นักโทษประหารยอม ‘ถูกรมควัน’ เสียดีกว่า ‘ถูกฉีดยา’ ให้เหตุผลเพราะโรคประจำตัว

การประหารชีวิตสำหรับนักโทษคดีร้ายแรงนั้นมีหลายวิธีด้วยกัน แต่วิธีที่เจ็บปวดน้อยที่สุดเห็นจะเป็นวิธีการ ‘ฉีดยาพิษเข้าร่างกาย’ ที่ทำให้นักโทษได้ตายอย่างสงบ แต่ก็ใช่ว่านักโทษทุกคนจะต้องการวิธีนี้

Russell Bucklew เป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืน และฆาตกรรมที่ได้รับโทษประหารชีวิตด้วยการฉีดยา แต่เขาไม่ต้องการ และยืนยันว่าต้องการรับโทษด้วยการถูกรมควันแทนเพราะมีเหตุผลเกี่ยวกับโรคประจำตัว

ย้อนกลับไปในปี 1996 Russell Bucklew ได้ทำการลงมือฆาตกรรม Michael Sanders แฟนใหม่ของอดีตคนรัก พร้อมยิงลูกชายวัย 6 ขวบของเขา ก่อนจะลงมือข่มขืนอดีตแฟนสาว และลักพาตัวเธอไป

 

ต่อมาเขาถูกจับดำเนินคดี และศาลแห่งรัฐมิสซูรีได้ตัดสินให้ Russell รับโทษประหารชีวิตในปี 2014 แต่กระบวนการประหารได้ถูกหยุดเอาไว้

ต่อมาในปี 2018 เขาเข้าสู่กระบวนการประหารชีวิตอีกครั้ง ซึ่งในปีนั้นขั้นตอนการประหารชีวิตของเขาก็ถูกพักกลางคัน

โดยทนายได้อ้างว่าเขามี “เงื่อนไขด้านสุขภาพที่หาได้ยากและมีความรุนแรง” ซึ่งกระบวนการการฉีดยาอาจส่งผลต่อโรคร้ายที่เขาเป็นอยู่ และทำให้เจ็บปวดกว่าเดิม

และ Russel ได้ชี้แจงต่อว่าเขาจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงหากถูกฉีดยาพิษเข้าสู่ร่างกาย เขาจึงต้องการถูกประหารชีวิตด้วยการรมควันแทน

 

 

Russell ทุกข์ทรมานจากโรคเนื้องอกในหลอดเลือด ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนสีม่วงหรือน้ำเงินอยู่ในเนื้อเยื่อชั้นลึก

นั่นทำให้หลอดเลือดของเขาอ่อนแอ และผิดปกติ ส่งผลให้เกิดเนื้องอกในสมอง ลำคอ และริมฝีปาก รวมถึงมีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดดำด้วย

ทนายของจำเลยกล่าวว่า “เนื้องอกเหล่านี้มีความเสี่ยงในการแตก และเลือดออกได้ง่ายในขณะที่เขาดิ้นรนเพื่อหายใจระหว่างขั้นตอนการประหารชีวิตด้วยการฉีดยา เพราะว่าเนื้องอกในลำคอของเขาอาจแตกออกได้ และเขาจะสำลักเลือดของตัวเอง”

 

 

ทั้งนี้ ผู้พิพากษาของศาลฎีกาได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า การกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการถ่วงเวลาทั้งๆ ที่เขาสมควรจะถูกประหารชีวิตตั้งแต่ปี 2014

พวกเขายังกล่าวอีกว่า “ผู้ต้องหาจำเป็นต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าวิธีการประหารชีวิตแบบที่เขาต้องการนั้นจะสามารถช่วย ‘ลดความเสี่ยงต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรง’ ได้อย่างไร ซึ่งเขาไม่ได้พิสูจน์ให้เราเห็น”

และท้ายที่สุดศาลปกครองสูงสุดแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีคำสั่งตัดสินแล้วว่านาย Russel จะถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษเข้าสู่ร่างกายตามเดิม

 

ที่มา: unilad, ladbible, cbsnews, bbc


Tags:

Comments

Leave a Reply