Tag: research

  • สาวก “แกงกะหรี่” โปรดทราบ การกินกะหรี่ช่วยคุณให้มีความสุข และความจำดีขึ้นด้วย

    สาวก “แกงกะหรี่” โปรดทราบ การกินกะหรี่ช่วยคุณให้มีความสุข และความจำดีขึ้นด้วย

    แกงกะหรี่เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดจากทางประเทศอินเดีย ด้วยความที่อาหารประเภทนี้ใส่เครื่องเทศปริมาณมากจึงทำให้มันมีกลิ่นหอมถูกใจผู้บริโภค แต่หลายคนก็ยังคงหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้เพราะมันมักจะมีรสจัด แถมพอทานแล้วก็ทำให้กลิ่นตัวแรงด้วย ทว่าตอนนี้นักวิจัยมีข่าวดีเพิ่มเติมมาบอกกับคนชอบทานแกงกะหรี่ มี ผลวิจัย จากเว็บไซต์รวมงานวิจัย American Journal of Geriatric Psychiatry ออกมาแล้วว่า การทานแกงกะหรี่นอกจากจะได้ความอร่อยก็ยังทำให้เรามีความสุขมากกว่าเดิม และก็ช่วยเสริมสร้างความจำที่ดีอีกด้วย     โดยพระเอกในงานวิจัยที่ทำให้เราแฮปปี้และไม่ขี้ลืมก็คือ ขมิ้น นั่นเอง เครื่องเทศชนิดนี้มักจะใช้เป็นส่วนผสมของแกงหลากหลายประเภท ในขมิ้นก็จะมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่า เคอร์คิวมิน อยู่ซึ่งมันมีคุณสมบัติลดการอักเสบ ทั้งยังสามารถต้านทานอนุมูลอิสระได้ดีด้วย แต่นักวิจัยก็คิดว่าสารเคอร์คิวมินน่าจะช่วยให้คนมีความจำดีเช่นกัน เพราะพวกเขาสังเกตเห็นว่าประชาชนในประเทศอินเดียที่บริโภคสารตัวนี้เป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ต่ำกว่าในพื้นที่อื่น     Dr.Gray Small เป็นผู้อำนวยการด้านจิตเวชในผู้สูงอายุของศูนย์ศึกษาอายุยืน จากมหาวิทยแคลิฟอร์เนียในรัฐลอสแองเจลิส และยังเป็นผู้นำการวิจัยในครั้งนี้กล่าวถึงการทำงานของเคอร์คิวมินว่า “แม้ว่าเราจะไม่รู้แน่ชัดว่าเคอร์คิวมินทำงานอย่างไร แต่การที่มันช่วยลดการอักเสบในสมองซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งของโรคอัลไซเมอร์และโรคซึมเศร้า น่าจะเป็นสาเหตุที่มันช่วยพัฒนาความจำของผู้บริโภคได้”     Small ได้ทำ งานวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ศึกษาเกี่ยวกับการช่วยเรื่องความจำของเคอร์คิวมิน โดยให้อาสาสมัครผู้ใหญ่ 40 คนในช่วงอายุ 50-90 ปี สุ่มได้รับสารเคอร์คิวมิน 90 กรัม และยาหลอกเป็นเวลานาน 18 เดือน เขาวัดผลโดยการใช้เครื่อง Positron Emission Tomography (PET) อ่านคลื่นสมองของอาสาสมัครทั้งก่อนและหลังจากการได้รับสารเคอร์คิวมิน แล้วให้พวกเขาทำแบบทดสอบความจำก่อนและหลังรับสารที่ว่านี้ด้วย…

  • ผลวิจัยพิสูจน์ให้เห็นว่าโดยทางชีวภาพแล้ว ‘ผู้หญิง’ มีความแข็งแรงกว่าผู้ชาย!?

    ผลวิจัยพิสูจน์ให้เห็นว่าโดยทางชีวภาพแล้ว ‘ผู้หญิง’ มีความแข็งแรงกว่าผู้ชาย!?

    แม้ว่าตั้งแต่อดีตกาล เราจะได้ยินมาเสมอว่าผู้ชายนั้นมีร่างกายกำยำ จึงมีพละกำลังมากกว่าผู้หญิง ดังนั้นหากมีงานที่ต้องลงมือลงแรงอย่างเช่น ยกของ ตัดไม้ หรือแม้แต่ต่อสู้ เราก็จะเข้าใจว่าผู้ชายมักจะทำได้ดีกว่าผู้หญิง แต่ในวันนี้ มีผลวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาออกมาแล้วว่าผู้หญิงมีความแข็งแกร่งทางชีวภาพมากกว่าผู้ชาย และมีแนวโน้มว่าจะเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์เลวร้ายได้มากกว่าผู้ชายด้วย     ผลวิจัยนี้เผยแพร่มาจาก Proceedings of the National Academy of Scientists (PNAS) ซึ่งเป็นวารสารชื่อดังเกี่ยวกับงานจิวัยทางวิทยาศาสตร์ โดยนักวิจัยศึกษาข้อมูลจากการเปรียบเทียบอัตราการตายระหว่างผู้ชายและผู้หญิง เมื่อต้องต่อสู้กับความอดอยาก โรคระบาด และการเป็นทาส จากข้อมูลพบว่า นอกจากข้อมูลของทาสในศตวรรษที่ 19 และการปลดปล่อยทาสชาวลิไบเรีย ในสาธารณรัฐตรินิแดดซึ่งเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันแล้ว ข้อมูลที่เหลือทั้งหมดระบุว่าผู้หญิงมีอัตราการอยู่รอดมากกว่าผู้ชายทั้งสิ้น     โดยในกลุ่มทาสระหว่างปี 1813 ถึง 1816 อายุคาดเฉลี่ยของทาสชาย หรือก็คือตัวเลขอายุที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงนั้นอยู่ที่ 15.18 ปี ส่วนอายุคาดเฉลี่ยของทาสผู้หญิงเท่ากับ 13.21 ปี ซึ่งต่ำกว่าของผู้ชาย และในส่วนของการปลอดปล่อยทาสชาวไลบีเรีย อายุคาดเฉลี่ยของคนในช่วงอายุ 35 ถึง 49 ปี ก็พบว่าผู้ชายมีอายุคาดเฉลี่ยสูงกว่าผู้หญิงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงอายุอื่นๆ ของกลุ่มตัวอย่างนี้ ผู้หญิงมีค่าอายุคาดเฉลี่ยสูงกว่าผู้ชายหมดเลย…

  • นักวิทย์ค้นพบอาณานิคม ‘ปลาหมึก’ ใต้ทะเลอาศัยอยู่ด้วยกันราวกับเป็นเมืองแอตแลนติส

    นักวิทย์ค้นพบอาณานิคม ‘ปลาหมึก’ ใต้ทะเลอาศัยอยู่ด้วยกันราวกับเป็นเมืองแอตแลนติส

    ใต้ท้องทะเลเป็นอะไรที่ลึกลับ และมีอะไรให้น่าค้นหาอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้น มนุษย์ก็ยังไม่สามารถที่จะไขความลับของท้องทะเลได้ทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบล่าสุดนั้น อาจทำให้หลายคนต้องรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปตามๆ กันเพราะว่าสิ่งมีชีวิตที่เราเรียกว่า ปลาหมึก(หมึก) นั้นก็สามารถสร้างเมืองได้ด้วย!!! หน้าตาเจ้าปลาหมึกชนิดนี้   เป็นความเชื่อกันมาอย่างยาวนานว่าปลาหมึกนั้นเป็นสัตว์น้ำที่รักสันโดษ โดยจะมาพบพวกเดียวของมันปีละครั้งเท่านั้น… ทีมวิจัยนานาชาตินำทีมโดย  University of Illinois-Chicago และ Alaska Pacific University ได้ออกสำรวจบริเวณ อ่าว Jervis ชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย และได้พบเมืองปลาหมึกซึ่งเป็นบ้านของปลาหมึกสายพันธุ์หนึ่งที่เรียกว่า Gloomy กว่า 15 ตัว!! และการค้นพบเมืองปลาหมึกนี้เป็นการค้นพบเมืองปลาหมึกแห่งที่ 2 ที่พบในพื้นที่บริเวณนี้หลังจากพบครั้งแรกเมื่อไม่นานมานี้ และการค้นพบนี้ ยังทำให้เปลี่ยนความเชื่อ ที่ว่าปลาหมึกเป็นสัตว์ที่ชอบรักสันโดษ จริงๆ แล้วพวกมันชอบที่จะเข้าสังคมกันมากกว่า   ภาพของเมืองปลาหมึกที่อาศัยอยู่ด้วยกัน   “มีอยู่ 2 อย่างที่ตอนแรกฉันคิดว่าพวกมันจะใช้สร้างบ้านของพวกมันได้ คือ โขดหิน และ ปะการัง” “นอกจากหินปะการังแล้ว พวกปลาหมึกยังใช้เปลือกหอยที่เหลือจากที่พวกมันกินมากองรวมกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเปลือกที่มาจากพวกหอยกาบ” “ขนาดแค่กองเปลืองหอยกับขยะบางอย่างในทะเล พวกมันยังเอามาสร้างเป็นที่อยู่อาศัยได้  พวกปลาหมึกเป็นวิศวกรแห่งท้องทะเลอย่างแท้จริง” Stephanie Chancellor นักศึกษาปริญญาเอกและเป็นผู้เขียนวิจัยด้านชีววิทยากล่าว…

  • ผลการวิจัยออกมาแล้วว่า “อีกา” ไม่ได้โง่ แต่มีสติปัญญามากกว่าเด็กมนุษย์ซะอีก

    ผลการวิจัยออกมาแล้วว่า “อีกา” ไม่ได้โง่ แต่มีสติปัญญามากกว่าเด็กมนุษย์ซะอีก

    คุณอาจเคยได้เห็นการทดลองทางจิตวิทยาที่จะให้เด็กเลือกว่าจะกินมาร์ชแมลโลว์หนึ่งชิ้นทันที หรือจะยังไม่กินและรออีกไม่กี่นาทีเพื่อให้ได้กินสองชิ้น ซึ่งเด็กส่วนใหญ่นั้นจะไม่สามารถอดทนรอได้ แต่สำหรับ อีกา แล้วผลออกมาไม่ได้เป็นอย่างนั้น Can Kabadayi นักวิทยาศาสตร์ทางด้านความรู้ความเข้าใจจากมหาวิทยาลัย Sweden’s Lund กล่าวว่า “เด็กๆ หรือผู้ใหญ่บางคนอาจจะมีปัญหาในการควบคุมตนเอง” โดยงานวิจัยของเขานั้นได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Science โดยมีการชี้แจ้งเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของอีกากับความสามารถในการรู้คิด ผ่านการทดสอบที่เข้มงวด     การทดสอบประเภทนี้จะต้องใช้ทักษการเรียนรู้ในการทำงานผสานกัน และแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสัตว์เหล่านี้ โดยเขาได้ยกตัวอย่าง ลิงกอริลลาหรือลิงชิมแปนซี จะเก่งในเรื่องของการใช้เครื่องมือแก้ปัญหา แต่ก็จะผิดพลาดในการวางแผนเพื่อแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการทดลองนี้ อีกาจำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการได้รับอาหารจากกล่องที่ถูกปิดไว้ หลังจากนั้นก็จะได้เจอกับกล่องเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีเครื่องมือให้ และด่านสุดท้ายก็คือมีเครื่องมือในการเปิดกล่อง พร้อมกับเครื่องมืออื่นๆ แต่จะไม่ได้เห็นกล่อง     จากการทดลองพบว่า 86% ของอีกาทั้งหมดสามารถเลือกเครื่องมือได้ถูกต้อง ทำให้มันมีโอกาสได้ลองเปิดกล่อง สำหรับการทดลองสุดท้าย อีกากว่า 76% เปอร์เซ็นต์ สามารถที่จะแลกเปลี่ยนเครื่องมือกับอาหารที่อยู่ภายในกล่องออกมาได้ และอีก 73% เลือกที่จะรับสิ่งที่มากกว่าของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถเอาได้เลยในตอนนั้น Kabadayi พูดว่า “กุญแจสำคัญของเรื่องนี้ก็คือ จะเอาชนะความชั่งใจ (รางวัลเล็กๆ) ที่เกิดขึ้นในชั่วเสี้ยววินาที เพื่อที่จะได้รับรางวัลที่มากกว่าถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นก็ตาม”  …

  • สาระน่ารู้กับ 10 เรื่องราวอันน่าสนใจทางวิทยาศาสตร์ในรอบเดือนตุลาคม 2558

    สาระน่ารู้กับ 10 เรื่องราวอันน่าสนใจทางวิทยาศาสตร์ในรอบเดือนตุลาคม 2558

    เหมียวเองถึงแม้จะไม่ค่อยรู้เรื่องทางวิทยาศาสตร์มากมายซักเท่าไหร่ แม้จะเรียนวิทยาศาสตร์ได้เกรด 1 มาบ่อยๆ ก็ตาม แต่ก็ชอบที่จะเรียนรู้ว่าตอนนี้วิทยาศาสตร์มันพาเราไปไกลถึงไหนแล้ว อิอิ ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคม 2558 ที่ผ่านมานี้ มีทฤษฎีใหม่ที่น่าสนใจเกิดขึ้นเยอะแยะเลย     15 ตุลาคม – ดวงดาวที่มีระยะห่างไกลกว่า 1,500 ปีแสง มีการส่องแสงสว่างระยิบระยับเป็นช่วงๆ ซึ่งอาจจะมีวัตถุขนาดมหึมาโคจรรอบๆ มันอยู่ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งกำลังทำการวิจัยสำหรับคลื่นวิทยุจากสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาในอวกาศอันไกลโพ้นอยู่     2 ตุลาคม – จากผลการศึกษาใหม่ สามารถสนับสนุนสาเหตุการสูญพันธ์ุของไดโนเสาร์นั้นมาจากการรวมตัวกันของภูเขาไฟขนาดใหญ่ และได้รับผลกระทบจากดาวเคราะห์น้อยที่พุ่งชนโลก     5 ตุลาคม – นักวิทยาศาสตร์จาก NASA ยืนยันแล้วว่ามีของเหลวที่ลักษณะคล้ายกับน้ำอยู่บนดาวอังคาร จากการสังเกตการณ์อยู่เป็นระยะๆ จากแนวลาดชันบนดางอังคาร     8 ตุลาคม – จากผลการสำรวจพื้นผิวดาวอังคาร NASA ยืนยันว่า Gale Crater บนดาวอังคารนั้นเคยเป็นทะเลสาปเมื่อ 3,800,000,000…