“นาซิโน แอฟแฟร์” เหตุการณ์สุดโหดจากคำสั่งของสตาลิน ที่ทำให้คนฆ่าและกินกันเองบนเกาะร้าง

การต่อสู้กันของคนกลุ่มหนึ่งบนพื้นที่ปิดแบบในเรื่องฮังเกอร์เกมส์ หรือแบทเทิลรอยัลนั้น เป็นเรื่องที่อาจจะฟังดูน่าสนุก แต่นั่นก็เป็นเพราะเราทราบกันดีว่าสิ่งที่เห็นเป็นเพียงแค่เรื่องแต่งขึ้นเท่านั้น

แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมนุษย์โดนจับไปขังรวมกันในเกาะร้าง ก่อนจะปล่อยให้ฆ่ากันเองเพื่อความอยู่รอดบนโลกจริงๆ เพราะนี่ชื่อสิ่งที่โจเซฟ สตาลินเคยทำกับนักโทษของเขานั่นเอง

 

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เรียกกันว่า “นาซิโน แอฟแฟร์” (Nazino Affair) เกิดขึ้นในช่วงปี 1933 ที่สตาลิน และพรรคพวก ออกคำสั่งให้จับใครก็ตามที่ “ทำความผิด” และส่งไปค่ายใช้แรงงานในไซบีเรีย

อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงฉากหน้าเท่านั้น เพราะค่ายใช้แรงงานที่ว่าส่วนหนึ่งไม่มีเครื่องมือทำงานอยู่เลยด้วยซ้ำ และเอาเข้าจริงๆ ที่เหล่านั้นส่วนมากก็เป็นเพียงสถานที่ที่สตาลินเอา “ผู้ที่ไม่เหมาะสมกับสหภาพโซเวียต” มาขังไว้เฉยๆ เท่านั้น

โดยหนึ่งในค่ายใช้แรงงานที่ว่าก็คือเกาะนาซิโน ซึ่งมีคนถูกส่งมาถึง 5,000-6,000 ราย แถมในจำนวนนั่น ยังมีนักโทษถึง 27 รายที่ตายไปเพราะความอดอยากก่อนจะมาถึงเกาะนี้อีกด้วย

 

เกาะนาซิโน บางครั้งก็ถูกเรียกว่า “เกาะกินคน”

 

แต่คนที่ตายไปก่อนนั้นอาจจะถือว่าโชคดีแล้วก็ได้ เพราะในเวลาต่อมาคนที่อยู่บนเกาะกเริ่มรับรู้ถึงความโหดร้ายที่พวกเขาต้องเผชิญ

นั่นเพราะที่เกาะนี้มีอาหารไม่เพียงพอต่อคนทั้งหมด เพาะปลูกยาก จะต่อแพหนีส่วนมากแพก็จมไประหว่างทางก่อน แถมต่อให้ล่องแพออกไปได้จริงทางโซเวียตก็เตรียมทหารเฝ้าน่านน้ำไว้แล้วอีกด้วย

 

 

นั่นทำให้เกิดการแย่งชิงเสบียงที่เหลืออยู่น้อยนิดกันในหมู่คนบนเกาะ จนนักโทษบางคนต้องกินแป้งละลายน้ำ และเริ่มลุกลามไปเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่คนบนเกาะเริ่มฆ่ากันเองเพื่อกินเนื้อมนุษย์เลย

ความโกลาหลในครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องไปเป็นเดือนๆ จนในที่สุดเมื่อเดือนมิถุนายนปีนั้นนักโทษทั้งหมดบนเกาะ ก็เหลืออยู่เพียงแค่ราวๆ 2,000 คนเท่านั้น

 

 

พวกเขาถูกส่งตัวไปยังค่ายใช้แรงงานอื่นๆ ในเวลาต่อมา แต่สถานที่ที่พวกเขาถูกส่งไปจะทำให้พวกเขามีความเป็นอยู่ดีขึ้นหรือไม่นั้น ก็ยังเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องไปลุ้นกันอีกทีอยู่ดี

เพราะแม้ว่าเรื่องของพวกเขาพบจะโหดร้ายเพียงไหน พวกเขาก็เป็นเพียงผู้เสียหายส่วนเล็กๆ ในช่วงเวลาที่มีชาวโซเวียตกว่าล้านคนต้องถูกส่งไปยังค่ายกักกันนั่นเอง

 

 

ที่มา allthatsinteresting

Comments

Leave a Reply