นักโบราณคดีเชื่อ พบซากเรือนำเข้าทาสลำสุดท้ายของสหรัฐฯ แล้ว หลังค้นหามาเกือบ 150 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1860 ราวๆ 52 ปีหลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้มีกฎหมายสั่งห้ามการนำคนมาขายในประเทศในฐานะทาส ยังมีเรือลำหนึ่งลักลอบนำคนกว่า 110 คน เข้ามาขายในประเทศอย่างผิดกฎหมาย และได้ชื่อว่าเป็นเรือลำสุดท้ายที่นำทาสแอฟริกามาขายในประเทศไป

 

ภาพจิตรกรรมฝาผนังของเรือทาสลำสุดท้าย

 

เรือลำดังกล่าวนี้มีชื่อว่า “Clotilda” มันหายไปจากประวัติศาสตร์เป็นเวลาราวๆ 150 ปี ก่อน ในที่สุด เหล่านักโบราณคดีทางทะเลแห่งสหรัฐอเมริกา จะทำการค้นพบซากเรือถูกเผาลำหนึ่งในรัฐอลาบามา และคาดกันว่าซากเรือที่พบนี้เป็นของเรือที่หายไปเป็นเวลานาน

อ้างอิงจากคณะกรรมาธิการประวัติศาสตร์อลาบามา (AHC) ที่พวกเขากันว่าเรือที่พบเป็นของเรือ Clotilda นั้นมีเหตุผลมาจากสภาพของตัวเรือที่ไม่เพียงแต่มีขนาดใกล้เคียงกับเรือทาสที่หายไปเท่านั้น แต่มันยังทำจากไม้ที่มีที่มาคล้ายกับที่บันทึกไว้ในประวัติการสร้างเรือ Clotilda อีกด้วย

 

การตรวจสอบไม้จากซากเรือ เพื่อความเป็นไปได้ที่จะพบเลือดของกัปตันเรือ

 

เป็นไปได้ว่าการที่ซากเรือลำนี้มีร่องรอยการถูกเผานั้น น่าจะมาจากการที่เหล่าพ่อค้าทาสพยายามจะทำลายหลักฐานการนำเข้าทาสของตัวเองในอดีต แถมยังดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำสำเร็จในระดับหนึ่งด้วย เพราะทาสที่มากับเรือลำนี้มีรายงานว่าถูกพบตั้งถิ่นฐานอยู่ที่รัฐอลาบามาในภายหลัง

น่าเสียดายที่เรือลำดังกล่าวนี้อยู่ในสภาพที่เสียหายจนไม่เหลือหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่จะมายืนยันว่ามันเคยมีชื่อว่า Clotilda จริงๆ อีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามมันมีก็เป็นความเป็นไปได้ที่สูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอยู่ดี

 

หลักฐานอื่นๆ จากซากเรือที่พบ

 

ทั้งนี้ในปี 2018 ทางรัฐอลาบามาก็เคยมีข่าวการค้นพบซากเรือที่คล้ายๆ เรือ Clotilda มาก่อนอีกลำหนึ่งเคยกัน อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบขนาดเรือแล้ว เรือลำดังกล่าวมีขนาดใหญ่เกินไป ดังนั้น เรื่องลำดังกล่าวจึงถูกมองว่าไม่ใช่เรือทาสที่หายไปแต่อย่างใด

 

ที่มา livescience, nationalgeographic และ allthatsinteresting

Comments

Leave a Reply