คุณแม่ตั้งกระทู้เดือด คุณครูบอกให้ลูกสาววัย 4 ขวบไปย้อมผมสีดำ แถมล้อว่าน้าเป็นตุ๊ด

กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่กำลังกลายเป็นที่พูดถึงในขณะนี้เกี่ยวกับเรื่องของคุณครูกับนักเรียน ในครั้งนี้เป็นเรื่องของสมาชิกเว็บไซต์พันทิป สมาชิกหมายเลข 5016739 ที่ได้มาตั้งกระทู้ถามความคิดเห็นชาวพันทิปในหัวข้อ

“ลูกสาว 4 ขวบ ถูกครูที่โรงเรียนว่าให้กลับมาย้อมผมสีดำ”

คุณแม่ได้ให้รายละเอียดว่า ลูกสาวของตนอายุ 4 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเธอได้ไปรับลูกที่โรงเรียนตามปกติ คุณครูได้แจ้งกับเธอว่า ให้น้องไปย้อมผมกลับเป็นสีดำ เพราะผมสีน้ำตาลมันผิดระเบียบ

และคุณแม่ก็ยืนยันกับทางคุณครูว่า ลูกสาวมีผมสีน้ำตาลอ่อนตามธรรมชาติ ไม่เคยทำสีผม เพราะคงไม่มีพ่อแม่ที่ไหนให้ลูกย้อมผมตั้งแต่ 4 ขวบ มีแต่สารเคมีทั้งนั้น

ทางคุณครูก็สวนกลับมาว่า  “น้องไม่ใช่เด็กลูกครึ่ง เคยเห็นพ่อก็เป็นคนไทยไม่น่าจะผมสีนี้ได้ ยังไงทางโรงเรียนก็ต้องให้น้องทำผมสีดำให้ถูกระเบียบ ถ้าไม่ทำก็ให้คุณแม่พาออกไปเรียนโรงเรียนอินเตอร์ดีกว่าค่ะ ถ้ายังเรียนที่นี่มันเป็นตัวอย่างไม่ดีให้เด็กคนอื่น “

ทั้งนี้คุณแม่ยังเสริมอีกว่า เธอเคยให้น้องที่เป็นสาวประเภทสองไปรับลูกสาวที่โรงเรียน พอกลับมาลูกบอกว่า “ไม่ให้น้าไปรับแล้วได้ไหม โดนครูล้อว่าน้าเป็นตุ๊ด”

คุณแม่ได้ตั้งคำถามกับชาวพันทิปเอาไว้ว่า

1. ควรให้ลูกออกจากโรงเรียนนี้แล้วย้ายไปโรงเรียนเอกชนดีไหม

2. หรือควรเอาเรื่องคุณครูคนนี้ แล้วให้ลูกเรียนต่อที่นี่ เนื่องจากคิดว่าโรงเรียนรัฐบาลวิชาการแน่นกว่าเอกชน

ตัวอย่างความเห็นของชาวพันทิป

.

ท้ายที่สุดคุณแม่ได้มาอัปเดตหลังจากที่ได้ไปคุยกับผอ.โรงเรียนแห่งนี้เป็นที่เรียบร้อย สรุปดังนี้

1. ตอนที่ครูถามน้องว่าทำไมผมสีนี้ น้องตอบว่า แม่ทำให้ตามประสาเด็ก ครูเลยคิดว่าแม่ย้อมสีผมให้น้อง

2. ผอ. บอกว่าน้องไม่ต้องไปย้อมสีดำหรือทำอะไรกับผมแล้ว ผอ.เชื่อว่าเป็นสีธรรมชาติ

3. เรื่องเหยียดเพศ ล้อว่าน้าเป็นตุ๊ด ครูบอกว่าไม่เคยล้อ แต่น้องเล่นกับลูกสาวเสียงดัง ครูเห็นแล้วขำเพราะตลกดี

4. คุณแม่สวนกลับว่า ขำในสิ่งที่เขาเป็นมันไม่ควร โลกเปลี่ยนไปแล้ว อย่าใจแคบ ทางครูเลยตอบกลับมาว่า “แล้วถ้าลูกสาวคุณเป็นทอมคุณจะโอเคหรอคะ”

5. คุณแม่ตอบกลับว่า “เป็นอะไรก็เป็นไปเรารับได้และสนับสนุนหมด แต่ถ้าลูกเรากลายเป็นคนแบบคุณเราคงรับไม่ได้อ่ะค่ะ”

6. คุณแม่เตรียมให้น้องย้ายโรงเรียนตอนอนุบาล 3 เพื่อความสบายใจของครอบครัว

แล้วคุณล่ะคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้

ที่มา สมาชิกหมายเลข 5016739