Tag: หลีกเลี่ยง

  • สิ่งของภายในบ้านที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่ามัน ทำให้คุณมีโอกาส ‘เป็นมะเร็ง’ ได้

    สิ่งของภายในบ้านที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่ามัน ทำให้คุณมีโอกาส ‘เป็นมะเร็ง’ ได้

    “โรคมะเร็ง” เป็นโรคที่น่ากลัวสำหรับมนุษย์เราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ฉะนั้นหากคนเราได้ยินว่าอะไรที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ ก็มักจะหลีกเลี่ยงสิ่งก่อมะเร็งเหล่านั้น แต่ถึงจะหลีกเลี่ยงอย่างไรก็ยังหนีไม่พ้นสารก่อมะเร็งอยู่ดี เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยาได้ออกมาบอกว่า “สิ่งของในบ้าน” ของเราเอง ก็ยังแอบซ่อนสารก่อมะเร็งเอาไว้เหมือนกัน แล้วทีนี้จะหลีกเลี่ยงมะเร็งกันได้ยังไงล่ะ? ไม่ต้องกังวลไป เพราะบทความนี้จะมาบอกทุกท่านเองว่าของใช้ในบ้านชนิดใดบ้างที่มีสารก่อมะเร็ง และควรจัดการกับสิ่งของเหล่านั้นด้วยวิธีใด เชิญทุกท่านไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า…   1. โซฟา   โซฟา ที่นอน และเฟอร์นิเจอร์จำพวกหุ้มเบาะต่างๆ นั้นเต็มไปด้วยสาร TDCIPP เป็นสารที่ใช้หน่วงการติดไฟแต่กลับสามารถทำให้เกิดมะเร็งได้ แถมสาร TDCIPP ยังถือว่าเป็นหนึ่งใน 10 สารที่พบเห็นบ่อยที่สุดในบ้านอีกด้วย วิธีแก้: ตรวจสอบเฟอร์นิเจอร์หุ้มเบาะของคุณว่าผลิตก่อนหรือหลังปี 2013 เพราะก่อนปี 2013 นั้นมีการใช้สาร TDCIPP บ่อยที่สุด นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบป้ายสินค้าหรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าว่ามีการใช้สารหน่วงการติดไฟ TDCIPP นี้หรือไม่   2. พรมและผ้าม่าน   หากคุณสูบบุหรี่ในบ้าน พรมและผ้าม่านจะเป็นสถานที่ที่กักเก็บสาร Cadmium สารก่อมะเร็งที่ออกมาจากควันบุหรี่ มันจะคงอยู่แม้ว่าควันบุหรี่จะหมดไปแล้วก็ตาม สารแคดเมียมที่ติดอยู่ตามพรมและผ่าม่านนั้นจะทำให้ผู้ที่ไม่ได้สูบได้รับผลกระทบทางอ้อมและมีโอกาสเป็นมะเร็งได้ วิธีแก้: เลิกสูบบุหรี่ หรือสูบบุหรี่นอกบ้าน   3.…

  • ผู้เชี่ยวชาญแนะ 9 เรื่องผิดๆ ที่ไม่ควรทำระหว่าง ‘จูบ’ เพื่อรักที่สดใสเชื่อพี่เถอะน้อง…!!

    ผู้เชี่ยวชาญแนะ 9 เรื่องผิดๆ ที่ไม่ควรทำระหว่าง ‘จูบ’ เพื่อรักที่สดใสเชื่อพี่เถอะน้อง…!!

    เราทุกคนต่างล้วนเคยมีประสบการณ์การจูบยอดแย่กันมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นจูบแล้วไปเจอกลิ่นอาหารบ้าง เจอเศษอาหารบ้าง หรือไม่บางทีก็ต้องเจอกับคนที่จูบได้แบบว่า… ช่างไม่รู้งานเอาซะเลยโว้ย!! และเพื่อเป็นการแก้ปัญหานิสัยการจูบอันไร้ซึ่งศิลปะ เราจะขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ 9 เรื่องผิดๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญเค้าออกมาแนะนำแล้วว่า ถ้าอยากทำให้การจูบมันดูดดื่มละก็ควรเลิกซะเถอะนิสัยแบบนี้ แล้วหันมาเชื่อพี่เถอะนะน้องเอ๋ย   1. ไม่จำเป็นต้องใช้ลิ้นนำเสมอไป โมเม้นต์แห่งการจูบอาจเป็นช่วงเวลาที่เหมือนสะกดเราให้อยู่ในมนตราได้เลย ทว่ามนตรานั้นอาจหายไปทันทีเมื่อคุณรู้สึกได้ถึงการรุกเร้าที่เร่งรีบเกินไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรจะใจเย็นๆ เริ่มต้นจากการใช้ริมฝีปากสัมผัสกันก่อน และเมื่อจังหวะมาถึง (คุณจะรู้ได้เองแหละ) ค่อยเพิ่มกิมมิคด้วยการใช้ลิ้นเล่นเสริม แค่นี้ก็ทำให้ทุกอย่างออกมาดูนุ่มนวลน่าหลงใหลสุดๆ   2. อย่าทำให้ปากตัวเองกลายเป็นก๊อกน้ำเด็ดขาด!! เป็นธรรมชาติที่ร่างกายมนุษย์เราถูกออกแบบมาให้สามารถผลิตน้ำลายได้ ทว่าบางทีการจูบกันเราก็อาจจะต้องคอยควบคุมปริมาณน้ำลายในปากไว้บ้างเพื่อความพอดี คำแนะนำคือพยายามอย่าทำให้ปากของคู่รักคุณเปียกมอมแมมจนเกินไป และไม่ควรอ้าปากกว้างจนเกินไปเช่นกัน ควรจำเอาไว้ว่านี่คือการจูบ ไม่ใช่การกินบุฟเฟ่ต์ ถ้าไม่รีบร้อนสวาปามมากเกินไปเดี๋ยวเมนูโปรดก็มาเสิร์ฟให้เองแหละ   3. จำเอาไว้ว่าคู่ของคุณคือคนรักไม่ใช่เหยื่อ เชื่อว่าพอจูบกันไปได้เรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่งเราอาจจะรู้สึกร้อนรนใจจนอยากสานกิจกรรมต่อให้ไปถึงฝั่งฝัน แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรทำตัวเหมือนสิงโตตะครุบเหยื่อโดยเด็ดขาด สิ่งที่คุณควรจะทำก็คือ.. ใจเย็นๆ ค่อยๆ ใช้เวลาไปกับมันอย่างช้าๆ ให้จินตนาการภาพของคนสองคนที่จะจับมือเข้าสู่ประตูสวรรค์ไว้ ไม่ใช่ภาพของนักวิ่งชายเดี่ยวที่ไม่สนใจเพื่อนร่วมทีมและสักแต่จะวิ่งเข้าเส้นชัยอย่างเดียว   4. ค่อยเป็นค่อยไป… อย่าใจร้อนถามหาแต่ตอนจบ สำหรับผู้ชายแล้วการจูบอาจเป็นเหมือนหนทางที่จะนำไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าคือ ‘เซ็กส์’ แต่งานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารการพัฒนาทางจิตวิทยาได้ค้นพบว่า สำหรับหญิงสาวแล้วพวกเธอคิดว่าการจูบนั้นไม่ใช่หนทางที่ต้องทำเพื่อเซ็กส์เสมอไป เพราะฉะนั้นแล้วผู้เชี่ยวชาญจึงอยากจะแนะนำว่า ไม่จำเป็นว่าจูบกันแล้วจะต้องลงเอยด้วยเรื่องนั้นเสมอไป…

  • 11 เทคนิคและวิธีการดีๆ สำหรับป้องกันการถูกจู่โจมโดยสัตว์ร้ายแบบไม่คาดคิด!!!

    11 เทคนิคและวิธีการดีๆ สำหรับป้องกันการถูกจู่โจมโดยสัตว์ร้ายแบบไม่คาดคิด!!!

    ก็อย่างที่เราๆ ทราบกันเป็นอย่างดีว่า มนุษย์น่ะไม่ได้เป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ แน่นอนว่ามีสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ อยู่ด้วย และที่สำคัญอันตรายกว่า และทรงพลังกว่ามนุษย์ซะอีก การถูกสัตว์เหล่านี้เข้าทำร้ายก็คงไม่เป็นเรื่องที่พิศมัยนัก ซึ่งหลักๆ แล้วก็เพราะว่าความไม่เข้าใจในพฤติกรรมและธรรมชาติของกันและกันนั่นแหละ วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็อยากจะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ 11 เทคนิคดีๆ ไว้ใช้ป้องกันการถูกจู่โจมโดยสัตว์ต่างๆ อ่านแล้วอย่าลืมจำไปใช้กันในสถานการณ์จริงด้วยนะจ๊ะ   1. ข้อแรกสำคัญมาก อย่าเข้าใกล้สัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ สัตวแพทย์ หรือผู้ฝึกสอนอยู่ด้วยเด็ดขาด ถึงจะดูเชื่องน่ารักขนาดไหนก็ตามที   เพราะหนึ่ง ถ้ามีเจ้าของหรือผู้ดูแลสัตว์ตัวนั้นๆ ถ้าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น พวกเขาก็จะสามารถป้องกันได้อย่างทันท่วงที แต่ถ้าไม่มีล่ะก็ ใครก็มาช่วยเราไม่ทันล่ะทีนี้   2. จงใจเย็นเข้าไว้เวลาเผชิญหน้ากับมัน ยิ่งถ้าคุณกรีดร้องด้วยแล้วล่ะก็ อาจเป็นการไปกระตุ้นให้มันเกิดความเครียดมากขึ้น และเข้าจู่โจมคุณทันที!!!   3. สังเกตุพฤติกรรมของสัตว์ตัวนั้นๆ แบบห่างๆ เสียก่อน ถ้ามันมีพฤติกรรม (ถึงแม้จะเล็กน้อยก็ตาม) แสดงให้เห็นถึงความก้าวร้าวแล้วล่ะก็ อย่าไปเข้าใกล้มันเชียวล่ะ   4. ข้อนี้คงเจอกันได้บ่อยๆ ถ้าเจอสัตว์ที่หลงทางมาล่ะก็ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่หรือหาอุปกรณ์ที่ปลอดภัยมาจับมันดีกว่านะจ๊ะ เพราะเราไม่รู้หรอกว่ามันดุ หรือมีเชื้ออะไรติดตัวมารึเปล่า   5.…

  • ปวดหัวแย่!! รวม 27 อาชีพสุดเครียด ที่คนเครียดง่ายควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง!!!

    ปวดหัวแย่!! รวม 27 อาชีพสุดเครียด ที่คนเครียดง่ายควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง!!!

    คุณเป็นคนที่เครียดง่ายหรือเปล่า? เวลาคุณเครียดคุณเป็นยังไง? สติแตกไปเลยหรือเปล่า? ถ้าคุณเป็นอย่างงั้นล่ะก็ นี่คือ 27 อาชีพที่ทาง Business Insider ได้จัดลำดับเอาไว้ว่า เป็นอาชีพที่มีความเครียดสูง โดยพวกเขาจะมีหน่วย “ความอดทนต่อความเครียด” โดยนับตั้งแต่ 0-100 ยิ่งเลขสูงเท่าไหร่ ยิ่งต้องอยู่กับความเครียดมากเท่านั้น จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย   ผู้ประสานงานข้อมูลของตำรวจ ดับเพลิง หรือรถพยาบาล ระดับความอดทนต่อความเครียด : 98.5   พยาบาลวิสัญญี ระดับความอดทนต่อความเครียด : 98.2   คอลเซ็นเตอร์ ระดับความอดทนต่อความเครียด : 98.2   นักเต้น ระดับความอดทนต่อความเครียด : 97.0   สูตินรีแพทย์ และ นรีแพทย์ ระดับความอดทนต่อความเครียด : 96.5   ศัลยแพทย์ ระดับความอดทนต่อความเครียด : 96.2   นักบิน นักบินผู้ช่วย วิศวกรการบิน ระดับความอดทนต่อความเครียด…