งานวิจัยใหม่ชี้ การตัดต่อพันธุกรรมทารกให้ทนต่อเชื้อ HIV อาจทำให้เด็กตายเร็วกว่าที่ควร

เพื่อนๆ เคยได้ยินเรื่องราวของ เทคโนโลยีที่ชื่อ CRISPR หรือ CRISPR-edited กันไหม?

นี่คือเทคโนโลยีการตัดต่อและแก้ไขดัดแปลงพันธุกรรมซึ่งเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา จากการที่มันถูกนำไปใช้ในการดัดแปลงพันธุกรรมที่ถูกมองว่า “ผิดจรรยาบรรณ” อย่างการตัดต่อพันธุกรรมในเด็กที่ประเทศจีน

(อ่านข่าวเก่าได้ที่ นักวิทย์เผย เด็กตัดต่อพันธุกรรมรุ่นใหม่ กำลังจะถึงกำหนดคลอดในอีก 6 เดือน)

 

 

การตัดต่อพันธุกรรมเหล่านี้ เชื่อกันว่าจะทำให้เด็กทารกมีความสามารถทนต่อเชื้อ HIV, โรคฝีดาษ, และอหิวาตกโรคได้

แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามนักวิทยาศาสตร์หลายๆ ฝ่ายก็กลัวกันว่าการดัดแปลงพันธุกรรมในมนุษย์นั้นอาจจะมีผลข้างเคียงที่เลวร้ายซ่อนอยู่ก็เป็นได้

 

 

และแล้วเมื่อล่าสุดนี้เอง ดูเหมือนว่าความกลัวของนักวิทยาศาสตร์ที่กล่าวมาข้างต้นก็อาจจะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว เมื่อมีงานวิจัยชิ้นใหม่ที่ออกมาชี้ว่าการตัดต่อพันธุกรรมในเด็กด้วยระบบ CRISPR นั้น อาจส่งผลให้เด็กจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรก็เป็นได้

โดยในงานวิจัยชิ้นนี้ ทีมนักวิจัยได้ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลของประชาชนชาวอังกฤษผู้มีอายุตั้งแต่ 41-78 ปี จำนวน 400,000 คนและพบว่าคนที่มียีน CCR5 ที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือกลายพันธุ์ไป (ซึ่งเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติในคนกลุ่มเล็กๆ อย่างชาวยิวอัชเคนาซิ) จะมีโอกาสอายุยืนถึง 76 ปี ต่ำกว่าคนทั่วไปถึง 20%

 

 

นี่นับว่าเป็นการค้นพบที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งเลยก็ว่าได้ เพราะการปรับแต่งยีนที่เกี่ยวข้องกับเชื้อ HIV ที่ผ่านๆ มา (โดยเฉพาะในการทดลองของจีน) ล้วนแต่เป็นการปรับแต่งยีน CCR5 ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เด็กๆ ที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมเองก็อาจจะอายุไม่ยืนเท่าที่ควรเช่นกัน

ที่สำคัญคือ งานวิจัยในครั้งนี้เองยังไม่ใช่งานวิจัยเพียงชิ้นเดียวที่ออกมาชี้ถึงความอันตรายของการปรับแต่งยีน CCR5 เสียด้วย เพราะก่อนหน้านี้เองเราก็เคยมีงานวิจัยที่ออกมาอ้างว่าการปรับแต่งยีน CCR5 อาจเพิ่มความเสี่ยงที่คนเราจะเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่อีกด้วย

 

 

ในท้ายที่สุดแล้ว ทีมนักวิจัยก็ได้ให้ข้อสรุปของการทดลองเอาไว้ว่า “ในกรณีนี้ การที่คนเราจะต่อต้านเชื้อ HIV ได้ อาจจะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอื่นๆ ที่มากขึ้นก็เป็นได้” 

 

ที่มา nature, iflscience และ livescience

Comments

Leave a Reply