Tessa Snyder จากเด็กสาวที่เสียขาจากโรคมะเร็ง เดินตามฝันสู่นางแบบสุดฮอต

มนุษย์หลายๆ คนที่เกิดมา ย่อมมีความฝัน ซึ่งในระหว่างทางของการไล่ล่าความฝัน บางคนก็อาจจะเจอกับอุปสรรคต่างๆ จนท้อและตัดสินใจไม่ตามความฝันอีกต่อไป

แต่เรื่องราวของหญิงสาวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ชมกันในวันนี้ ได้สอนให้เรารู้ว่าแม้ว่าชีวิตของเราจะเจอกับอุปสรรคหนักหนาเพียงใด แต่เราก็ยังไปถึงฝันได้ถ้ามีความพยายามมากพอ

พบกับ Tessa Snyder สาวสวยวัย 29 ปี เธอเป็นนางแบบที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ ตรงที่เธอต้องสูญเสียขาไปจากโรคมะเร็งเมื่อยังเด็ก แต่อย่างไรก็ตามเธอก็สู้จนกลายมาเป็นนางแบบเหมือนทุกวันนี้ได้

 

 

ย้อนกลับไปในช่วงปี 2000 ขณะที่เธออายุประมาณ 11 ขวบ Tessa มีอาการบาดเจ็บบริเวณขา ซึ่งในตอนแรกก็ไม่เจ็บปวดมากสักเท่าไหร่ แต่พอเวลาผ่านไปกลับค่อยๆ เจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ

จนในวันหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดจนถึงขั้นน้ำตาไหล เธอถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการ MRI และทราบผลว่าขาขวาของเธอเป็นมะเร็งกระดูกชนิดร้ายแรง

 

 

หลังจากที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งชนิดร้ายแรงแล้ว เธอจึงไม่มีทางเลือกที่ต้องเข้ารับการทำคีโม ซึ่งก่อนที่เธอจะเข้ารับการทำคีโม เธอมีผมสีบลอนด์ยาวสวย แต่ก็ต้องเสียมันไปจากการทำคีโม…

เธอรู้สึกเหมือนการเข้ารับคีโมพรากทุกอย่างไปจากเธอ และแม้ว่าเธอจะเข้ารับการรักษาก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าสุขภาพของเธอจะไม่ดีขึ้นเลย

 

 

จนกระทั่งการรักษาผ่านไป 2 เดือน เนื่องจากการรักษาที่ผ่านมา มีโอกาสที่เชื้อมะเร็งจะกลับมาแพร่ใหม่ แพทย์จึงได้เสนอทางเลือกใหม่ให้แก่เธอ นั่นคือการตัดขาออกกันเชื้อลุกลาม

ฝ่ายพ่อแม่ของเธอ อยากให้เธอเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้เองและในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้ว่าจะตัดขาของตน เพราะจะได้ไม่ต้องทนมารักษาอีกต่อไป

 

 

หลังจากตัดขาออก เธอก็รู้เหมือนกับได้เป็นคนใหม่ เธอพยายามที่จะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม แต่เธอก็ต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตโดยใช้อวัยวะเทียมด้วย แม้ว่าจะยาก แต่เธอก็ยืนยันว่าจะสู้ต่อ

แต่การใช้ชีวิตกับอวัยวะเทียมดูเหมือนจะไม่ง่ายสักเท่าไหร่ เธอเผยว่าช่วงเวลาที่เธอเข้าเรียนคือช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดในชีวิตของเธอ เพราะเธอรู้สึกว่าเธอแปลกกว่าคนอื่น เธอรู้สึกว่าเธอไม่ควรอยู่ในที่แห่งนั้น

รวมถึงยังกลัวที่เพื่อนๆ จะไม่ยอมรับเธออีกด้วย แต่ทั้งหมดก็เป็นสิ่งที่เธอกลัวไปเอง เพราะทุกคนยังปฏิบัติกับเธอเหมือนปกติ

 

.

 

ผ่านมาหลายปีกับการใช้ชีวิตร่วมกับอวัยวะเทียม ซึ่งก็มีทั้งวันที่เธอไม่อยากใส่ วันที่เธอรู้สึกเจ็บ แต่เธอก็คิดว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้และมันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

20 ปีผ่านมาด้วยความใจสู้และคิดบวกของเธอในที่สุดเธอก็สามารถเดินตามฝัน กลายเป็นนางแบบ และยังได้พบเจอกับคนที่รักรวมถึงมีลูกน้อยๆ ด้วยกันอีกด้วย

 

 

สุดท้ายนี้ เธอก็หวังว่าเรื่องราวของเธออาจจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนที่กำลังท้อหรือเจออุปสรรคต่างๆ ในชีวิต ให้สู้และผ่านมันไปได้ครับ

 

ที่มา Boredpanda, Mirror

Comments

Leave a Reply