นักวิจัยพบ “น้ำทะเล 20,000 ปี” ที่มัลดีฟส์ คาดมาจากยุคน้ำแข็งและเค็มกว่าน้ำทะเลปัจจุบัน

กลายเป็นเรื่องที่เหล่านักวิจัยหลายๆ คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากไปแล้ว เมื่อวารสาร Geochimica et Cosmochimica Acta ฉบับเดือน กรกฎาคม ค.ศ. 2019 ได้มีการตีพิมพ์การค้นพบ “น้ำทะเลอายุ 20,000 ปี” จากยุคน้ำแข็งในหมู่เกาะมัลดีฟส์ ในบริเวณเอเชียใต้

แน่นอนว่าเมื่อจู่ๆ มีคนมาบอกว่าตนเองค้นพบน้ำอายุ 20,000 ปี เชื่อว่าคงมีหลายคนไม่น้อยที่เกาหัวสงสัยว่า รู้ได้อย่างไรว่าน้ำที่พบอายุเท่าไหร่ และน้ำที่พบนั้นแตกต่างจากน้ำธรรมดาที่เราเห็นกันทุกวันอย่างไร

 

 

สำหรับคำถามข้อแรกนั้นสามารถอธิบายได้ง่ายกว่าที่คิด นั่นคือน้ำดังกล่าวถูกพบอยู่ในสถานที่ปิด (ในหินปูนใต้ทะเล) ดังนั้นน้ำที่พบจึงไม่ได้ถูกผสมกับน้ำทะเลรอบๆ และสภาพไม่ได้เปลี่ยนไปจากในอดีตเลย

โดยในการหาตัวอย่างน้ำเหล่านี้ ทีมนักวิจัยได้เจาะเอาตัวอย่างหินปูนออกมาด้วยสว่านแบบพิเศษ ก่อนจะทำการหั่นหินปูนที่พบออกเป็นส่วนๆ และนำหินปูนดังกล่าวไปเข้าเครื่องกดแบบไฮดรอลิคเพื่อ “คั้น” น้ำที่อยู่ภายในหินออกมา

 

 

ส่วนคำถามที่ว่าน้ำที่พบนั้นแตกต่างจากน้ำธรรมดาอย่างไร คงต้องบอกว่าแม้จะไม่น่าเชื่อก็ตาม แต่องค์ประกอบของน้ำทะเลที่พบนั้นมีความแตกต่างจากน้ำทะเลในปัจจุบันมากเลยทีเดียว

กล่าวคือน้ำทะเลที่พบนี้มีความเค็มที่สูงมาก สูงยิ่งกว่าน้ำทะเลในปัจจุบันเสียอีก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าน้ำทะเลในสมัยก่อนนั้นมีปริมาณเกลืออยู่มากกว่าในปัจจุบัน อย่างน้อยๆ ก็ในช่วงเวลาเมื่อ 20,000 ปีก่อน

 

หมู่เกาะมัลดีฟส์ พื้นที่ซึ่งนักวิจัยเข้าไปตรวจสอบและพบน้ำทะเลโบราณในครั้งนี้

 

อ้างอิงจากนักวิจัยที่น้ำทะเลโบราณที่พวกเขาพบ ชี้ให้เห็นว่าพวกมันมาจากช่วงเวลาที่ทะเลไม่เพียงแต่เค็มกว่าในปัจจุบัน แต่ยังมีคลอรีนมากกว่า และเย็นกว่า

ลักษณะเช่นนี้ ช่วยสนับสนุนแนวคิดที่ว่า น้ำเหล่านี้มาจากยุคน้ำแข็งใหญ่ครั้งสุดท้าย (Last Glacial Maximum) เพราะในเวลานั้นธารน้ำแข็งในสมัยก่อนได้ดูดน้ำทะเลออกไปเป็นจำนวนมาก

จนปริมาณน้ำทะเลเหลืออยู่ต่ำกว่าในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ทะเลมีความเข้มข้นสูงขึ้นตามไปด้วย

 

 

คุณ Clara Blättler ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านธรณีฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยชิคาโก หนึ่งในทีมวิจัยบอกว่า ลักษณะทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนั้นบ่งชี้ว่าน้ำที่พวกเธอพบนั้นเป็นน้ำจากมหาสมุทรที่มีอายุ 20,000 ปีจริงๆ

นี่นับว่าเป็นหลักฐานโดยตรงชิ้นแรกของท้องทะเลในอดีตเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากเรานำน้ำเหล่านี้ไปตรวจสอบต่อ เราก็จะมีโอกาสสูงมากที่จะได้รับความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับท้องทะเลในสมัยก่อนและความเกี่ยวพันระหว่างทะเลกับความเปลี่ยนแปลงของโลกได้เป็นอย่างดีเลย

 

ที่มา livescience, phys และ sciencedirect

Comments

Leave a Reply