คุณแม่ถึงขั้นต้องเขียน ‘บ้านนี้มีคนป่วยออทิสติก’ กันตำรวจอเมริกา ทำรุนแรงลูกชาย!!

ไม่รู้ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับประเทศสหรัฐฯ เพราะช่วงหลังมานี้ เรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับตำรวจงานผิดพลาด และลงมือรุนแรงกับผู้บริสุทธิ์จนถึงขั้นเสียชีวิต อย่างหนาหูเหลือเกิน

เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ ที่ทำให้คุณแม่ Judy Mckim ต้องยอมเขียนโรงรถของตัวเอง เพราะเกรงว่าตำรวจจะกลับมาทำร้ายลูกชายของเขาอีก

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อ Zachary ลูกบุญธรรมหนุ่มวัย 28 ปี ผู้ป่วยเป็นโรคออทิสติก ทำให้เขามีระดับสมองเทียบเท่ากับเด็กทารก เขาไม่รู้แม้แต่คำที่จะใช้สื่อสาร และต้องสวมใส่ผ้าอ้อมตลอดเวลา

 

555

 

คืนหนึ่งเพื่อนบ้านได้โทรแจ้งตำรวจ เพียงเพราะพวกเขากลัว Zachary ในเวลาที่เขาโมโหส่งเสียงดัง  เมื่อตำรวจมาถึงบ้านหลังนี้ที่อยู่นอกเมือง Las Vegas พวกเขาก็เข้ามาชาร์จและระงับอารมณ์ของหนุ่มคนนี้ด้วยการ จับเขากดลงกับพื้นพร้อมกับเอาเข่ากดลงบนอก

แต่ด้วยความที่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด และสุดท้ายสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำ ก็คือการหันกระบอกปืนเข้าใส่

 

“บ้านนี้มีคนป่วยออทิสติก ตำรวจไม่มีข้ออ้างอะไรทั้งนั้น”  ข้อความที่เธอเขียนติดโรงจอดรถ

autism

 

“ฉันก็แค่อยากจะทำให้มั่นใจว่าตำรวจจะรู้เรื่องพวกนี้ ลูกชายของฉันยังต้องสวมผ้าอ้อม ไม่สามารถสื่อสารด้วยคำพูดได้ และยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปืนคืออะไร เขาเป็นออทิสติก เขาไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น และก็ไม่รู้ด้วยว่าอะไรคือตำรวจ!!” Judy กล่าว

แถมเธอยังกล่าวเสริมอีกว่า “มันทำให้ฉันรู้สึกกลัวมากๆ”

 

“คนป่วยออทิสติก ม่สามารถพูดคุยได้ อาศัยอยู่ที่นี่ ได้โปรด คุณตำรวจอย่าทำร้ายลูกชายฉัน” 

111

 

แต่ถึงกระนั้น ทางกรมตำรวจก็ออกมาแถลงการณ์เช่นเดียวกันว่า ในบันทึกประจำวันนั้น ไม่ได้มีการบันทึกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แตะเนื้อต้องตัวชายคนนี้แต่อย่างใด

พร้อมทั้งยืนยันว่าได้พา Zachary ไปที่โรงพยาบาล เพื่อเฝ้าดูอาการถึง 2 วัน โดยไม่มีการบังคับใดๆ

 

เราไปชมคลิปการรายงานข่าวจากช่อง KTNV ที่เข้าไปสัมภาษณ์คุณแม่ถึงที่บ้าน..

 

งานนี้เราก็ไม่รู้ว่าใครผิด ใครถูก เพราะทางตำรวจก็ออกมาแก้ตัว แต่คุณแม่ก็ยังยืนยันว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง ไม่งั้นเธอไม่ยอมเขียนตัวหนังสือไว้เต็มบ้านแบบนี้แน่ๆ

 

แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็ขออวยพรให้ Zachary มีชีวิตที่ราบรื่น และมีความสุขไปตลอด…

 

emo (1)

ที่มา: Distractify

Comments

Leave a Reply