นักโบราณคดีเผย การขุดค้นสุสานขนาดใหญ่ ซึ่งถูกท่วมไปด้วย “ซุปมัมมี่” ในประเทศอียิปต์

เป็นเรื่องที่รู้กันว่าในช่วงปีที่ผ่านมา ประเทศอียิปต์ได้มีการค้นพบสุสานโบราณที่มีสภาพสมบูรณ์มากๆ อยู่หลายแห่ง จนทำให้หลายๆ คนติดภาพลักษณ์ว่าโบราณสถานที่ถูกพบในอียิปต์จะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เสมอๆ ไป

แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา นักโบราณคดีก็ได้ออกมาเปิดเผยข่าวการขุดค้นสุสานขนาดใหญ่ซึ่งถูกน้ำท่วมแห่งหนึ่งที่เหมืองหินใกล้ๆ แม่น้ำไนล์ ในประเทศอียิปต์

 

 

ที่จริงแล้วสุสานแห่งนี้ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 2016 แต่การขุดค้นกลับเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากตัวสุสานหลายส่วนได้ถูกน้ำขังมาเป็นเวลานาน และผสมกับซากศพข้างใน จนกลายเป็นสิ่งที่นักโบราณคดีเรียกกันเล่นๆ ว่า “ซุปมัมมี่”

น้ำที่ขังอยู่นั้นขุ่นมากจนมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใต้เลย นักโบราณคดีจึงต้องให้เวลาในการสูบน้ำออกจนอยู่ในระดับที่พวกเขาจะเดินลุยเข้าไปได้ เพื่อที่จะสำรวจสุสานต่อไป

 

 

จากการตรวจสอบอายุของสุสานแห่งนี้ นักโบราณคดีก็ได้ออกมาบอกว่านี่เป็นสุสานที่มีการใช้งานในช่วงราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์ หรือราวๆ 3,550 ปีก่อน ซึ่งมีความใกล้เคียงกับอายุของเหมืองหินใกล้ๆ

โดยในสุสานมีแบ่งได้เป็นห้องใหญ่ๆ สองห้อง แต่ในปัจจุบันเหล่านักโบราณคดียังสามารถเข้าไปตรวจสอบห้องได้เพียงห้องเดียวเท่านั้น

 

 

แต่เพียงแค่ห้องหนึ่งห้องที่สามารถเขาไปได้ นักโบราณคดีก็พบโลงศพหินกับโครงกระดูกรวมกว่า 50 ร่าง โดย 1 ใน 3 โครงกระดูกที่พบ เป็นของเด็กเล็ก และทารกแรกเกิด

ส่วนสาเหตุที่สุสานแห่งนี้โดนน้ำท่วมนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่ว่าจะเกิดจากความผิดพลาดในการปล้นสุสานของโจรในอดีต จนทำให้น้ำจากแม่น้ำทะลักเข้ามาในสุสานนั่นเอง

 

 

ในเวลานี้ทางนักโบราณคดีกำลังทำการตรวจสอบโลงศพที่สามารถเก็บกู้ออกมาจากตัวสุสานอยู่ และมีกำหนดการที่จะขุดค้นสุสานในส่วนที่ไม่สามารถเข้าไปได้กันต่อไปในอนาคต

 

ที่มา livescience ภาพและข้อมูลจาก gebel el silsila project 2018

Comments

Leave a Reply