แคนาดาปล่อยหมาป่า กระโดดร่มลงพื้นที่อุทยาน ควบคุมประชากรกวางมูสตามวิถีธรรมชาติ

ห่วงโซ่อาหาร คือ การที่ธรรมชาติแบ่งสิ่งมีชีวิตออกเป็น ผู้ล่า และ ผู้ถูกล่า เพื่อสร้างสมดุลในระบบนิเวศ โดยสัตว์ทุกระดับนั้นต่างมีปฏิสัมพันธ์กันเป็นระบบ เพื่อไม่ทำให้ระบบนิเวศเสียความสมดุล

เช่นเดียวกันกับที่อุทยานแห่งชาติไอร์รอยาล (Isle Royale National Park) ณ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ต้องการทั้งผู้ล่า คือหมาป่า และผู้ถูกล่า คือกวางมูส ให้มีจำนวนที่สมดุลกัน

มีรายงานว่าหมาป่าสายพันธุ์แคนาดาถูกปล่อยจากเครื่องบินลงที่รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์เพื่อทำภารกิจสำคัญถึง 2 ภารกิจด้วยกันคือ ล่ากวางมูส และผสมพันธุ์

 

 

หมาป่าทั้ง 4 ตัวถูกจับโดยผู้ชำนาญเฉพาะทางของกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งเมืองออนตาริโอ (Ontario Ministry of Natural Resources and Forestry)

และถูกขนย้ายไปยังอุทยานแห่งชาติไอล์รอยาล ที่ซึ่งสัตว์ป่าถูกปกป้องจากอันตรายท่ามกลางเกาะในทะเลสาบสุพีเรีย (Lake Superior)

การย้ายที่อยู่ใหม่ให้กับหมาป่านั้นเกิดขึ้นเพื่อจัดการปัญหาประชากรกวางมูสมากเกินไปในเขตอุทยาน และเพื่อฟื้นฟูจำนวนประชากรผู้ล่าด้วยเช่นกัน

 

 

หลังจากที่อุทยานไอร์รอยาลประสบปัญหาจำนวนหมาป่าลดลงตั้งแต่ปี ค.ศ. 1958 และเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานั้น จำนวนประชากรในฝูงหมาป่าก็เหลือแค่ 24 ตัว

ซึ่งทั้ง 24 ตัวนี้ต่างแยกตัวออกจากกันเพราะสภาพอากาศที่แปรปรวน ซึ่งทำให้เกิดสะพานน้ำแข็ง (Ice Bridges) โดยเชื่อว่าหมาป่าสามารถใช้เส้นทางนี้ออกจากเกาะไปยังแผ่นดินใหญ่ได้

 

 

ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้จำนวนกวางมูสเพิ่มมากขึ้น จาก 975 ตัวในปี 2013 เพิ่มถึง 1,500 ตัวในปี 2018 จนส่งผลกระทบถึงระบบนิเวศวิทยาในเกาะ และท้ายที่สุดแล้วเมื่อถึงหน้าหนาว กวางมูสต่างทยอยอดอาหารตายอยู่ดี

ปัญหานี้จึงถูกแก้โดยการเพิ่มประชากรในฝูงหมาป่า โดยนำหมาป่าอีกกลุ่มหนึ่งจำนวน 4 ตัว เข้าร่วมฝูงกับหมาป่าเจ้าถิ่นจำนวน 4 ตัว ซึ่งมีจำนวน 2 ตัวที่สืบเชื้อสายมาจากหมาป่าเชื้อสายดั้งเดิมของเกาะ ทั้ง 8 ตัวนั้นมีทั้งเพศผู้และเพศเมีย

หมาป่าฝูงใหม่ถูกจับด้วยการวางกับดัก และถูกตรวจร่างกายโดยสัตวแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าสุขภาพแข็งแรงพอที่จะถูกนำไปปล่อยได้ และทุกตัวจะถูกใส่ปลอกคอเพื่อง่ายต่อการติดตาม

 

 

ผู้ที่เกี่ยวข้องกล่าวว่าหมาป่านั้นต่างค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับบ้านใหม่และฝูงใหม่ของมัน ซึ่งไม่มีปัญหาหลักอะไรให้น่าเป็นห่วง

อีกทั้งกวางมูสคืออาหารหลักเพียงอย่างเดียวในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งก็เชื่อว่าระบบนิเวศวิทยาของเกาะนั้นจะกลับสู่สภาวะปกติได้ในอนาคต

ศูนย์บริการอุทยานแห่งชาติแห่งสหรัฐอเมริกา (US National Park Service) ได้ตั้งเป้าไว้ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้านั้น จะเพิ่มจำนวนหมาป่าในเกาะให้ได้โดยประมาณ 20 – 30 ตัวเช่นกัน

 

วิดีโอการปล่อยหมาป่าที่อุทยานแห่งชาติไอร์รอยาลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

 

ที่มา: Motherboard, TheGuardian, NPLSF, Narcity


Tags:

Comments

Leave a Reply