ในปี 1925 ปีมัมมี่เก่าแก่ชิ้นหนึ่งถูกบริจาคมายังพิพิธภัณฑ์ Maidstone ในอังกฤษ มันเป็นโลงศพของมัมมี่ขนาดเล็กที่เคยถูกเชื่อกันว่าเป็นของนกเหยี่ยวจากสมัยอียิปต์โบราณที่มีอายุราวๆ 2,100 ปี
แต่จากการศึกษาร่างของมัมมี่ที่พบอย่างละเอียดในปี 2018 นี้เอง นักวิทยาศาสตร์ก็ได้พบกับเรื่องไม่น่าเชื่อเกี่ยวกับมัมมี่ร่างนี้เข้าจนได้
เพราะเมื่อพวกเขาใช้เทคโนโลยีซีทีสแกนในการตรวจสอบร่างของมัมมี่ข้างในโลง โดยไม่จำเป็นต้องเปิดโลงออก และพบว่า สิ่งที่อยู่ในโลงศพดังกล่าว ไม่ใช่ “นกเหยี่ยว” แต่เป็น “ทารก” ของมนุษย์
นี่คือร่างของมัมมี่ทารกซึ่งคลอดออกมาตาย ที่คาดกันว่ามีอายุราวๆ 23-28 สัปดาห์ และได้รับการทำเป็นมัมมี่อย่างประณีต ราวกับว่ามัมมี่ที่พบมีความพิเศษกว่ามัมมี่ทั่วๆ ไป
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าที่เป็นเช่นนี้ น่าจะมาจากการที่ทารกคนดังกล่าวมีร่องรอยการเป็นโรค “Anencephaly” หรือ “มนุษย์กบ” อันเป็นความพิการ ซึ่งทำให้ส่วนหัวของทารกมีลักษณะบิดเบี้ยวคล้ายนกหรือกบ
และรูปร่างอันบิดเบี้ยวนี้เองที่ทำให้ทารกคนนี้มีความพิเศษ เพราะการที่คนมีหัวเป็นนกทำให้เขามีรูปร่างคล้ายเทพในสายตาของคนอียิปต์โบราณ
เป็นไปได้ว่าในสมัยก่อนมัมมี่ร่างนี้อาจถูกเชื่อว่ามีพลังอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตามเราไม่มีหลักฐานของคนที่พยายามใช้ “พลัง” ของมัมมี่ที่พบ หรือแม้กระทั่งสถานที่ซึ่งมัมมี่ร่างนี้ถูกฝัง
จริงอยู่ว่ามัมมี่ที่พบนั้นยังคงมีสิ่งที่เราไม่รู้อีกมาก แต่การที่ได้ทราบว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่อยู่ในโลงศพไม่ใช่เหยี่ยวแต่เป็นทารก ก็นับว่าเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่มากๆ ชิ้นหนึ่งอยู่ดี
ที่มา livescience, ancient-origins
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.