หนุ่มไทยสร้างประวัติศาสตร์ เรียนจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ ในฐานะ ‘โรบินฮูด’

กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว เมื่อสื่อนำเสนอข่าวกรณีของ ‘หนุ่มโรบินฮู้ดไทย’ สร้างประวัติศาสตร์ จบหมอคนแรกจากมหาวิทยาลัยยูซีเอสเอฟ เมดิเคิล สกูล

เรื่องของเรื่องคือ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Siamtownus ที่รายงานข่าวคนไทยในอเมริกา ได้เปิดเผยเรื่องราวของ นายจิรายุทธ ลัทธิวงศกร หรือ นิว

เขากลายเป็น ‘ว่าที่คุณหมอ’ คนแรกในประวัติศาสตร์ 155 ปี ของยูซี ซานฟรานฯ ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยยูซีเอสเอฟ เมดิเคิล สกูล ทั้งที่อยู่ในสถานภาพ ‘โรบินฮูด’

 

 

นายจิรายุทธเป็นหนึ่งในโรบินฮูดเชื้อชาติไทยที่มีอยู่มากมายในสหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาอยู่แบบ ‘เกินวีซ่านักท่องเที่ยว’ ตั้งแต่อายุได้ 9 ขวบ หลังจากที่ติดตามพ่อแม่เข้ามาเมื่อหลายปีก่อน

เพื่อนๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไมนายจิรายุทธถึงเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ ทั้งๆ ที่อาศัยอยู่ในอเมริกาแบบผิดกฎหมาย

คำตอบก็คือเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยภายใต้โครงการของ University of California, San Francisco  ที่เน้นให้การศึกษาแก่กลุ่มคนผู้อพยพเป็นหลักนั่นเอง

 

 

ระหว่างที่เรียนหมอ นายจิรายุทธก็ทำงานเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของกลุ่มอพยพเข้าประเทศ มีผลงานเป็นที่ยอมรับ ยกตัวอย่างเช่น

หนังสือพิมพ์เก่าแก่ของซานฟรานซิสโก รายงานว่าหนุ่มไทยคนนี้มีเรื่องน่าทึ่งมากมาย

ทั้งเป็นศิษย์เก่าของสถาบันที่มีชื่อเสียง ทั้งยูซีแอลเอ (เบิร์คเลย์) และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

เป็นหนึ่งในคนที่อายุต่ำกว่า 30 ปี ที่ได้รับการยกย่องโดยนิตยสารฟอร์บส์ ประจำปี 2017

เป็นผู้ก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือผู้อพยพ และอื่นๆ อีกหลายประเด็น

 

 

ข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจดังนี้ครับ

 

“จบแพทย์มาก็ดีหรอก แต่มันน่าภูมิใจตรงไหน ที่เราไปทำผิดกฎหมายในประเทศอื่นเค้า”

 

“นี่แหละความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ไม่มีใครสนใจหรอกว่าวิธีการที่ได้มานั้นจะถูกต้องหรือไม่ คนสนแค่ผลลัพธ์ ถูกผิด-ดีชั่ว มันเปลี่ยนแปลงกันได้ตลอด”

 

“การอยู่แบบผิดกฎหมายนั้นถือเป็นการเบียดเบียนคนที่จ่ายภาษีหรือไม่? ถ้าเบียดเบียนก็ไม่ดี นักเรียนทุนก็หวังว่าจะตอบแทนคุณกับประเทศที่ให้ทุน ให้มีที่ยืน มีชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับโอกาส หมอก็ควรตอบแทนอเมริกาด้วยนะครับ”

 

แล้วเพื่อนๆ ชาวแคทดั๊มบ์ล่ะครับ มีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง?

ลองคอมเมนต์เข้ามาแลกเปลี่ยนกันได้เลยนะครับ

 

ที่มา : siamtownus

Comments

Leave a Reply