ซื้อบ้านหรู 25 ล้านบาท รั่วซึมทั้งหลัง แก้ไข 5 เดือนไม่เสร็จ-ผุดจุดใหม่เพิ่ม จนเข้าอยู่ไม่ได้

การจะซื้อบ้านดีๆ อยู่สักหลัง จะต้องประเมินทุกอย่างให้ถี่ถ้วนในทุกองค์ประกอบบ้าน หากคิดจะซื้อบ้านด้วยมูลค่าแพงๆ เพราะคิดว่าบ้านจะต้องดี จะต้องไม่มีปัญหา อยู่ในโครงการใหญ่ บริษัทมีความน่าเชื่อถือ อาจจะไม่ใช่อย่างคิดเสมอไป…

เรื่องราวความหนักใจของคุณ Kimchi Kim ที่ได้ทำการตกลงซื้อบ้านกับโครงการใหญ่โครงการหนึ่ง ด้วยความเชื่อมั่นในตัวบริษัทผู้รับผิดชอบโครงการ จึงตกลงจ่ายเงินซื้อบ้านไปในมูลค่า 25.3 ล้านบาท ทั้งนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพบ้านไปถึง 3 ครั้งก่อนจะโอนบ้าน แต่ทว่าปัญหากลับงอกเงยมาตลอด 5 เดือน

 

 

แม้จะให้ทางโครงการทำการแก้ไขงานแล้วก็ยังไม่หมด แก้ไขเสร็จ ฝนตกใหม่ ก็ยังคงรั่วตลอด แถมยังเจอจุดรั่วใหม่เพิ่มเติมอีก ซึ่งเป็นแบบนี้มานานถึง 5 เดือน ยังไม่สามารถเข้าอยู่ได้…

 

ด้านหน้าตัวบ้าน

.

.

 

 

อีกทั้งยังพบรอยร้าวบริเวณผนังด้านในบ้านตรงโถงบันได รอยร้าวบริเวณผนังด้านนอกบ้าน รวมถึงการพบจุดที่ไม่ได้ฉาบปูนที่อิฐมวลเบาด้วย ทั้งๆ ที่ควรจะมีการฉาบปูน

ซึ่งหากคิดว่าต้องผ่อนหนี้บ้านหลังนี้ไปอีก 30 ปี โดยที่บ้านยังคงมีปัญหาตามมาอีกมากมาย อาจจะทำให้เกิดความบานปลาย โดยที่ประกันก็เหลือเพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้น…

 

.

.

.

 

ราขึ้นบนฝ้า

.

.

.

 

คราบเต็มบ้านแทบทุกชั้น

.

.

.

 

ข้อความปิดท้ายจากต้นโพสต์

“เราไม่เคยคิดเลยว่า การตัดสินใจซื้อบ้านกับบริษัท – บริษัทใหญ่ และมีชื่อเสียงในครั้งนี้ จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งร้ายแรงที่สุดในชีวิต ไปดูบ้านทุกครั้ง กลับมาร้องไห้ทุกครั้ง

บ้านที่เราซื้อมาไม่ได้ฉาบปูนที่อิฐมวลเบา แล้วตำแหน่งอื่นๆ ในบ้านหละจะเป็นยังไง แค่คิดว่าต้องผ่อนหนี้บ้านหลังนี้ไปอีก 30 ปี โดยที่บ้านอาจปัญหาตามมาอีกมากมาย ซึ่งตอนนี้ประกันก็เหลืออีกแค่ 7 เดือนเท่านั้น ยิ่งคิดยิ่งเครียด

ท้อยิ่งกว่าท้อ ตำแหน่งใหม่ที่พบน้ำรั่ว วิศวกรที่ทำหน้าที่ดูแลซ่อมบ้านก็รู้ทั้งรู้ แต่ไม่เคยบอก เราต้องมาตรวจบ้านถึงมาเห็นเอง หรือตอนก่อนโอนบ้านก็ตรวจพบความชื้นที่ผนังห้องรับแขกชั้น 1

ซึ่งวิศวกรโครงการบอกว่าเป็น Design defect (ผนังชื้นจากต้นไม้ที่ปลูกอยู่ติดบ้าน) เราก็ดันเชื่อ หรือบอกว่าจะพา QC มาช่วยดู ก็ไม่ใช่ QC จริงๆ

ความรู้สึกตอนนี้ เหมือนพนักงานทุกคนในบริษัททำดีกับเราแค่ต่อหน้า แท้จริงก็ช่วยปกปิดปัญหาของบริษัทตัวเอง

ใครพอจะมีความรู้หรือข้อแนะนำ ขอรบกวนช่วยหน่อยนะคะ เราเครียดมากจริงๆ ตอนนี้มืดมิดหาทางออกไม่ได้เลย”

 

ที่มา: @kimchi.kim.33