เจ็บตัวฟรี!? หนุ่มจีนยืนลุ้นรอภรรยาคลอดลูก จู่ๆ โดนหมอจับไปผ่าตัดริดสีดวงแบบงงๆ ซะงั้น…

หมอเป็นอาชีพหนึ่งที่ต้องอาศัยความเข้มงวดและรอบคอบมากที่สุดอาชีพหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะพวกเขาทำงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน ความเป็นความตาย ผิดพลาดนิดเดียวอาจหมายถึงชีวิตคนๆ หนึ่งเลย

แต่เนื่องจากเป็นมนุษย์ ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้บ้างเป็นครั้งเป็นคราว อย่างเช่นเรื่องที่ #เหมียวฟิ้น กำลังจะนำเสนอต่อไปนี้

เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า หนุ่มจีนแซ่หวัง วัย 29 ปีกำลังยืนรอภรรยาคลอดลูกอยู่ภายในโรงพยาบาลเสิ่นหยาง ประเทศจีน เมื่อวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ในระหว่างที่เขากำลังรอภรรยาคลอดลูกน้อยอย่างใจจดใจจ่อ จู่ๆ ก็มีคุณหมอเข้ามาเรียกตัวเขาไปในห้องผ่าตัด

 

1

 

เนื่องจากโรงพยาบาลมีห้องผ่าตัดเพียง 2 ห้องเท่านั้น นายหวังจึงเขาใจว่าเขาถูกนำตัวไปยังห้องผ่าตัดของภรรยาและคิดว่าหมออาจจะต้องการให้เขาช่วยเหลือในการทำคลอดของภรรยา

แต่หมอกลับสั่งให้เขาถอดกางเกงออกโดยไม่ทันได้พูดคุยหรืออธิบายอะไรเลย แม้จะพยายามถามหมอแล้วว่าทำไมเขาถึงต้องถอดกางเกง หมอก็เอาแต่บอกให้เขาทำตามคำสั่งเท่านั้น “มันรู้สึกแปลกมาก และผมเลยถามเขาว่าทำไม? พวกเขาเลยตอบว่า ‘แค่ทำตามที่เราบอกก็พอ’” นายหวังกล่าว

 

3

 

ต่อมาคุณหมอก็ทำการวางยาสลบแก่นายหวังและทำการผ่าตัดริดสีดวงให้กับเขา ในระหว่างการผ่าตัดนั้น นายหวังได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ไปด้วย เจ้าตัวบอกว่าในขณะนั้นเขารู้สึกมีความสุขมาก

นายหวังบอกว่า “ผมไม่เคยรู้ว่าผมมีริดสีดวงทวารด้วย เมื่อผมขึ้นเตียงผ่าตัด ผมได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ผมมีความสุขมาก และผมอยากจะกอดเขาสุดๆ แต่ผมเคลื่อนไหวไม่ได้ เพราะผมรู้สึกเจ็บอยู่”

 

2

 

หลังจากที่เขาผ่านการผ่าตัดริดสีดวงแบบงงๆ แล้ว ทางโรงพยาบาลก็ได้มีการออกมาขอโทษแก่เขาและบอกว่าทั้งหมดเป็นความผิดพลาดของทีมแพทย์เอง

โดยพวกเขาอธิบายว่าก่อนที่จะผ่าตัดริดสีดวงให้เขานั้น จริงๆ แล้วควรจะเป็นคนไข้อีกคน แต่นายหวังดันมายืนอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดตอนนั้นพอดี ทำให้ทีมแพทย์นึกว่าเขาคือคนไข้ที่รอคิวผ่าตัด

ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลได้เสนอเงินค่าเสียหายให้กับนายหวังเป็นจำนวน 25,000 บาท แต่ยังไม่มีการยืนยันและเตรียมที่จะเจรจาค่าเสียหายกันใหม่ในเร็วๆ นี้

 

งานนี้ถือว่าโชคร้ายมากเลยนะเนี๊ยะ แค่มารอภรรยาคลอดลูกก็ดันถูกจับขึ้นเขียงผ่าตัดสะงั้น

ยังไงแล้วขอให้เรียกค่าเสียหายให้คุ้มกับที่เจ็บตัวแบบงงๆ นะ

emo13

ที่มา dailymail

Comments

Leave a Reply