ตามไปชม ‘White Desert’ แคมป์ที่พักหรูสุดในขั้วโลกใต้ กับค่าทัวร์คนละ 2.5 ล้าน

เนื่องจากการเดินทางไปที่ค่อนข้างจะใช้เวลายาวนาน และค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพียงแค่ 30,000 คนจากทั่วโลกต่อปีเท่านั้น ที่จะได้มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสวิถีธรรมชาติที่ทวีปแอนตาร์คติกา หรือ ขั้วโลกใต้

Robyn และ Patrick Woodhead สองผู้ก่อตั้งแคมป์ที่พักสุดหรูท่ามกลางความหนาวเหน็บในแบบขั้วโลกใต้ ที่นอกจากแขกจะได้เข้าพักในแคมป์ที่อำนวยความสะดวกได้เพรียบพร้อมที่สุดในแพ็คเกจราคาสูงกว่า 2.5 ล้านบาท ต่อคน

ยังรวมถึงโปรแกรมทัวร์ที่พาเราไปใกล้ชิดธรรมชาติได้สุดๆ อีกต่างหาก และที่สำคัญสถานที่แห่งนี้เปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะช่วงเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม เท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นที่สุด โดยค่าเฉลี่ยอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ -36 ฟาเรนไฮต์ในเดือนพฤศจิกายน และ -16 ฟาเรนไฮต์ในเดือนธันวาคม ส่วนค่าเฉลี่ยอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ -40 ฟาเรนไฮต์ในเดือนพฤศจิกายน และ -20 ฟาเรนไฮต์ในเดือนธันวาคม (นี้ขนาดเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นที่สุดแล้วนะ!!)

เราไปชมรีวิวที่พักและโปรแกรมทัวร์ที่เปิดเผยโดยเว็บไซต์ BusinessInsider กันเลยว่าราคาขนาดนี้ เราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์อะไรบ้าง……

 

แขกที่เข้าพักจะต้องเดินทางจาก Cape Town ประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อมาถึงจุดหมายโดยใช้ระยะเวลาเดินทางนานกว่า 5 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว

guests-arrive-at-the-camp-after-a-55-hour-flight-from-cape-town-on-an-iluyshin-76-jet-they-land-at-whats-officially-known-as-unknown-international-airport

 

แคมป์แห่งนี้มีห้องพักที่ออกแบบเหมือนกระท่อมอิกลู คอยให้บริการอยู่ 6 ห้อง ซึ่งรองรับได้แค่ 2 คนต่อห้องเท่านั้น

2

 

ตัวอย่างภายในห้องพัก มีเตียงคู่ ฮีตเตอร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายระหว่างการเดินทางในขั้วโลกใต้

white-desert

 

ทุกๆ ห้องพัก จะมีห้องน้ำในตัว ถึงแม้จะดูเล็กๆ แต่เชื่อเถอะว่าดีกว่าการต้องออกไปขับถ่ายกลางสภาพอากาศอันแสนหนาวเหน็บแน่นอน

each-suite-has-a-washing-area-and-a-toilet

 

นอกจากกระท่อมห้องพักของแขกแล้ว ที่นี่ยังมีกระท่อมที่ใช้สำหรับเป็นห้องทานอาหาร ห้องครัว และห้องอาบน้ำแยกออกมา ดูไกลๆ แล้วเหมือนก้อนหินเลยแฮะ

3

 

ส่วนของเลานจ์ที่ได้รับการตกแต่งออกมาให้ดูสบายตา และเรียบง่ายสุดๆ

the-lounge-was-designed-to-be-casual-and-comfortable

 

ห้องทานอาหาร เป็นโต๊ะกลมที่ทำมาจากไม้โอ๊ค ล้อมรอบไปด้วยเก้าอี้ที่มีขนเฟอร์เพื่อความอบอุ่นระหว่างรับประทานอาหาร

4

 

ที่สำคัญคือที่พักแห่งนี้ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์และพลังงานลม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากๆ

the-camp-is-powered-by-solar-and-wind-energy

 

ในส่วนของโปรแกรมทัวร์ ไกด์จะพาแขกไปผจญภัยกับน้ำแข็งทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นถ้ำน้ำแข็ง หรือท้าทายความเสียวด้วยการปีนหน้าผาน้ำแข็ง

white-deserts-field-guides-take-guests-on-all-kinds-of-icy-adventures-from-easy-ice-tunnel-exploring-to-more-complicated-rock-climbing

 

หรือจะปรับเปลี่ยนโปรแกรมทัวร์ตามความต้องการของแขกก็ได้เช่นกัน

the-guides-can-adjust-the-pace-of-the-activities-according-to-the-guests-needs

 

อีกทั้งยังมีบริการพาเรานั่งเครื่องบินกว่า 2 ชั่วโมงไปลงที่ Atka Bay ที่ๆ เป็นเหมือนดั่งอาณาจักรของเหล่านกเพนกวินกว่า 6,000 ชีวิต

in-addition-to-a-journey-to-the-south-pole-white-desert-will-also-take-you-on-a-two-hour-flight-to-atka-bay-where-a-colony-of-6000-penguins-reside

 

และที่วิเศษไปกว่านั้นคือ เจ้าเพนกวินที่นี่ไม่กลัวคน!! เพราะแขกที่เคยเข้าพักต่างรีวิวเหมือนกันว่า สามารถถ่ายรูปคู่กับเพนกวินได้อย่างใกล้ชิดสุดๆ

according-to-the-hotels-guides-the-penguins-are-not-afraid-of-humans-and-will-let-guests-get-up-close-for-a-photo

 

เป็นยังไงกันบ้างล่ะกับที่พักพร้อมโปรแกรมทัวร์ ที่ราคาอาจจะไม่แพงมากแค่ประมาณ 2.5 ล้านบาทเท่านั้นเอง (ไม่แพงตรงไหนฟะ?) และสำหรับใครที่สนใจละก็ เข้าไปติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์: White Desert ถ้าหากใครมีโอกาสได้ไปเยือนแล้ว อย่าลืมนำมาเล่าสู่ให้กันฟังด้วยน๊าาา

emo (150)

ที่มา: BusinessInsider

Comments

Leave a Reply