ย้อนรอย “ปีศาจโดเวอร์” สัตว์ประหลาดปริศนาที่เป็นที่หวาดกลัวของวัยรุ่นเมื่อปี 1977

เคยได้ยินเรื่องของ “ปีศาจโดเวอร์” กันไหม? มันเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับหรือไม่ก็มนุษย์ต่างดาว ที่เชื่อกันว่าปรากฏตัวที่เมืองโดเวอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ในปี 1977

เรื่องราวของปีศาจตัวนี้ เริ่มต้นขึ้นในเดือนเมษายน เมื่อมีเด็กวัยรุ่นหลายคน พบกับเหตุการณ์คล้ายๆ กัน โดยพวกเขาบอกว่าเห็น “สิ่งมีชีวิตประหลาด” ที่มีดวงตาสะท้อนแสงขนาดใหญ่ หัวโต และฝ่ามือเรียวยาวคล้ายไม้เลื้อย

 

 

ผู้เห็นเหตุการณ์คนแรกคือวิลเลียม บาร์ทเล็ทท์ วัย 17 ปี ในระหว่างที่เขากำลังขับรถกลับจากงานเลี้ยงกับเพื่อนอีกสองคน โดยเขาบอกว่าสิ่งที่เขาเห็นมันกำลังเดินไปตามกำแพงโดยใช้นิ้วมืออันยาวของมันไต่ตามก้อนหิน และมีลักษณะโดยรวมน่าเกลียดน่ากลัวมาก

ส่วนเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์แรกราวๆ 2 ชั่วโมง จอห์น แบกซ์เตอร์ อายุ 15 ปี ขณะกำลังเดินกลับมาจากบ้านแฟนสาว และอธิบายลักษณะของสิ่งที่เห็นไว้ใกล้เคียงกับวิลเลียมมากๆ

 

ภาพที่ จอห์น แบกซ์เตอร์ใช้อธิบายสิ่งที่เขาเห็น

 

ในตอนแรกคนส่วนใหญ่ชื่อว่าเด็กทั้งสองนั้นน่าจะตาฝาดไปเอง แต่ในคืนต่อมานั้นเอง แอ็บบี อับราฮัม อายุ 15 ปี และ วิลล์ เทนเตอร์ อายุ 18 ปีก็ออกมาบอกว่าพวกเขาก็พบกับ ปีศาจโดเวอร์ เช่นกัน

เมื่อข่าวนี้ได้แพร่กระจายออกไป ก็มีคนมากมายที่พยายามเข้ามาพิสูจน์สิ่งที่เด็กๆ ทั้ง 4 คนเห็น และก็เป็นในช่วงนี้เองที่พวกเขาพบว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพูดถึงสิ่งมีชีวิตประหลาดในที่แห่งนี้

 

ภาพที่ วิลเลียม บาร์ทเล็ทท์ใช้อธิบายสิ่งที่เขาเห็น

 

นั่นเพราะในอดีต มีตำนานใหญ่ๆ เกิดขึ้นในพื้นที่ละแวกนี้มาแล้วอย่างน้อยๆ สองอย่าง ได้แก่ตำนานที่ว่ามีขุมทรัพย์ปริศนาถูกฝังอยู่ที่นี่ และตำนานปีศาจบนหลังม้าจากยุคปี 1600

เท่านั้นยังไม่พอเพราะปีศาจโดเวอร์ยังไปคล้ายกับปีศาจในตำนานพื้นเมืองของอินเดียนแดงเผ่าครี อีกด้วย ทำให้เรื่องราวของพวกเขายิ่งฟังดูน่าขนลุกเข้าไปอีก

คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นไปได้มากที่สุดของสิ่งที่เด็กๆ เหล่านี้เห็น คือปีศาจโดเวอร์น่าจะเป็นเพียงลูกกวาง หรือลูกม้าที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน และถูกมองเป็นปีศาจจากความกลัวเท่านั้น

 

 

อย่างไรก็ตามเดือนเมษายนไม่ใช่ช่วงที่ลูกม้ามักจะเกิด แถมกวางมูสเองก็หายไปจากพื้นที่โดเวอร์ค่อนข้างนานแล้วด้วย

นั่นทำให้เรื่องราวของปีศาจโดเวอร์กลายเป็นเรื่องที่ยังไขไม่ออกแม้ในปัจจุบัน และกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานประจำเมืองที่น่าสนใจแห่งโดเวอร์ไปด้วยเหตุนี้

 

ที่มา allthatsinteresting

Comments

Leave a Reply