ลูกแมวขนร่วงเป็นหย่อมๆ แต่ด้วยความรักจากมนุษย์ มันจึงกลับมามีขนปุกปุยอีกครั้ง

พลเมืองดีพบลูกแมวครอกหนึ่งอยู่หลังบ้าน มีสิ่งสกปรกปกคลุมร่างกายของพวกมัน และคาดว่าแมวน้อยน่าอายุแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น เขาจึงรีบติดต่อไปยังศูนย์พักพิงเพื่อขอความช่วยเหลือ

ตอนแรก เขาอาสารับอุปถัมภ์ลูกแมว แต่เมื่อดูดีๆ กับพบว่าพวกมันมีสภาพแย่กว่าที่เขาคิด และสุดท้ายมีเพียงลูกแมวตัวสีดำที่รอดมาได้ แต่สถานการณ์ของมันยังอยู่ในขั้นรุนแรงและน่าเป็นห่วงมากๆ

 

 

ทางศูนย์พักพิงได้อาบน้ำยาฆ่าเชื้อให้เจ้าเหมียวและยังเอายาให้มันกินด้วย แต่อาการของมันก็ยังคงแย่ลงเรื่อยๆ ผู้ดูแลจึงลงความเห็นว่าควรส่งมันไปอยู่กับคนที่มีประสบการณ์ด้านการช่วยเหลือมากกว่านี้

นั่นคือตอนที่ Hearts Alive Village ศูนย์ช่วยเหลือในลาสเวกัส รับมิ้วไปอยู่ในการดูแล

Ellen Richter ผู้อุปถัมภ์จาก Hearts Alive Village บอกว่า “ฉันไปรับมัน โดยไม่รู้ว่าอาการมันแย่แค่ไหน ฉันรู้แค่ว่ามันเป็นลูกแมวอายุ 5 สัปดาห์”

 

 

เธอบอกอีกว่า “ในใบที่แจ้งมา เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงบอกว่ามันเป็นกลากเกลื้อนในขั้นที่ร้ายแรงมาก นั่นทำให้ฉันอยากพามันไปอยู่ในที่ปลอดภัย”

หลังจากรับแมวน้อยมาอยู่ในการดูแล พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า Kai ซึ่งนอกจากเป็นกลากเกลื้อนแล้ว มันยังผอมแห้ง และมีขนร่วงเป็นกระจุก

“ฉันไม่เคยเห็นลูกแมวที่สภาพแย่เท่านี้มาก่อน มันเงยหน้ามองฉันด้วยดวงตากลมโต นั่นทำให้หัวใจฉันแตกสลาย เมื่อคิดถึงสิ่งที่มันต้องเจอก่อนหน้านี้” Ellen บอก

 

 

Ellen พาแมวน้อยกลับไปดูแลที่บ้าน และทำให้มันรู้สึกสะดวกสบายเท่าที่จะทำได้ เธอบอกว่ามันปรับตัวได้ตั้งแต่คืนแรก และรู้ว่าได้อยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว แต่ตอนที่จะเข้านอน เธอก็อดห่วงไม่ได้ กลัวว่ามันจะไม่รอดถึงวันรุ่งขึ้น

ปรากฏว่า Kai ผ่านคืนแรกมาได้ อย่างไรก็ตาม เส้นทางของมันยังอีกยาวไกลและไม่มีอะไรง่ายเลย…

Ellen เสริมลูกแมวด้วยอาหารเปียก เพื่อทำให้ร่างกายของมันกลับมาอบอุ่น รักษาโรคผิวหนังของมันด้วยแชมพูฆ่าเชื้อ รวมทั้งรักษาแผลในช่องปากมันด้วย

ตลอดการรักษานี้ Kai รู้สึกสับสนและไม่ดูไม่มีความสุขเลย

 

 

ตลอดการรักษานี้ Kai รู้สึกสับสนและไม่ดูไม่มีความสุขเลย เพราะมันไม้เข้าใจว่ามนุษย์กำลังช่วยมัน ขณะเดียวกัน Ellen ไม่สามารถแตะตัวมันได้ หากไม่สวมถุงมือ และไม่สามารถกอดมันได้ หากไม่ห่อมันด้วยผ้าขนหนู เพราะการแตะตัวมัน อาจทำให้แผลกลากเกลื้อนเปิดได้

แต่ถึงอย่างนั้น Ellen ก็ไม่ยอมแพ้ที่จะช่วยมัน เธอยังคงทุ่มเทรักษามันอย่างเต็มที่ โดยหวังว่าแมวน้อยจะรับรู้ได้ว่าเธอรักมันมากแค่ไหน และที่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยให้มันรอด

หลายสัปดาห์ต่อมา อาการของ Kai ก็เริ่มดีขึ้น มันมีพลังงานมากขึ้น มันดูไม่เหมือนลูกแมวที่ Ellen พบตอนแรกเลย มันแข็งแรงขึ้นทุกวัน

 

 

เนื่องจากโรคกลากเกลื้อนของแมวน้อยยังไม่หายดี Ellen จึงยังไม่ให้มันพบกับเพื่อนแมวตัวอื่น มันจะโกรธเธอมาก เมื่อเธออาบน้ำให้ เธอพยายามเล่นกับมัน แต่มันกลับไม่ชอบทำอะไรร่วมกับเธอเลย

เวลาผ่านไป ขนของมันเริ่มงอกใหม่เรื่อยๆ จนกลายเป็นแมวขนปุยสีดำ และกลับมามีสุขภาพแข็งแรงสมบุรณ์ใน 10 สัปดาห์ต่อมา

มันหายจากการเป็นกลากเกลื้อน ไม่มีขนร่วงเป็นหย่อมๆ อีกต่อไป ในที่สุด Ellen ก็สามารถลูบมันได้ จูบมันได้ และกอดมันได้โดยไม่ต้องสวมถุงมือ หรือห่อด้วยผ้าขนหนูอีกต่อไป

 

 

หลังจากที่่ร่างกายกลับมาอยู่ในสภาพปกติแล้ว Kai ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะรับความรัก Ellen ซึ่ง Ellen เองก็ทั้งกอด ทั้งจูบ และบอกรักมันทุกวัน

Ellen บอกว่า “มันไม่ง่ายเลยในการฟื้นฟูสภาพจิตใจของมัน ทุกครั้งที่ฉันคิดว่าเราก้าวไปข้างหน้า แต่จริงๆ เราถอยหลังหนึ่งก้าวเสมอ”

มันดูขี้เล่น สนใจของเล่น และหญิงสาวเองก็ค่อยๆ ให้มันทำความรู้จักกับแมวตัวอื่นทีละน้อย แต่เจ้าเหมียวไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติกับเพื่อนๆ อย่างไร มันทั้งตกใจและมีท่าทีต่อต้านแมวตัวอื่น

 

 

โชคดีที่แมวของ Ellen มีความอดทนสูงมาก ดังนั้น พวกเขาจึงช่วย Kai ปรับตัว ด้วยการใช้ความอดทนที่สูงมาก และไม่น่าเชื่อว่าวันที่รอคอยจะมาถึง

วันหนึ่ง เจ้าเหมียวกลายเป็นแมวที่รักสนุก มันเริ่มเล่นโดยไม่อาย แถมยังกระโดดขึ้นมาบนขาของแม่บุญธรรมแล้วให้เธอวิ่งตามด้วย

 

 

เมื่อไหร่ที่ Kai พร้อมสำหรับการรับเลี้ยง Ellen หวังว่ามันจะได้เจอคนที่พิเศษและมอบความรักให้มันตามที่มันสมควรได้รับ

Ellen ได้เขียนในประวัติของ Kai ว่ามันมีปัญหาเรื่องพฤติกรรม การปรับตัว และยังเป็นกลากเกลื้อนอยู่บ้าง ซึ่งเธอคิดว่าคงไม่มีใครอยากรับเลี้ยงแมวแบบนี้แน่ๆ

แต่ปรากฏว่าไม่ใครทุกคนที่คิดแบบนั้น มีครอบครัวหนึ่งมองว่า Kai เป็นแมวที่น่ารัก และพวกเขารักในแบบที่มันเป็น พวกเขายินดีรับเลี้ยงมัน แม้รู้อยู่แล้วว่านิสัยมันเป็นยังไง

 

 

และแล้ววันที่ 2 มีนาคม Kai ก็ได้ย้ายไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ ครอบครัวที่รับเลี้ยงเป็นครอบครัวใหญ่ พวกเขาตกหลุมรักเจ้าเหมียวตั้งแต่แรกเจอ และตื่นเต้นกับการมีเจ้าเหมียวเป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน

 

 

Kai เป็นแมวที่สมบูรณ์แบบ มันรักทุกคนที่รักมัน พี่น้องแมวที่มันเจอในบ้านใหม่ก็รักมันเช่นกัน พวกมันเล่นด้วยกันและใช้เวลาอยู่ด้วยกันเสมอ

ครอบครัวได้เปลี่ยนชื่อให้น้องแมวเป็น Flicka มันชอบสะบัดหางเพื่อเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ และชอบกระโดดขึ้นไปนั่งชิลล์บนระเบียง และไม่ว่ามันจะทำอะไร มันก็ดูน่ารักสำหรับครอบครัวไปซะหมด

 

 

Flicka ผ่านช่วงเวลาที่ลำบากมามาก ตอนแรกมันแทบจะไม่รอดด้วยซ้ำ แต่ด้วยความรักความห่วงใยมันถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนละตัว

และดูมันตอนนี้สิ…

 

 

ที่มา lovemeow


Tags:

Comments

Leave a Reply