Tag: แปลกหน้า

  • ศิลปินให้กำเนิด “ใบหน้าบนผ้าปลิว” ผลงานภาพถ่ายสุดแหวก ที่มาจากคนแปลกหน้า!!

    ศิลปินให้กำเนิด “ใบหน้าบนผ้าปลิว” ผลงานภาพถ่ายสุดแหวก ที่มาจากคนแปลกหน้า!!

    ภาพงานศิลป์สุดเจ๋ง เมื่อช่างภาพชาวเกาหลี Wonjun Jeong ได้ร่วมมือกับ Sailors Studio สร้างผลงานภาพสุดแปลกขึ้น โดยใช้ภาพของคนแปลกหน้าผสมกับผ้าที่ปลิวไปตามแรงลม… ผลงานการร่วมมือกันชิ้นนี้มีชื่อว่า Conversations โดยมีแนวคิดเกี่ยวกับคนแปลกหน้าที่เราพบเจอกันทุกวัน เพียงแต่ว่าเราไม่รู้จักพวกเขา อาจจะจำได้แค่ใบหน้าลางๆ เหมือนกับผ้าบางๆ ที่ปลิวไปตามลม     ทางด้านเทคนิคการถ่าย พวกเขาก็ได้โยนผ้าขึ้นไปให้ปลิวไปตามธรรมชาติและแรงลมในสถานที่ต่างๆ จากนั้นก็เก็บภาพดังกล่าวมาพร้อมเพิ่มใบหน้าของคนแปลกหน้าที่พวกเขาเจอลงไป กลายออกมาเป็นผลงานชิ้นนี้ ผลงานเหล่านี้ต่างมีเรื่องเล่าในแบบของตัวเอง บางรูปดูแล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไป เราอาจจะจำหน้าคนแปลกหน้าคนนั้นได้เลือนลางแต่ก็ไม่ทั้งหมด เช่นเดียวกับคนในผ้าที่บางรูปมีปาก แต่ไม่มีหน้า ซึ่งก็หมายความว่าเราอาจจะจำปากคนแปลกหน้าได้แต่ส่วนอื่นอาจจะจำไม่ได้     ภาพของคนแปลกหน้าที่เลือนลาง   บางครั้งเราอาจจะจำได้แค่บางส่วนบนใบหน้าของพวกเขา   หรืออาจจะเกือบทั้งหน้า แต่ก็ไม่หมด   มันก็เหมือนกับผ้าที่ปลิวไปตามแรงลม   ถ้าเราคว้าผ้าไว้ เราอาจจะได้รู้จักคนแปลกหน้าที่อยู่ในผ้านั้น   หรือเราอาจจะปล่อยให้ผ้าปลิวตามลมต่อไป และให้พวกเขาได้ใช้ชืวิตในโลกใบเดียวกันแบบคนแปลกตาต่อไป…   แต่ยังไงก็ตาม ผลงานนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียวล่ะ   ทั้งตัวผ้าและใบหน้าของคน ทำออกมาได้เข้ากันสุดๆ   ที่มา sobadsogood

  • ศิลปินถ่ายภาพเพื่อพิสูจน์ว่า “แค่คุณยิ้มให้กัน” โลกก็สวยงามขึ้นทันทีทันใด!!

    ศิลปินถ่ายภาพเพื่อพิสูจน์ว่า “แค่คุณยิ้มให้กัน” โลกก็สวยงามขึ้นทันทีทันใด!!

    ศิลปินท่านนี้ท่านนี้มีชื่อว่า Jay Weinstein ในเดือนธันวาคมปี 2013 เขาได้ไปถ่ายรูปที่ Bikaner ซึ่งเป็นทะเลทรายในเมือง Rajasthan ประเทศอินเดีย และใกล้ๆ สถานีรถไฟที่นั่น เขาได้พบกับชายคนหนึ่งที่เขาอยากถ่ายมาก โดยในตอนนั้นก็ลังเลอยู่ หลังจากที่ได้มองตาของเขาแล้ว สีหน้าของเขาดูนิ่งมาก ทำให้เขารู้สึกกลัว สุดท้ายก็เลยไม่ได้ถ่าย แล้วก็ไปถ่ายอย่างอื่นแทน จู่ๆ มีเสียงหนึ่งลอยเข้ามาว่า “ถ่ายรูปฉันด้วยสิ” ซึ่งเป็นเสียงของชายคนเมื่อกี้นี่เอง.. วินาทีนั้นกล้องเริ่มโฟกัส นิ้วเตรียมกดลั่นชัดเตอร์ แล้วเขาก็ได้ “รอยยิ้ม” มา ทำให้เขาดูเปลี่ยนไปเลย หน้าของเขาดูอบอุ่นขึ้น ตาของเขาก็ยิ้มตาม และนั่นทำให้เขาได้เริ่มทำโปรเจกต์หนึ่ง ที่ให้เหล่าคนแปลกหน้าที่เขาได้พบยิ้มให้กล้อง เพื่อเปรียบเทียบความต่างกับสีหน้าธรรมดา ต่อจากนั้นมาเขาก็เริ่มตามถ่ายภาพผู้คนที่ได้เจอจากการผจญภัยของเขา แล้วก็ให้โพสท่าตอนที่ยังไม่ยิ้มและตอนยิ้ม ซึ่งเป็นหัวใจหลักของโปรเจกต์ชิ้นนี้ ในภาพไม่มีชื่อ อาชีพ สัญชาติหรือศาสนาอะไรบอกไว้ทั้งนั้น เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ว่าใคร เวลายิ้มก็ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น   #1 Vrindavan, Uttar Pradesh, India   #2 Tyrna Village, Meghalaya, India   #3 Kakhsar…

  • รีวิวแอพฯ Wakie นาฬิกาปลุกมาแรงสุดตอนนี้ ที่จะให้ ‘คนแปลกหน้า’ โทรมาปลุกคุณ!!

    รีวิวแอพฯ Wakie นาฬิกาปลุกมาแรงสุดตอนนี้ ที่จะให้ ‘คนแปลกหน้า’ โทรมาปลุกคุณ!!

    แอพฯนาฬิกาปลุกทุกวันนี้นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นมาไปขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่มีแอพฯที่จะให้คุณบวกเลขให้เสร็จ แล้วเสียงปลุกจะดับลงหรือจะเป็นแอพฯ ที่จะใช้เสียงเพลงที่ปรี๊ดจนคุณแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง แต่วันนี้ #เหมียวสามสี มีแอพฯนาฬิกาปลุกที่เรียกได้ว่าสร้างสรรค์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย แอพฯนี้มีชื่อว่า Wakie โดยหลักการของมันก็แสนจะง่าย เพียงแค่คุณตั้งเวลาปลุกแล้ว พอถึงเวลาก็จะมีคนแปลกหน้าโทรมาปลุกคุณให้ตื่นเอง   ตอนเริ่มเปิดแอพฯมา มันจะให้คุณล็อกอินพร้อมกับใส่วันเกิด เราก็ใส่ๆ ไปตามใจมันไปก่อน แล้วสุดท้ายมันก็จะพาเรามาหน้านี้ซึ่งก่อนจะเริ่ม เหมียวขอบอกพี่น้องชาวไทยก่อนว่าตอนนี้ฝรั่งเริ่มงงๆ ว่าทำไมคนพิมพ์ไทยเยอะจัง ตรงนี้เวลาเราจะเล่นแอพฯ ให้ไปตั้งค่าตามนี้เลย   มาในส่วนของภาษากันบ้าง แอพฯนี้ให้คุณเลือกว่าคุณถนัดภาษาอะไรบ้าง ซึ่งเหมียวก็ตั้งค่าไว้ว่าภาษาไทยนั้นเราเป็น Native คือคนไทยนั่นเอง ส่วนภาษาอังกฤษ พูด อ่าน เขียนได้   มาที่หน้าแรก เราจะเจอกับหมวดต่างๆ ซึ่งถ้าอยากให้มีคนโทรปลุกเราตอนกี่โมงก็เข้าไปตั้งที่ “Ask far a wake up call” ได้เลย พร้อมกับเลือกเวลาและวันที่จะให้มันปลุกซ้ำ เพียงเท่านี้ก็จะมีคนโทรมาปลุกแล้ว   ตอนคนโทรมาปลุกก็จะมี Noti เด้งขึ้นพร้อมเสียงเหมือนมีคนไลน์มานั่นแหละ เพียงแค่คุณกดรับก็จะมีเสียงคนแปลกหน้ามาปลุกคุณแล้ว คราวนี้ก็ต้องลุ้นว่าจะเป็นชายหรือหญิง จะปลุกเราดีหรือไม่ ถ้าปลุกไม่ดี เราก็สามารถเข้าไปรายงานที่หน้าโปรไฟล์ของเขาได้เลยว่าคนนี้พูดจาไม่เหมาะสม วิธีดูว่าเราคุยกับใครไป…

  • หญิงสาวเดินทางไกล เพื่อไปพบกับเพื่อนออนไลน์ที่หน้าเหมือนเธอราวกับ “แฝด” เป๊ะๆ

    หญิงสาวเดินทางไกล เพื่อไปพบกับเพื่อนออนไลน์ที่หน้าเหมือนเธอราวกับ “แฝด” เป๊ะๆ

    ในชีวิตนี้ถือเป็นโอกาสที่น้อยมาก ถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ที่เราจะได้พบคนที่หน้าเหมือนเรา บางคนก็หน้าแค่คล้ายๆ แบบที่เพื่อนชอบแซวว่าเป็นพี่น้องกัน แต่คราวนี้เหมียวจะพาไปรู้จักกับ 2 สาวที่ไม่ได้เป็นพี่น้องหรือครอบครัวเดียวกันเลย แต่พวกเธอมีหน้าตาที่เหมือนกันเป๊ะมากๆ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมากๆ แต่ตอนนี้ก็ได้มีเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Twin Strangers ที่สามารถช่วยคุณค้นหาบุคคลที่หน้าเหมือนคุณได้ อย่างเช่นเธอคนนี้ที่ได้เจอแฝดคนแปลกหน้าของเธอ และเธอได้ตัดสินใจที่จะบินไปหาเพื่อนแปลกหน้าคนนี้ถึงที่เลย Shannon Lonergan หญิงสาววัย 21 ปี เธอได้ใช้เว็บนี้ค้นหาคนที่บังเอิญหน้าเหมือนเธอ แล้วจู่ๆวันหนุ่ก็ไปจนคนหนึ่งเข้า เธอชื่อว่า Sara Nordstorm วัยเพียง 17 ปี ใช้เว็บนี้เหมือนกัน และแล้วพวกเธอก็ได้พบกันโดยบังเอิญ     พวกเธอตัดสินใจที่จะมาพบกันโดยที่ Sara นั้นอยู่สวีเดน ส่วน Shannon อยู่ไอร์แลนด์ ทั้งคู่นัดเจอกันที่ Dublin เมื่อทั้งคู่ได้เจอกัน ก็ถึงกับอึ้งไปเลย Sara บอกว่ามันเหนือจริงมากๆ เหมือนกับว่ากำลังมองตัวเองอยู่ ถึงแม้ว่าจะนิสัยต่างกัน แต่มันมีความรู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนเก่า ถึงขนาดว่าตอนไปเจอคุณพ่อของ Shannon คุณพ่อถึงกับงงว่าคนไหนคือลูกของตัวเอง เพราะพวกเธอเหมือนกันมากๆเลย เราไปชมคลิปการเดินทางของพวกเธอกันเลย   ที่มา elitereaders

  • ทดสอบการหลอกนัดเด็กหญิงให้พบกับคนแปลกหน้า สะท้อนถึงความอันตรายของโลกโซเชียล!!

    ทดสอบการหลอกนัดเด็กหญิงให้พบกับคนแปลกหน้า สะท้อนถึงความอันตรายของโลกโซเชียล!!

    โซเชียลมีเดียในยุคสมัยชีวิตดิจิตอลแบบนี้ในด้านหนึ่งก็ดีที่สามารถเชื่อมคนทั้งโลกเอาไว้ด้วยกัน สามารถติดต่อกันได้สะดวกมากขึ้น แต่เมื่อลองมองกลับไปอีกด้าน ความร้ายกาจของมันสูงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ ที่ยังไม่รู้เท่าทันคน พ่อหนุ่ม Coby Persin ได้ทำการทดสอบให้เห็นถึงความอันตรายของโลกโซเชียล ที่ใครๆ ก็สามารถติดต่อกันได้ แม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าที่รู้จักกันเพียงผิวเผินเท่านั้น   เขาได้ทำการปลอม Facebook ขึ้นมาเป็นชายหนุ่มอายุ 15 ปีและได้ลองคุยกับเด็กสาวอายุ 14 13 และ 12 ปีตามลำดับโดยทำการขออนุญาตพ่อและแม่ของเด็กหญิงทั้งหมดแล้วก่อนที่จะทำการทดสอบนี้   การทดสอบใช้เวลาในประมาณ 3-4 วันเพื่อทำการพูดคุยผ่านโลกออนไลน์ให้เหยื่อรู้สึกคล้อยตามและสามารถทำการนัดออกมาพบนอกสถานที่ได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า เด็กเหล่านี้ยอมออกมาจากบ้านเพื่อมาพบคนแปลกหน้าที่รู้จักกันเพียงแค่ในโลกออนไลน์!! ในโลกแห่งความเป็นจริงเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าคนที่จะเจอเป็นคนแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่เหตุคดีข่มขืนที่เกิดขึ้นนั้นล้วนมาจากการที่เด็กหญิงไว้ใจในการพบกับคนแปลกหน้า   อย่างกรณีของคุณพ่อรายนี้ที่แอบมาอยู่ในรถด้วย แล้วเขาก็ได้ทำการนัดแนะว่าจะไปหาที่หน้าบ้าน ถ้าหากว่าพ่อไม่อยู่แล้ว ซึ่งคุณพ่อเองก็ไว้ใจลูกสาวของตัวเองว่าจะไม่ทำการเปิดประตูรับคนแปลกหน้าเข้าบ้านอย่างแน่นอน!!   แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณพ่อคิด ถ้าหากว่าเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ได้มาทำการทดสอบแบบนี้ เธอจะตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีอย่างแน่นอน!!   เด็กสาวรายสุดท้ายถูกนัดขึ้นมาบนรถ พ่อและแม่ของเธอก็ร่วมสวมบทบาทเป็นผู้ร้ายก่อนที่จะเผยตัวตน และพบกับความจริงที่ว่าลูกสาวของพวกเขายังไม่ทันกลในโลกออนไลน์ที่มีความอันตรายสูงมากๆ โซเชียลมีเดียเป็นดาบสองคม ด้านประโยชน์ของมันก็มีมากมาย แต่อีกด้านร้ายๆ ก็มีเยอะเช่นกัน เพราะฉะนั้นดูแลบุตรหลานของท่านให้ดี ก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อของบุคคลที่ไม่หวังดีต่อบุตรหลานของท่าน ด้วยความห่วงใยจากสำนักข่าวแมวเหมียว ที่มา : Coby…