นักวิทย์พบ เซลล์แมมมอธ “คืนชีพ” ชั่วคราว และพยายามแบ่งตัว หลังฉีดเข้าไปในไข่ของหนู

ย้อนกลับไปในช่วงปี ค.ศ. 2011 ที่ไซบีเรีย นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการค้นพบมัมมี่ของช้างแมมมอธอายุกว่า 28,000 ปีตัวหนึ่ง ถูกฝังอยู่ในชั้นดินที่เป็นน้ำแข็งคงตัวหรือ “เพอร์มาฟรอส” และมีสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีการพบมา

 

 

แน่นอนว่าตั้งแต่วันนั้นมา เหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ได้พยายามใช้ประโยชน์จากความสมบูรณ์ของมัมมี่ตัวนี้ในการทดลองต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงความพยายามในการคืนชีพแมมมอธด้วยการโคลนนิ่ง

และแล้วหลังจากที่เวลาผ่านไปเกือบ 8 ปี ในที่สุดเหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ได้ออกมารายงานความคืบหน้าของการทดลองที่พวกเขาทำจนได้

เพราะเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาเหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ได้ออกมารายงานการ “คืนชีพ” ของเซลล์แมมมอธ หลังจากที่มีการปลูกถ่ายลงไปในไข่ของหนู

 

 

นี่เป็นการทดลองที่จัดทำขึ้นโดยการนำนิวเคลียสที่มีความสมบูรณ์ค่อนข้างสูงของช้างแมมมอธสายพันธุ์ “Mammuthus primigenius” ไปปลูกถ่ายไว้ในไข่ของหนูทดลองเพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเซลล์ดังกล่าว

พวกเขาพบว่าการกระทำนี้จะทำให้โครโมโซมของช้างแมมมอธเกิดการปฏิกิริยาขึ้น และมีร่องรอยของการเริ่มต้นกระบวนการแบ่งตัวให้เห็น ซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีว่าแม้เวลาจะผ่านไปกว่า 28,000 ปี เซลล์ก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาทำงานได้อีกครั้ง

 

 

น่าเสียดายกระบวนการแบ่งตัวของเซลล์ช้างแมมมอธในไข่หนูกลับหยุดการทำงานลงกลางคันก่อนที่จะมีการแบ่งตัวเกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งเป็นไปได้ว่ามีสาเหตุมาจากความเสียหายของเซลล์ที่นำมาใช้

ทีมนักวิทยาศาสตร์บอกว่าผลการทดลองที่ออกมานั้นทำให้พวกเขามั่นใจว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่มีความก้าวหน้ามากพอที่จะโคลนนิ่งช้างแมมมอธได้ (อย่างน้อยก็ด้วยเซลล์จากมัมมี่ที่พบ)

เพราะแม้ว่าพวกเขาจะใช้เซลล์ที่มีสภาพดีที่สุดในการทดลอง แต่ผลที่ออกมาก็ยังคงจบลงด้วยความล้มเหลวอยู่ดี

 

 

ถึงอย่างนั้นก็ตามตัวการทดลองในครั้งนี้เองก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ เพราะ Rebekah Rogers ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านชีวสารสนเทศของมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนา บอกว่าแค่การที่นักวิทยาศาสตร์สามารถฉีดเซลล์ของช้างแมมมอธลงไปในไข่ของหนูได้ก็เป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์อยู่แล้ว

เพราะหากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้เป็นไปตามที่อ้างจริงๆ ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะสามารถทำการตัดต่อยีนของหนู เพื่อให้ไข่ของมันเข้ากันกับเซลล์ช้างแมมมอธมากกว่าในปัจจุบัน จนนำไปสู่กระบวนการแบ่งตัวที่สมบูรณ์มากขึ้นก็เป็นได้

และไม่แน่เหมือนกันว่าเมื่อวันนั้นมาถึง ความฝันที่จะได้เห็นช้างแมมมอธตัวเป็นๆ อีกครั้งของมนุษยชาติ อาจจะกลายเป็นจริงขึ้นมาก็เป็นได้

 

ที่มา livesciencefoxnews และ allthatsinteresting

Comments

Leave a Reply