หนุ่มแว่นช่วยเหลือเจ้าเหมียวน้อยหวังจะหาบ้านใหม่ให้กับมัน…สุดท้ายเปลี่ยนใจเลี้ยงไว้ซะเอง!!

เจ้าเหมียวจรจัดตัวน้อยมีอายุได้เพียง 5 สัปดาห์ อาศัยอยู่เพียงลำพังไม่มีใครดูแลแม้แต่คนเดียว แต่โชคดีของมันที่ถูกคนใจดีช่วยเอาไว้ได้…

 

มารู้จักกับเจ้า Beans Pepé

1

 

“ผมพบมัน และพามายังคลินิกช่วยเหลือสัตว์ป่า Wildlife Rehabilitation Clinic ที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ Schuylkill Center ที่ผมทำงานเป็นอาสาสมัครอยู่” คุณ Luke ผู้ที่ช่วยเหลือเจ้าเหมียวน้อยกล่าว

“ผมตกหลุมรักมันในทันที ในตอนแรกนั้นผมปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ว่าจะทำอย่างไรกับมันดี เขาก็แนะนำว่าให้ดูแลมันจนแข็งแรงก่อน พร้อมกับฉีดวัคซีน จากนั้นก็ตามหาบ้านใหม่ให้กับมัน” เขาเล่าเพิ่มเติม

 

ในขณะที่เขาอุ้มมันอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์ เจ้าเหมียวตัวน้อยก็แปลงร่างตัวเองให้กลายเป็นเครื่องจักรที่สร้างเสียงกรนตลอดเวลา ราวกับว่ามันรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่กับเขา คุณ Luke ก็เลยตัดสินใจที่จะนำมันกลับไปเลี้ยงที่บ้าน

 

2

 

“มันเดินสำรวจบ้านไปทั่วและก็เล่นอย่างสนุกสนาน ในวันที่ผมพามันมาที่บ้าน มันเป็นแมวที่มีนิสัยขี้เล่น กล้าหาญ และมีความมั่นใจในตัวเองสูงมากเลยล่ะ” Luke กล่าว

 

3

 

เจ้าเหมียว Beans ชอบที่จะถูกอุ้มโดย และมักจะคลอเคลียอยู่ตลอดเวลา มันจะส่งเสียงกรนตลอดทุกครั้งที่คุณ Luke อุ้มมันขึ้นมา

“มันมองมาที่ผม บิดขี้เกียจจากนั้นก็เริ่มส่งเสียงกรนราวกับว่าเป็นเลื่อยไฟฟ้าเลยทีเดียว และถ้าผมยิ่งลูบหัว และเกาคางให้กับมันเสียงกรนก็จะยิ่งดังมากขึ้นไปอีก” Luke กล่าว

 

4

 

เจ้า Beans ดูผ่อนคลาย และกำลังจะผลอยหลับไปในมือของเขา

5

 

แลดูจะมีความสุขนะพ่อหนุ่มที่ได้จ้องมองมันหลับแบบนั้นน่ะ จงภูมิใจในความเป็นทาสซะเถอะนะคุณ Luke!! ฮร่า

6

 

เขาแนะนำเจ้า Beans ให้รู้จักกับเจ้าเหมียวตัวอื่นที่อยู่ในบ้านอีกด้วย

และนี่ก็คือเจ้าเหมียว Butters Raul ที่ถูกเขาช่วยเหลือมาด้วยเช่นกัน “พวกเขาจะต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอย่างแน่นอน ^^” Luke กล่าว

“นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ผมได้รับเจ้าเหมียวทั้งหลายมาเลี้ยง พวกมันเหมือนเป็นจิ๊กซอว์ที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตของผม ทำให้ผมมีความสุขราวกับว่าทุกวันเป็นงานปาร์ตี้เลยล่ะ” เขากล่าวปิดท้าย

7

.

8

 

แหม่ ที่รู้สึกสบายใจก็เป็นเพราะว่าเค้าเป็นหนุ่มแว่นใช่มั้ยล่ะเจ้าเหมียว ชั้นรู้นะว่าแกน่ะคิดอะไรอยู่ หึๆ

emo (121)

ที่มา : lovemeow

Comments

Leave a Reply