นักธุรกิจใหญ่โพสต์ภาพ ยืนหลังซากช้างแอฟริกา อ้างว่าทำไปเพื่อเป็นการ ‘ป้องกันตัว’

* ภาพประกอบเนื้อหามีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน *

 

บ่อยครั้งที่เหล่านักธุรกิจใหญ่ มักจะหากิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจด้วยการออกไปล่าสัตว์ป่า และเป็นอีกครั้งที่ทำให้สังคมโลกตั้งข้อสงสัยว่า มันเหมาะสมแล้วหรือไม่?

 

 

กรณีนี้เกิดขึ้นกับนาย Mike Jines นักธุรกิจจากรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา หุ้นส่วนบริษัทด้านพลังงาน TopGen Energy ได้โพสต์ภาพคู่กับซากช้าง พร้อมกับนายพรานอาชีพ Max ‘Buzz’ Delezenne และเป็นเหตุเกิดขึ้นที่ประเทศซิมบับเว

 

 

การล่าช้างในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมปี 2018 แต่ภาพถ่ายชุดนี้ยังไม่ได้รับการเผยแพร่ลงสื่อโซเชียลในทันทีทันใด และเพิ่งจะได้กระแสตอบรับด้านลบอย่างหนักเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา

ภาพที่ชาวเน็ตได้เห็นผ่านสื่อออนไลน์ ต่างทำให้รู้สึกโกรธกับสิ่งที่เขาทำลงไป และตั้งข้อสงสัยว่าการกระทำอันป่าเถื่อนนี้ ทำไปเพื่อเพียงความสนุกและสะใจของคนเพียงไม่กี่คน

 

 

ทั้งนี้ นาย Jines เคยโพสต์ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ไว้ว่า ในขณะที่พวกเขาออกล่าสัตว์ในซาฟารีเปิดเป็นวันแรก ในระยะเวลาเพียง 30 นาทีของช่วงเช้า พวกเขาก็พบกับช้างเชือกแรกวิ่งชาร์จพุ่งเข้ามา จึงตัดสินใจยิงไป 2 นัดจนมันล้มลงไป

 

 

ภายหลังจึงเห็นว่ามีช้างอีกเชือกโผล่มาจากด้านหลัง พุ่งมาด้วยความเร็วสูง พวกเขาจึงตัดสินใจยิงอีกคนละ 1 นัด เพื่อล้มช้างให้หยุดจากการวิ่งเข้ามาทำร้าย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำลงไปเพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง

 

 

ภายหลังจากที่โลกออนไลน์ได้เห็นภาพและรับรู้เกี่ยวกับกรณีนี้ ก็ยิ่งทำให้หลายคนรู้สึกว่า ไม่สมควรกระทำแบบนี้กับสัตว์ป่า และการถ่ายภาพคู่กับซากช้างที่ยิงไปนั้น ยิ่งทำร้ายความรู้สึกของคนรักสัตว์

จนก่อให้เกิดเป็นกระแสคว่ำบาตรบริษัท TopGen Energy ผ่านสื่อโซเชียล จากการกระทำอันป่าเถื่อน ล่าสัตว์เพื่อความสนุกส่วนตัว

 

เป็นคนไม่มีหัวจิตหัวใจ น่าละอายและน่าสมเพช น่าเศร้าที่ต้องเห็นอะไรแบบนี้

 

โลกนี้มีปีศาจ และโลกนี้ก็มีคุณ Mike Jines หวังว่าจักรวาลทั้งมวลจะลงโทษคุณกับการฆ่าช้างในครั้งนี้ คว่ำบาตร TopGen Energy

 

เมื่อเกิดเป็นกระแสด้านลบที่ต่อต้านกับการกระทำของนาย Jines ทางสำนักข่าว CBS News จึงได้สอบถามสัมภาษณ์เขาผ่านทางอีเมล และได้รับการตอบกลับมาระบุว่า…

“ช้างสองเชือกที่เห็นในภาพนั้น ถูกยิงเพื่อเป็นการป้องกันตัว จากการถูกชาร์จพุ่งเข้าใส่โดยที่หมายจะทำร้าย และช้างทั้งสองเชือกนั้นโตแล้ว ไม่ใช่ลูกช้างอย่างที่เข้าใจกัน”

 

 

อย่างไรก็ตาม นาย Jines กล่าวเสริมว่า ตัวเขาและบริษัทกำลังประสบกับปัญหาของกระแสด้านลบที่เกิดขึ้น และพยายามให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้เข้าใจถึง “ความจริงที่กำลังถูกบิดเบือนจากโซเชียลมีเดีย” เนื่องจากในพื้นที่เกิดเหตุเป็นซาฟารีเปิด และถูกต้องตามกฎหมายการล่าสัตว์ของประเทศซิมบับเว

 

ที่มา: petrescuereport, dailymailunilad, cbsnews


Tags:

Comments

Leave a Reply