เศษซากจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ในกรีนแลนด์ ภาพโคตรสวย แต่แอบจิกกัดอเมริกาเจ็บๆ

ย้อนอดีตกันไปซักนิด หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ปะทุดุเดือดกันจนเสร็จสิ้นสงคราม สิ่งสุดท้ายที่ยังคงเหลืออยู่นอกจากผลกระทบและการสูญเสียที่เกิดขึ้นกับใครหลายๆ คนแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นเศษซากกองเหล็กที่ถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างไม่ใยดี

และเช่นเดียวกันกับที่ฟยอร์ดแห่งหนึ่งในกรีนแลนด์ ถึงแม้จะเป็นดินแดนที่อยู่ห่างไกล และดูสงบงดงาม แต่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นที่ประจำการณ์ของฝ่ายสหรัฐฯ กับยุทธการ ‘Bluie’ (ระหว่างสงครามกับเยอรมัน)

 

Ken Bower ช่างภาพแลนด์สเคป ได้ตัดสินใจเดินทางมายังที่แห่งนี้ เพื่อถ่ายภาพเศษซากกองขยะ จากสงครามในอดีตเพียงเพื่อหวังว่า รูปภาพเหล่านี้จะช่วยดึงความสนใจให้ผู้มีอำนาจจากสหรัฐฯ เข้ามาจัดการกับกองเศษเหล็กสนิมเขรอะเหล่านี้…

 

americanflowers-6

 

“ในวันที่แดดจ้า แสงจะตกกระทบลงมาใส่ซากเหล็กเหล่านี้ เมื่อดูไกลๆ ราวกับว่ามันคือดอกไม้” ช่างภาพกล่าว

1

 

ชาวบ้านในท้องถิ่นก็มักจะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า ‘American Flower’ ดอกไม้ที่ชาวอเมริกันทิ้งเอาไว้

2

 

“ถ้าหากเราขึ้นไปบนเนินเขาที่สูงประมาณ 100 ฟุต เราจะได้เห็นเศษเหล็กพวกนี้เรียงรายกันอยู่เยอะมากๆ เลยครับ” Ken กล่าวเสริม

3

 

และยิ่งขึ้นสูงเท่าไหร่ ยิ่งดูเหมือนว่าเศษซากเหล่านี้มีมากขึ้นเท่านั้น

4

 

อีกทั้งยังเต็มไปด้วยเศษซากยานพาหนะของทหารในยุคนั้น ที่ปัจจุบันก็ขึ้นเป็นสนิมหมดแล้ว

5

.

jpg

 

และเศษซากปรักหักพัง ที่ดูแล้วเหมือนว่ามันเคยเป็นโกดัง หรือโรงจอดเครื่องบินมาก่อน จากนั้นก็ถูกธรรมชาติทำให้พังไปตามกาลเวลา

6

.

jpg (1)

 

สำหรับช่างภาพคนนี้ เขาเคยออกเดินทางไปยังขั้วโลกเหนือมาก่อน และยังเป็นนักถ่ายภาพแลนด์สเคปตัวยงอีกด้วย

7

 

เมื่อได้ยินเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ เขาก็ได้เกิดความคิดขึ้นมาว่า ‘ต้องให้เห็นด้วยตาของตัวเองให้ได้!!’

8

 

ครั้งแรกเขาได้มาเยือนที่นี่เมื่อช่วง สิงหาคม 2014 ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำแข็งเริ่มละลายแล้วสำหรับที่นี่

9

 

“ผมอยากถ่ายภาพในช่วงที่ยังมีหิมะตกอยู่ เพื่อให้ได้ภาพสีขาวของหิมะ ตัดกับสีสนิมจากซากเหล็กเหล่านี้” เขากล่าว

10

 

เขาจึงตัดสินใจกลับมาอีกครั้งเมื่อ กรกฎาคม 2015 ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานถึง 5 วัน กว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่ได้

11

 

ต้องปีนเขาขึ้นไปไกลกว่าไมล์ครึ่ง เพื่อตั้งแคมป์หลบหนีเหล่าหมีขั้วโลกที่อาจจะเข้ามาจู่โจมได้ทุกเมื่อ

13

 

และภาพเหล่านี้ถูกถ่ายเมื่อเวลาประมาณ ตี 4 – 6 โมงเช้า เพราะเป็นช่วงที่เมฆ หมอก ทั้งหลายฟุ้งกระจายอยู่เต็มท้องฟ้า คอยบดบังแดดให้

14

 

และระหว่างการถ่ายภาพสถานที่นี้ ช่างภาพหนุ่มยังเล่าอีกด้วยว่า เขาไม่พบเจอผู้คนหรือสัตว์เลยแม้แต่ตัวเดียว มันเงียบสงบเอามากๆ

15

 

และนี่คือเรื่องราวการเดินทางของ Ken Bower และภาพย้อนรอยอดีตสงครามเหล่านี้…

16

กว่าจะเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะเนี่ย ก็หวังว่าสักวันจะมีคนเข้าไปจัดการกับเศษเหล็กขึ้นสนิมทั้งหมดนี้สักที

เพราะจริงๆ แล้วมันเป็นสถานที่ที่สวยม๊ากกก มากกก เลยแหละ

emo (158)

ที่มา: BusinessInsider

Comments

Leave a Reply