ย้อนรอย โครงกระดูกจูบกัน อายุ 2,800 ปี ความรักเหนือความตาย ที่มีเรื่องราวมากกว่าที่คุณคิด

เคยได้ยินเรื่องราวของ “Hasanlu Lovers” กันมาก่อนไหม? มันเป็นชื่อของโครงกระดูกสองร่างที่ถูกพบในปี 1972 ที่แหล่งโบราณคดี Teppe Hasanlu ในประเทศอิหร่าน และมีลักษณะพิเศษอยู่ที่ทั้งคู่นั้นตายไปโดยที่กำลังกอดจูบกัน

 

 

Hasanlu Lovers ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย โดยคาดกันว่ามีอายุถึง 2,800 ปี และถูกมองมาเป็นตัวอย่างที่ดีของ “ความรักเหนือความตาย” เลยทีเดียว

ว่าแต่รู้หรือไม่ว่าเรื่องราวของ Hasanlu Lovers นั้นมีอะไรมากกว่านั้น เพราะจากหลักฐานทางโบราณคดีดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเป็นจะเป็นชาวเมือง Teppe Hasanlu ที่เสียชีวิตในช่วงที่เมืองกำลังจะล่มสลาย

 

 

เป็นไปได้ว่าผู้ที่ทำลายเมืองดังกล่าวจะเป็นกองทัพของอาณาจักร Urartu (ชาวอาร์มีเนียในปัจจุบัน) และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 800 ปีก่อนคริสตกาล

โดยนอกจากร่างของ Hasanlu Lovers แล้ว ในพื้นที่เมืองแห่งนี้ยังมีการค้นพบโครงกระดูกของชาวเมืองที่ถูกสังหารอีกเป็นจำนวนมากอีกด้วย

 

 

เท่านั้นยังไม่พอ เรื่องที่ว่าทั้งคู่เป็นคนรักกันจริงๆ หรือไม่ก็ยังเป็นเรื่องที่มีการตั้งข้อสงสัยอยู่เช่นกัน

เพราะจากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์ แม้ว่าโครงกระดูกร่างหนึ่งของ Hasanlu Lovers นั้นจะเป็นของผู้ชายอายุราวๆ 18-22 ปี แต่อีกร่างหนึ่งกลับไม่สามารถระบุเพศได้ และมีอายุอยู่ในช่วง 30-35 ปีเลยทีเดียว

 

 

หากทั้งสองเป็นเพศชาย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบอกว่าทั้งสองเป็นคู่รักร่วมเพศกัน แต่จากความห่างของอายุก็ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าทั้งคู่น่าจะมีความสัมพันธ์ในฐานะพ่อ-ลูก (หรือแม่-ลูก) มากกว่า

และต่อให้เป็นเช่นนั้นจริงๆ การที่พ่อแม่จะจูบลาลูกเป็นครั้งสุดท้ายก็นับเป็นการแสดงความรักที่ยิ่งใหญ่ของคนเป็นพ่อเป็นแม่อยู่ดี

 

ที่มา allthatsinterestingrarehistoricalphotos

Comments

Leave a Reply