นักวิทยาศาสตร์ยืนยัน “ภาชนะประหลาด” จากยุคสำริด มีร่องรอยว่าเคยใส่ “ฝิ่น”

เมื่อหลายสิบปีก่อนได้มีการค้นพบภาชนะรูปร่างแปลกตาในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีอายุมากกว่า 3,000 ปี ซึ่งเชื่อกันว่าเคยถูกใช้ในการค้าขายในช่วงยุคสำริดหรือ 1650-1350 ปีก่อนคริสตกาล

 

 

แต่ภาชนะไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าสนใจเพียงอย่างเดียวของการค้นพบในครั้งนี้ เพราะจากการวิจัยของประเทศอังกฤษ เจ้าสิ่งที่อยู่ข้างในภาชนะเหล่านี้มาก่อนมันคือ “ฝิ่น” นั่นเอง

นี่เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1960 จากความสงสัยในรูปร่างอันแปลกประหลาดของภาชนะที่ใส่ แต่กว่าที่เราจะหาหลักฐานมายืนยันทฤษฎีนี้ได้ก็เมื่อไม่นานมานี้เท่านั้น

 

 

เพราะจากการตรวจสอบของมหาวิทยาลัยยอร์ก นักวิทยาศาสตร์พบว่าภายในของภาชนะรูปร่างแปลกนี้เคยมีการบรรจุน้ำมันพืชซึ่งมีส่วนผสมของโอเปียม อัลคาลอยด์ ซึ่งพบในฝิ่นเอาไว้

ตามปกติโอเปียม อัลคาลอยด์มักถูกผสมในยาที่มีฤทธิ์ค่อนข้างรุนแรงอย่าง ยาแก้ปวด ยามอร์ฟีน และโคเดอีน จึงเป็นไปได้ว่าน้ำมันที่พบนี้อาจจะใช้ในการทาตามร่างกายเพื่อเป็นยา หรืออาจจะใช้เป็นน้ำหอม

แต่ถึงจะรู้ว่ามีอะไรอยู่ภายใน นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถอธิบายได้อยู่ดีว่าทำไมภาชนะที่ใช้ใส่น้ำมันที่พบจึงจำเป็นต้องมีรูปร่างแปลกตาขนาดนั้น และมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าภาชนะที่พบเพียงแค่ถูกนำมาใส่น้ำมันหลังจากที่เคยใส่ฝิ่นเท่านั้น

 

 

อย่างไรก็ตาม Rebecca Stacey หนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ได้อธิบายว่าตัวอย่างภาชนะที่นักวิทยาศาสตร์มีอยู่ไม่มาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผลทดลองครั้งนี้อาจจะมีความคลาดเคลื่อนไปจากสินค้าที่ใช้ขายจริงในสมัยนั้น

แต่การที่พบร่องรอยของฝิ่นก็ทำให้เกิดข้ออภิปรายใหม่ๆ ที่น่าสนใจของภาชนะที่พบได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีหลักฐานการใช้ฝิ่นในสมัยก่อนของมนุษย์ด้วย เพราะหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดของการใช้ฝิ่นสามารถย้อนไปได้ถึงในช่วง 6,000-5,000 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว

 

 

ที่มา livescienceindependentdailymail

Comments

Leave a Reply