานที่ร้าง เหมือนอย่างสถานที่ต่างๆ ต่อไปนี้ ที่อยู่ในอัลบั้มภาพของ Kieron Connolly

 

ประภาคาร Rubjerg Knude

อยู่ทางเหนือของจัตแลนด์ ประเทศเดนมาร์ก ถูกสร้างขึ้นบนหน้าผาในปี 1900 หยุดใช้การในปี 1968 เนื่องจากการกัดเซาะจากน้ำทะเล และการถาโถมจากทรายจำนวนมาก โดยคาดว่าในปี 2023 ประภาคารนี้จะจมอยู่ใต้ทะเล

1
Photo by Elisabeth Coelfen/Dreamstime

 

โรงงานผลิตแก๊ส Rotunda

อยู่ในวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เปิดใช้งานในปี 1888 และถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และปิดตัวลงครั้งสุดท้ายในช่วงต้นปี 1970 เพราะเมืองได้เปลี่ยนไปใช้ก๊าซธรรมชาติแทน ปัจจุบันส่วนหนึ่งของโรงงานนี้ ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนอื่นๆ ที่เหลือนั้นถูกปล่อยให้ทรุดโทรมเช่นเดิม

2
Photo by Fotorince/Dreamstime.com

 

สถานี City Hall

ตั้งอยู่ในเมืองนิวยอร์ก เป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของเมืองนิวยอร์ก ด้วยโครงสร้างแบบสไตล์โรมัน ประดับด้วยโคมไฟระย้าและทองเหลือง โดยเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 1904 แต่ด้วยลักษณะโค้งงอแบบนี้ ทำให้รถไฟไม่สามารถจอดภายในสถานีได้ และมักไม่ค่อยมีคนใช้บริการ จนในที่สุดก็หยุดให้บริการไปในปี 1945

3
Photo by Michael Freeman/Alamy Stock Photo

 

Oradour-sur-Glane

อยู่ในใจกลางประเทศฝรั่งเศส ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1944 คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กรวมแล้วกว่า 30 คน ถูกนาซีจับเป็นตัวประกัน เพื่อใช้ต่อรองกับฝ่ายต่อต้านของฝรั่งเศสที่จับตัวทหารเยอรมันไป

แต่สุดท้าย ฮิตเลอร์ก็สั่งฆ่าทุกคนในหมู่บ้านนี้ หลังจากสงครามสงบลง รัฐบาลก็สั่งให้เก็บรักษาหมู่บ้านนี้ เพื่อระลึกถึงการสังหารหมู่ในครั้งนี้

4
Photo by ABCDK/Depositphotos

 

ศูนย์พักพิง Clapham

อยู่ในลอนดอน ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งอยู่ใต้ทางรถไฟใต้ดินในลอนดอนอีกชั้นหนึ่ง สามารถรองรับผู้คนได้ถึง 8,000 คน ภายในจะมีเตียง 2 ชั้น มีโรงอาหาร ห้องน้ำ และห้องรักษาพยาบาล

หลังจากสงครามสิ้นสุดลง ที่แห่งนี้ก็ถูกนำมาใช้เป็นที่เก็บข้อมูล หรือแม้กระทั่งหอพักชั่วคราว ต่อมาในปี 2012 ก็ถูกใช้เป็นฟาร์มสำหรับปลูกพืชและสมุนไพรแทน

5
Photo by Robert Stainforth/Alamy Stock Photo

 

โรงแรม Hachijo Royal

ตั้งอยู่บนเกาะฮะจิโจจิมะ ประเทศญี่ปุ่น เปิดให้บริการในปี 1963 แต่สาเหตุที่ทำให้โรงแรมนี้ไม่มีแขก ไม่มีคนสวน อันเนื่องมาจากตั้งอยู่ห่างจากภูเขาไฟไปประมาณ 286 กิโลเมตรเท่านั้น

แม้จะโปรโมทว่าเป็นฮาวายแห่งญี่ปุ่นก็ตาม ผู้คนไม่อาจไว้ใจภูเขาไฟที่อยู่ห่างออกไปได้ จนสุดท้ายก็ต้องปิดตัวลงในปี 2003

6
Photo by Sean Pavone/Dreamstime

 

อาคาร Plymouth

อยู่ในมอนต์เซอร์รัต พื้นที่นอกอาณาเขตของสหราชอาณาจักร เมื่อภูเขาไฟ Soufrière Hills ปะทุขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 1995 ทำให้อาคารจมอยู่ใต้ขี้เถ้าภูเขาไฟ หลังจากนั้นก็เกิดการปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้ประชากรสองในสามต้องย้ายออกไปจากเกาะ เพราะพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเกาะแห่งนี้ไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีกต่อไป

7
Photo by Richard Roscoe/Alamy Stock Photo

 

Bodie Mono County

อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ทองถูกค้นพบในเมือง Bodie แห่งนี้เมื่อปี 1859 จึงมีการตั้งเป็นค่ายเหมืองแร่อย่างเฟื่องฟู แต่ต่อมาก็ลดลงเรื่อยๆ ในปี 1880 จนกระทั่งเหมืองปิดตัวลงในปี 1913 อีก 4 ปีต่อมาก็ถูกทิ้งร้าง แต่เมืองแห่งนี้ก็ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

8
Photo by Alamy Stock Photo

 

โรงละคร Orpheum

ตั้งอยู่ในเมืองนิวเบดฟอร์ด รัฐแมสซาชูเซตส์ แต่เดิมสมาคมนักแม่นปืนชาวฝรั่งเศสแห่งนิวเบดฟอร์ดเป็นเจ้าของมาก่อน ต่อมาในปี 1928 ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Radio-Keith-Orpheum หรือ RKO โดยใช้เป็นสตูดิโอทำสำหรับถ่ายทำภาพยนต์ฮอลีวูด

จนกระทั่งทางสมาคมนักแม่นปืนชาวฝรั่งเศสตัดสินใจขายอาคารแห่งนี้ในปี 1962 และถูกใช้เป็นโกดังสำหรับบริษัทยาสูบ ก่อนที่จะปล่อยที่ร้างในที่สุด

9
Photo by Frank C. Grace

 

สถานีรถไฟ Canfranc

อยู่ในประเทศสเปน เปรียบได้เหมือนดั่งประตูที่เชื่อมระหว่างประเทศฝรั่งเศสและสเปน สถานีแห่งนี้ที่ถูกออกแบบได้อย่างสง่างาม ถูกสร้างขึ้นในปี 1928 แต่ก็ต้องปิดตัวลงในปี 1970 เพราะสะพานข้ามฟากของฝรั่งเศสเกิดทรุดตัวลง และไม่ได้รับการซ่อมแซม แต่สำหรับประเทศสเปนแล้ว ก็ยังคงให้บริการรถไฟภายในประเทศอยู่

10
Photo by Victor Torres/Stocksy

 

สุสานรถไฟ Uyuni

อยู่ในโบลิเวีย ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นศูนย์กลางในการนำแร่ธาตุต่างๆ ไปยังท่าเรือแปซิฟิก หลังจากที่อุตสาหกรรมเหมืองแร่ทรุดตัวลงในปี 1940 รถไฟก็ไม่ได้รับการดูแลอีกต่อไปและยังถูกลมพายุพัดเข้าอย่างหนักด้วย ทำให้ปัจจุบันรถไฟเหล่านี้เต็มไปด้วยสนิม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวมากมายที่แวะเวียนกันมาเยี่ยมชม

11
Photo by Javarman/Dreamstime

 

แม้จะถูกทิ้งร้าง แต่เราก็ยังเห็นได้ชัดว่า ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นสถานที่งดงามมาก่อน

emo (91)

ที่มา designyoutrust

Comments

Leave a Reply