การแพทย์สุดสะพรึงในอดีต… ความเชื่อเรื่องกิน ‘ซากศพ’ สามารถช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้!!!

ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์นั้นพัฒนาไปอย่างมาก ทั้งในเรื่องของยารักษาโรค และอุปกรณ์ต่างๆ แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่ากว่าจะมาเป็นอย่างทุกวันนี้ได้ก็ต้องมีการทดลองลองผิดลองถูกกันมามากมาย

และมีครั้งหนึ่งที่มีความเชื่อว่า ‘การกินเนื้อมนุษย์’ เป็นหนึ่งวิธีในการรักษาโรคอีกด้วย!! เอาล่ะจะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้นตาม #เหมียวหง่าว ไปชมพร้อมๆ กันได้เลยยย…

 

ย้อนกลับไปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ถึง 17 วิทยาการทางด้านการแพทย์ในสมัยนั้นค่อนข้างที่จะโบราณอยู่ก็ว่าได้

จากการศึกษาของ Richard Sugg พบว่าในช่วงกว่า 100 ปีนี้หลายๆ ชาติในยุโรปมีการใช้ส่วนต่างๆ ในร่างกายของมนุษย์มาทำเป็นยารักษาโรค ยกตัวอย่างเช่น กระดูก, เลือด, และไขมัน สามารถนำมารักษาอาการปวดศีรษะและโรคลมบ้าหมูได้

1

 

ด้วยความเชื่อนี้ทำให้ศพมัมมี่มากมายถูกขโมยไปจากสุสานของชาวอียิปต์ นอกจากนี้ยังมีการขโมยกระโหลกอีกจำนวนมากไปจากที่ฝังศพของชาวไอริช ซึ่งผลงานเหล่านี้เป็นฝีมือของ ‘นักขุดศพ’ (เป็นอาชีพเถื่อนที่หารายได้จากการขุดศพไปขาย)

ต้องบอกเลยว่าในยุคนั้นคำถามที่ว่า ‘เคยกินเนื้อมนุษย์รึเปล่า?’ เป็นคำถามที่เด็กๆ ไปเลย เพราะควรจะถามว่า ‘คุณเคยกินเนื้อมนุษย์แบบไหน?’ มากกว่า Sugg กล่าว

2

 

เทคโนโลยีการทำศพของชาวอียิปต์นั้นช่วยรักษาเนื้อเยื่อและกระดูกได้เป็นอย่างดี จึงทำให้มัมมี่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะส่วนกระโหลกจะถูกนำมาป่นเป็นผงเพื่อใช้ในการรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับศีรษะ

Thomas Willis ผู้คิดค้นวิธีในการนำผงกระโหลกมาผสมกับช็อคโกแลตทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อรักษาโรคลมชัก และใช้ห้ามเลือด

1

 

พระราชา Charles ที่ 2 ของประเทศอังกฤษได้นำกระโหลกของคนมาผสมกับแอลกอฮอล์เพื่อนำมาล้างแผล เรียกว่า ‘The King’s Drops’ 

ไม่เพียงแค่นั้น…ต้นมอสที่ขึ้นตามกระโหลกที่ถูกทิ้งไว้ เรียกว่า Usnea ก็สามารถนำมาป่นเป็นผงเพื่อรักษาโรคลมบ้าหมู และเลือดกำเดาไหล ได้อีกด้วย

และส่วนของไขมันถูกนำมาใช้ในการรักษาภายนอก หมอชาวเยอรมัน นำมันมาใช้ด้วยการเอาผ้าพันแผลชื้นๆ เอามาพันร่วมกับไขมันบริเวณที่เป็นเกาต์จะช่วยทำให้หายได้

3

 

และแน่นอนว่าส่วนของ ‘เลือด’ เองก็ไม่พลาดจะถูกนำมาใช้รักษาโรคเช่นกัน Paracelsus หมอลูกครึ่งเยอรมัน-สวิสฯ เชื่อว่าการดื่มเลือดสดๆ ของมนุษย์จะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกาย 1 ในผู้ติดตามของเขาได้ถูกแนะนำให้ไปหาเลือดสดๆ จาก ‘คนเป็น’ มาดื่ม

ซึ่งในช่วงนั้นนี่การซื้อ-ขายเลือดของมนุษย์นั้นสามารถหาได้ทั่วไปตามร้านขายยาเลยล่ะ เพราะเชื่อว่าการดื่มเลือดจะช่วยให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายนั้นมีสุขภาพที่ดี

4

 

โชคดีที่ความเชื่อเรื่องการรักษาโรคด้วยศพของมนุษย์นี้ได้สูญหายไปพร้อมๆ กับความต้องการในการใช้ ‘มัมมี่’ จากอียิปต์ ที่มากเกินไป…

อาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ปัจจุบันก็ได้มีการปัดฝุ่นการใช้มนุษย์ในการรักษาขึ้นมา แต่ไม่ได้รักษาด้วยการดื่มกินเหมือนในอดีตนะ ฮร่า

จากการศึกษาวิจัยกันมาอย่างยาวนานก็ทำให้พบว่าอวัยวะของมนุษย์นั้นสามารถนำมาใช้ร่วมกันกับผู้อื่นได้อย่างเช่น เลือด หัวใจ ใต เป็นต้น ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องสอบถามถึงความสมัครใจของผู้ให้บริจาคร่างกายอีกด้วย ไม่ได้ไปขโมยมาจากศพเหมือนในอดีต

5

 

เป็นเรื่องราวที่ชวนขนหัวลุกซะจริงเชียว กว่านวัตกรรมทางการแพทย์จะพัฒนามาถึงจุดนี้ได้นี่ต้องบอกเลยว่าลำบากเอาการเลยนะเนี่ย

emo13

ที่มา : viralnova, smithsonianmag

Comments

Leave a Reply