พบป้อมปราการเก่าแก่สองแห่งสร้างทับกันในประเทศอียิปต์ คาดอาจมีอายุถึง 2,600 ปี

ย้อนกลับไปในปี 2008 ทีมนักโบราณคดีของอียิปต์ได้ทำการค้นพบร่องรอยของป้อมปราการทางทหารที่แหล่งโบราณคดี Tell El-Kedwa ทางตอนเหนือของจังหวัดไซนาย ประเทศอียิปต์

อย่างไรก็ตามด้วยความที่ป้อมปราการแห่งนี้มีขนาดที่ใหญ่โตมาก การขุดค้นตัวป้อมจึงกินเวลายาวนานกว่าทศวรรษ และเพิ่งจะมีการออกมาประกาศผลการขุดค้นทั้งหมด เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา

 

 

ป้อมปราการที่พบถูกสร้างขึ้นโดยอิฐโคลนในสมัยราชวงศ์ที่ 26 ของอียิปต์ ซึ่งปกครองประเทศเมื่อราวๆ 2,600 ปีก่อน และเป็นราชวงศ์สุดท้ายที่เป็นชนพื้นเมืองของอียิปต์จริงๆ ก่อนที่ชาวเปอร์เซียจะเข้ามายึดครองประเทศเมื่อช่วง 525 ปีก่อนคริสตกาล

อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงโบราณวัตถุอียิปต์ ป้อมปราการทางทหารที่ถูกพบในปี 2008 นั้นเป็นค่ายทหารที่ถูกสร้างขึ้นมาทับตัวป้อมปราการโบราณในภายหลังอีกที ดังนั้นในตอนที่มีการค้นพบโบราณสถานแห่งนี้ใหม่ๆ พวกเขาจึงไม่คิดว่าป้อมปราการที่พบจะมีอายุเก่าแก่ขนาดนี้

 

 

คุณ Moustafa Waziri เลขาธิการของสภาโบราณวัตถุแห่งอียิปต์บอกว่า หากนับแค่ป้อมปราการแห่งเดิม โบราณสถานแห่งนี้ก็นับว่าเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยมีการพบมาในประเทศเลย

ตัวป้อมปราการโบราณนั้น มีกำแพงกว้างถึง 7 เมตร และมีหอคอยอีก 4 แห่ง ในขณะที่ปราการใหม่ซึ่งคาดกันว่าสร้างขึ้นในช่วงเวลาราวๆ 1 ศตวรรษให้หลัง มีกำแพงกว้างถึง 11 เมตร และมีหอคอยมากถึง 16 แห่ง

 

นัยน์ตาของฮอรัส หนึ่งในวัตถุโบราณที่ถูกพบในพื้นที่

 

จากการตรวจสอบของนักโบราณคดี กำแพงของที่แห่งนี้มีร่องรอยการถูกโจมตีอย่างหนักมาก่อนในอดีต ซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีกว่าใครก็ตามที่ประจำการอยู่ที่นี่ น่าจะต้องพบกับศัตรูที่มีฝีมือมากๆ มาก่อน แม้ว่าเราจะไม่สามารถฟันธงว่าสุดท้ายการรบที่นี่จบลงอย่างไรก็ตาม

แน่นอนว่าการค้นพบโบราณสถานใหญ่ๆ เช่นนี้ ย่อมมาพร้อมกับการค้นพบวัตถุโบราณอื่นๆ ไปด้วย ซึ่งในการค้นพบครั้งนี้เอง นักโบราณคดีก็ยังพบกับหัวธนู มีดหิน รูปแกะสลัก เครื่องดินเผา และวัตถุโบราณอื่นๆ อีกมากมาย

 

 

โดยหนึ่งในวัตถุโบราณชิ้นสำคัญที่พบในที่แห่งนี้ ก็คือสร้อยคอที่สลักชื่อของฟาโรห์ Psamtik I ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วง 664-610 ปีก่อนคริสตกาลเอาไว้ ดังนั้นเหล่านักโบราณคดีจึงคาดกันว่า ป้อมปราการโบราณแห่งนี้ น่าจะถูกสร้างขึ้นมาในช่วงชีวิตของฟาโรห์ Psamtik I นั่นเอง

 

ที่มา dailymail, ahram และ livescience

Comments

Leave a Reply