คุณครูใช้มือตบหน้านักเรียนหญิงฉาดใหญ่ จากความที่เธอเล่นโทรศัพท์และไม่เอาหนังสือมา!!

เรื่องราวการใช้ความรุนแรงภายใน ‘โรงเรียน’ ระหว่างนักเรียนด้วยกันเองหรือไม่ว่าจะเป็นคุณครูกับนักเรียน ก็เป็นข่าวที่มีให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง และนี่ก็เป็นอีกข่าวหนึ่งที่เข้าข่ายทำนองความรุนแรงที่ว่านี้เช่นเดียว

เมื่อมีคุณครูคนหนึ่งใช้ฝ่ามือตบเข้าไปที่หน้าของเด็กนักเรียนที่เธอสอนอย่างเต็มๆ ซึ่งต้นเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจากความที่นักเรียนหญิงคนนี้เอาโทรศัพท์เข้ามาใช้ในห้องขณะที่ครูสอนอยู่!?

 

 

โรงเรียนหญิง Sans Souci Girls’ High School ในกรุงเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้คือสถานที่เกิดเหตุของเรื่องราวที่ว่านี้ ซึ่งเกิดขึ้นในวันอังคารที่ผ่านมา (5 ก.พ.)

แหล่งข่าวรายงานว่าคุณครูวัย 33 ปีเกิดบันดาลโทสะจากความที่นักเรียนหญิงคนหนึ่งมาเข้าชั้นเรียนโดยเอาหนังสือมาผิดเล่ม แล้วเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใช้ระหว่างนี้จึงทำให้เธอโมโหจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

ในขณะเดียวกันทางฝ่ายนักเรียนหญิงวัย 16 ปีก็มีการกล่าวคำสบถใส่คุณครูพร้อมทั้งผลักเธอด้วยความโมโหที่คุณครูยึดโทรศัพท์ไป

จนในที่สุดแล้วครูโกรธจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ใช้ฝ่ามือตบหน้าเด็กชั้นม. 3 คนนี้อย่างเต็มแรงท่ามกลางสายตาของเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ที่นังอยู่ในห้องนั้น

 

คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (หากดูไม่ได้คลิกที่นี่)

https://twitter.com/Thabisomolapo/status/1092887598882844672

 

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวว่าทั้งคุณครูและนักเรียนต่างก็ยื่นคำร้องในเรื่องการทำร้ายร่างกายต่อกันทั้งคู่ แต่ว่าก็ไม่มีการจับกุมใดๆ เกิดขึ้นและทางหน่วยงานการศึกษาท้องถิ่นก็ได้ออกตัวสืบสวนเรื่องนี้แล้ว

 

 

ส่วนทางด้านแม่ของเด็กก็บอกว่าเธอเศร้าและผิดหวังเอามากๆ แต่ถึงอย่างไรก็ยังอยู่ในกระบวนการของการสืบสวนอยู่ เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้มาก

ทั้งนี้ Debbie Schäfer เจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการของจังหวัดเวสเทิร์น เคปก็ออกมาพูดว่า อย่างไรแล้วการลงโทษนักเรียนแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมไม่ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นเช่นไรก็ตาม

 

 

“ฉันตระหนักว่าเสียงของผู้คนบนอินเทอร์เน็ตอาจจะนำเรื่องนี้ไปเชื่อมโยงกับเรื่องของเชื้อชาติได้ ฉันเข้าใจได้เป็นอย่างดีเลยแหละเมื่อได้ดูคลิปวิดีโอแล้ว

แต่ว่าตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติจริงหรือไม่ และไม่สามารถสรุปใดๆ ได้หากยังไม่มีผลการสืบสวนที่แน่ชัด” Debbie กล่าว

 

ที่มา: dailymail, meaww, mirror


Tags:

Comments

Leave a Reply