สงครามโลกครั้งที่สองถือว่าเป็นสงครามที่ส่งผลกระทบให้กับผู้คนแทบทุกหย่อมหญ้าบนโลกใบนี้ และมันถือว่าเป็นสงครามครั้งที่ยิ่งใหญ่และสร้างความเสียหายให้แก่มนุษยชาติมากที่สุด เท่าที่เคยมีการบันทึกประวัติศาสตร์มา
และนอกจากเหล่าทหารหาญที่ต้องต่อสู้แล้ว ในสนามรบก็ยังมีช่างภาพที่คอยบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้
ด้วยเหตุนี้เองทำให้สงครามโลกครั้งที่สองเต็มไปด้วยภาพที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ทุกเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในสงคราม ย่อมมาพร้อมกับภาพที่ทรงพลังมากขึ้นตามไปด้วย สะท้อนความรุนแรงของสงครามเป็นอย่างดี ดังเช่นภาพต่อไปนี้
พฤษภาคม 1940 ปาฏิหาริย์แห่งดันเคิร์ก
ทหารเยอรมันบุกผ่านเบลเยียมและทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ทำให้การสื่อสารและการขนส่งระหว่างกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรทั้งหมดถูกตัดขาดลง ทหารจำนวนมากจึงล่าถอยมาที่หาด ฝั่งสัมพันธมิตรจึงได้เร่งปฏิบัติการไดนาโม เพื่อช่วยเหลือทหารที่ตกค้าง ด้วยเรือทุกชนิดที่หาได้และนี่คือภาพการช่วยเหลือในครั้งนั้น
7 ธันวาคม 1941 การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
เพิร์ลฮาร์เบอร์ถูกโจมตีอย่างกะทันหันโดยกองทัพญี่ปุ่น จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,400 ราย นี่เป็นการโจมตีที่จุดชนวนความโกรธแค้นของชาวสหรัฐอเมริกา จนนำไปสู่การเข้าร่วมสงครามในเวลาต่อมานั่นเอง
แรงงานหญิงของสหรัฐอเมริกา
เมื่อสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงคราม เหล่าชายหนุ่มที่เคยเป็นแรงงานหลักของอุตสาหกรรมก็ลดลงเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางรัฐจึงได้รับเอาผู้หญิงมาทำงานพวกนั้นแทน ทำลายความคิดเดิมๆ ที่ว่าผู้หญิงทำงานหนักๆ ไม่ได้ไป
นักบินผิวสีจากปี 1942
เมื่อก่อนสหรัฐอเมริกาเคยเชื่อว่าคนผิวสีไม่มีความรู้มากพอที่จะขับเครื่องบินได้ อย่างไรก็ตามเมื่อสงครามเกิดขึ้นแนวคิดนี้ก็เปลี่ยนไป เพราะความต้องการกำลังรบของประเทศทำให้สหรัฐอเมริกาขยายโครงการฝึกอบรมนักบิน จนมีนักบินผิวสีออกมาให้เห็นนั่นเอง
การจลาจลในวอร์ซอ
หลังจากที่เข้ายึดโปแลนด์ได้ ทางนาซีก็เรื่มสังหารชาวยิวเป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดการจลาจลครั้งใหญ่ของชาวโปแลนด์ในเดือน เมษายน 1943 โชคร้ายที่การจลาจลในครั้งนี้จบลงด้วยชัยชนะของทางนาซี ประชาชนกว่า 50,000 รายถูกจับเข้าค่ายใช้แรงงาน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 7,000 ราย
กองกระดูกที่เหลืออยู่ 1944
ชีวิตในค่ายกักกันนั้นไม่ใช่เรื่องที่สบายเลย ครอบครัวจะถูกแยกออกจากกัน ใครที่ทำผิดจะโดนลงโทษอย่างรุนแรง จนมีคนบาดเจ็บล้มตายกันเป็นรายวัน และค่าย Majdanek ในภาพเองก็เป็นค่ายที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดเป็นรองแค่เพียงค่าย Auschwitz อีกด้วย
Taxis to Hell- and Back- Into the Jaws of Death
ชื่อของภาพนี้แปลว่า “รถแท็กซี่ไปนรกและกลับเข้าไปในปากของความตาย” เป็นภาพที่ถ่ายในวันที่ 6 มิถุนายน 1944 หรือที่รู้จักกันในชื่อ D-Day เป็นการยกพลขึ้นฝั่งครั้งใหญ่ของฝ่ายสัมพันธมิตร และเชื่อกันว่าเป็นวันที่มีทหารสหรัฐฯ เสียชีวิตมากที่สุดอีกด้วย
อย่างไรก็ตามความสำเร็จในยุทธการครั้งนี้ก็ทำให้สงครามโลกครั้งที่สองใกล้จุดสิ้นสุดลงไปอีกก้าว
การปลดปล่อยที่ Auschwitz
27 มกราคม 1945 ทหารโซเวียตได้บุกเข้าค่ายกักกันใน Auschwitz และพบกับชาวยิวกว่า 7,600 รายถูกทิ้งไว้โดยทหารนาซี และได้เข้าช่วยเหลือพวกเขาไว้ นอกจากนี้ ทหารโซเวียตยังพบกับภูเขาที่เกิดจากซากศพของเหล่าเชลยผู้เสียชีวิตในค่ายแห่งนี้อีกด้วย
ภาพรางวัลพูลิตเซอร์
อย่างไรก็ตามภาพที่กลายเป็นที่นิยมที่สุดจากสงครามในครั้งนี้คือภาพของการรบที่อิโวจิมา โดยเป็นภาพของเหล่าทหารสหรัฐที่นำธงไปปักยังจุดสูงสุดของเกาะ โดยภาพดังกล่าวมีชื่อเสียงมากจนมีการนำไปทำเป็นอนุสาวรีย์เลยทีเดียว
การรบที่กรุงเบอร์ลิน
ความโด่งดังของภาพที่ที่อิโวจิมาทำให้ทางโซเวียด ทำภาพในรูปแบบคล้ายๆ กันออกมา โดยนี่เป็นภาพจากการรบที่กรุงเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 30 เมษายน 1945 นั่นเอง
การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมา
6 สิงหาคม 1945 เครื่องบินทิ้งระเบิด “Enola Gay” ได้ทำการทิ้งระเบิดปรมาณูลงที่เมืองฮิโรช
วันฉลองชัยชนะต่อประเทศญี่ปุ่น
วันที่ 14 สิงหาคม 1945 มีอีกชื่อว่าวันฉลองชัยชนะต่อประเทศญี่ปุ่น หรือ V-J Day โดยนี่เป็นภาพของกะลาสีคนหนึ่งที่จูบกับผู้ช่วยทันตแพทย์ที่พึ่งจะเจอกันเป็นครั้งแรกเพื่อฉลองชัยชนะของประเทศนั่นเอง
ที่มา history
Advertisement